ออกกำลังกายด้วยตัวเอง

11 วิธีออกกำลังกายที่บ้าน ออกกำลังกายด้วยตัวเองแบบไหนเหมาะกับเรา

อ่านแล้ว 1 นาที
แสดงบทความเพิ่มเติม

การออกกำลังกายที่บ้าน เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับหลายคน ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำหรือผู้ที่ต้องการเริ่มต้นออกกำลังกาย โดยเฉพาะเวลาที่อยู่บ้านนานๆหรือไม่ได้ออกไปไหน ทำให้ร่างกายไม่ค่อยเคลื่อนไหวและไม่ได้เผาผลาญพลังงานจนทำให้หุ่นอาจจะเปลี่ยนแปลงไป


ประโยชน์ของการออกกำลังกายที่บ้าน

การออกกำลังกายด้วยตัวเองที่บ้านค่อนข้างสะดวกและมีประโยชน์มากในหลายๆเรื่อง เหมาะกับคนที่ต้องการลดหุ่น ลดน้ำหนัก หรือต้องการสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกาย

  • ความสะดวกสบาย: ข้อดีที่ชัดเจนที่สุดคือความสะดวกสบาย เพราะไม่จำเป็นต้องเดินทางไปยิมหรือฟิตเนส ซึ่งช่วยประหยัดเวลาและทำให้สามารถจัดเวลาในการออกกำลังกายได้ง่ายขึ้น
  • ความยืดหยุ่น: การออกกำลังกายที่บ้านให้ความยืดหยุ่นในด้านเวลา เพราะสามารถออกกำลังกายได้ตลอดเวลาตามที่ต้องการ และสามารถเลือกระยะเวลาและความเข้มข้นของการออกกำลังกายได้ด้วยตัวเองอีกด้วย
  • ความเป็นส่วนตัว: สำหรับผู้ที่รู้สึกประหม่าหรือไม่ชอบผู้คนเยอะๆ ตอนออกกำลังกายในยิมหรือฟิตเนส การออกกำลังกายที่บ้านจะให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวในการออกกำลังกายโดยไม่รู้สึกถูกจับตามอง
  • ประหยัดค่าใช้จ่าย: การออกกำลังกายที่บ้านสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่า ไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิกยิมหรือฟิตเนส และการออกกำลังกายที่มีประสิทธิภาพจำนวนมากไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ใดๆ เลย
  • โปรแกรมออกกำลังกายที่เหมาะกับตