สิวสามารถรักษาได้ด้วยตัวเอง ด้วยวิธีง่ายๆที่บ้าน เพราะสิวมักเกิดจากการอุดตันของรูขุมขนที่อยู่ใต้ผิวหนัง โดย สิวมักจะเกิดขึ้นเมื่อมีการเกิดการผลิตน้ำมันมากเกินไปในต่อมไขมันใต้ผิวหนัง น้ำมันส่วนมากที่สร้างปัญหาสิวเป็นน้ำมันจากต่อมไขมันที่ชื่อว่าเซบัม (sebum) การอุดตันของเซบัมสามารถเกิดขึ้นได้เนื่องจากหลายสาเหตุ อย่างการติดเชื้อแบทีเรีย การอักเสบบริเวณรูขุมขน และรวมถึงปัจจัยภายนอกอย่างพวกฝุ่น และมลภาวะต่างๆ ซึ่งเราสามารถดูแลรักษาด้วยตัวเองได้
การล้างหน้าให้สะอาดหมดจด วันละ 2 ครั้งอย่างสม่ำเสมอ เพื่อกำจัดสิ่งสกปรก ฝุ่น คราบมันต่างๆ หรือเซบัมที่คงอยู่บนผิวหน้าอาจทำให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรีย หรือเกิดเป็นสิวได้
การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ ที่อ่อนโยนต่อผิว หรือผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีน้ำมันซึ่งเป็นสาเหตุการอุดตันของผิวเป็นส่วนผสม อย่างการใช้โทนเนอร์ช่วยลดความมันบนใบหน้าและปรับสมดุลของผิว หรือเลือกเซรั่มบำรุงผิวที่มีส่วนผสมที่อ่อนโยนช่วยให้ผิวดูเนียนและชุ่มชื้นลดการอักเสบของผิวได้มากขึ้น
ครีมกันแดดจะช่วยปกป้องผิวจากอันตรายในแสงแดดที่สามารถกระตุ้นให้เกิดสิวขึ้นได้ ควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF อย่างน้อย 30+ และเหมาะกับผิวเป็นสิวโดยเฉพาะ และสามารถควบคุมความมันส่วนเกินซึ่งเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดสิว
การดื่มน้ำมีความสำคัญต่อผิวและร่างกาย ควรดื่มน้ำให้ได้ 2.2 ลิตรต่อวันหรือประมาณ 9 แก้ว จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นของผิวและเซลล์ผิว ทั้งยังช่วยกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย
การเลือกรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ จะมีผลต่อร่างกายและผิวพรรณ การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่แล้วปริมาณที่เหมาะสม อาหารที่ควรเลือกรับประทาน เช่น ข้าวกล้องไม่ขัดสี ผักผลไม้ที่ไม่หวานจัด เนื้อสัตว์และธัญพืช เป็นต้น
หลีกเลี่ยงการกดสิวหรือบีบสิว เพราะอาจทำให้เชื้อแบคทีเรียและอาการอักเสบของสิวแพร่กระจายไปบริเวณอื่นบนใบหน้าได้
ลดปริมาณการใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของน้ำมันหรือสารเคมีอันตราย เพราะอาจทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน
การล้างแปรงเครื่องสำอางทุกครั้งหลังใช้ และหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางที่หมดอายุ หรือเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมที่ไม่เหมาะกับผิว
ไม่ควรจับ หรือสัมผัสใบหน้าแรงๆ และไม่แกะหรือจับสิว เพราะอาจไปกระตุ้นให้สิวอักเสบ และทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง
การมาส์กหน้าด้วยสูตรธรรมชาติ จะช่วยขจัดสิ่งสกปรกในรูขุมขน อย่างการมาส์กหน้าด้วยมะเขือเทศ เพราะมะเขือเทศมีสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินสูง อาจช่วยลดการอักเสบ สิว และจุดด่างดำได้ หรือการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์มาส์กหน้าที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวและบำรุงผิวหน้ากระจ่างใสก็ใช้ได้เช่นกัน
ออกกำลังกายเป็นประจำเพื่อเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและลดความเครียดที่อาจส่งผลต่อการเกิดสิว
เพราะผิวของเราต้องการพักผ่อน เพื่อซ่อมแซมและฟื้นฟูผิวของตัวเอง การพักผ่อนอย่างเต็มที่จะช่วยปรับสมดุลร่างกายให้มีการทำงานอย่างปกติ
ปัจจุบันที่สภาพอากาศเต็มไปด้วยปัญหา PM 2.5 และการระบาดโควิด – 19 ทำให้เราต้องใส่หน้ากากอนามัยทุกวัน การเปลี่ยนหน้ากากอนามัยทุกวันจึงจำเป็นเพื่อปกป้องสิ่งสกปรกและแบคทีเรียในหน้ากาก หรือหากใช้หน้ากากผ้าควรซักด้วยน้ำยาซักผ้าเด็กเพื่อป้องกันการระคายเคืองผิวไม่ให้เกิดเป็นสิวอักเสบ
การใช้ยาทารักษาสิว หรือผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการลดสิวอุดตัน จะต้องมีฤทธิ์ที่ช่วยสลายการอุดตันในต่อมไขมันชะลอการหลั่งน้ำมันส่วนเกินได้ หรือมีสารสำคัญที่มีฤทธิ์เร่งการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดลอกออก การใช้ยาทาควรปรึกษาแพทย์ก่อนนำมาใช้
การปรึกษาแพทย์ผิวหนัง หากสิวที่เกิดขึ้นกับมีอาการที่รุนแรงขึ้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาวิธีรักษาที่ถูกต้องของแต่ละบุคคลนั่น
แนะนำผลิตภัณฑ์รักษาสิว
.webp?mw=1200&hash=8184284316DCD2B8A86D2FD282537440)
โฟมล้างหน้าที่เหมาะสำหรับคนที่มีผิวมัน เป็นสิวน้อยถึงปานกลาง ขอแนะนำ Eucerin Pro ACNE SOLUTION SOFT CLEANSING FOAM ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าสำหรับคนที่เป็นสิว สูตรอ่อนโยน ใช้ได้กับทุกสภาพผิวโดยเฉพาะผิวผสม ผิวมันเป็นสิวง่ายและผิวที่มีปัญหาสิว ด้วยส่วนผสมจาก ไดโอแอคทีฟ (Dio-Active) และบิสซาโบลอล (Bisabolol) สารสกัดจากธรรมชาติ ช่วยทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างล้ำลึก ช่วยดูแลผิวให้สิวอุดตันลดลง ลดความมันบนผิวหน้า ไม่ทำให้ผิวหน้าแห้งตึงภายหลังการล้างหน้าพร้อมปรับสมดุลผิว
.webp?mw=1200&hash=C6C141E792F79EBD7A5A8B595AC1399E)
คลีนซิ่งเจลล้างหน้าสำหรับคนมีผิวผสม ผิวมัน ไวต่อการเกิดสิว ผิวแพ้ง่าย เป็นสิวเยอะ ขอแนะนำ Eucerin Pro ACNE SOLUTION CLEANSING GEL ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่มอบความอ่อนโยนต่อผิว แต่มีประสิทธิภาพในการขจัดคราบสกปรก คราบเครื่องสำอาง ได้อย่างล้ำลึก โดยไม่ทำให้ผิวแห้งตึงหลังล้างเสร็จ และเสริมปราการผิวให้แข็งแรง เพราะมีส่วนผสมจากธรรมชาติที่ช่วยสลายความมันอุดตัน แต่ยังคงปรับสมดุลให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นในทุกวัน โดยมีสารสำคัญ อย่าง Salicylic Acid และ 6% Ampho-Tenside ที่ช่วยลดการอุดตันของรูขุมขน พร้อมยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย สามารถขจัดสิ่งสกปรกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
.webp?mw=1200&hash=DF6EC09B43F3EF1E984814CEEA1C43CB)
ผลิตภัณฑ์ลดสิวและรอยสิว หลังจากที่เรารักษาสิวอุดตัน แต่ไม่ว่าสิวประเภทไหนก็อาจทิ้งรอยสิวเอาไว้ได้ จึงควรใช้ เซรั่มจัดการปัญหาสิวซ้ำซาก พร้อมลดรอยสิวเก่าและใหม่ อย่าง Pro ACNE SOLUTION ANTI-ACNE MARK ที่มีสาร Salicylic Acid ช่วยผลัดเซลล์ผิวและสลายสิ่งอุดตันในรูขุมขนที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว และ Licochalcone A ที่ช่วยลดอาการอักเสบและลดการระคายเคืองและฟื้นบำรุงผิว ผสานด้วย Thiamidol สารทรงพลังจากยูเซอรินที่ช่วยลดรอยดำสิวฝังลึก และลดโอกาสในการเกิดรอยสิวซ้ำ
.webp?mw=1200&hash=513C50DDC961E08D74B7486B3B56E945)
ผลิตภัณฑ์ปกป้องผิวจากแสงแดด การปกป้องผิวจากอันตรายในแสงแดดที่สามารถกระตุ้นให้เกิดสิวได้นั้น เป็นอีกวิธีที่ช่วยดูแลปัญหาสิวไม่ให้รุนแรงมากขึ้น การเลือกครีมกันแดดนอกจากจะต้องเหมาะกับสภาพผิวแล้ว ต้องเลือกสูตรที่ช่วยดูแลความมันได้ด้วย เพื่อลดการอุดตัน ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิว SUN DRY TOUCH OIL CONTROL FACE SPF50+ PA+++ กันแดดคุมมันเพื่อผิวมันเป็นสิวง่าย เนื้อสัมผัสแบบดรายทัชบางเบาที่ไม่ทำให้หน้ามันและรู้สึกเหนียวเหนอะหนะ ร่วมกับเทคโนโลยี Oil Control ที่ผสานส่วนผสมของคาร์นีทีนช่วยควบคุมความมันระหว่างวันได้ยาวนานถึง 8 ชม. ลดโอกาสเกิดสิวอุดตัน และดูแลกลไกการซ่อมแซมดีเอ็นเอในผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การดูแลรักษาสิวนั้น มีหลากหลายวิธีในการรักษา และเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาในการดูแลรักษาสิวเพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น อย่างการดูแลตัวเองล้างหน้าให้สะอาด การมาส์กหน้า และต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเพื่อป้องกันไม่ให้สิวเกิดขึ้นซ้ำอีก
ระยะเวลาในการรักษาสิว กี่วันหาย?
ระยะเวลาในการรักษาสิวขึ้นอยู่กับความรุนแรงของสิว และวิธีการรักษาที่ใช้ โดยปกติแล้วการรักษาใช้เวลาประมาณ 4-8 สัปดาห์ แต่ในกรณีที่สิวอุดตันรุนแรงอาจต้องรักษาต่อเนื่องนานเป็นปี
หลังจากรักษาสิวแล้วเป็นรอยสิว ทำอย่างไรดี?
เมื่อสิวหายแล้วก็มักทิ้งรอยสิวไว้บนใบหน้า ที่เป็นปัญหากวนใจตามมาเราจึงต้องรักษารอยสิวให้ผิวกลับมากระจ่างใสซึ่งวิธีรักษารอยสิวมีหลายวิธีอย่างการหลีกเลี่ยงแสงแดด การใช้ครีมลดรอยสิวเป็นต้น
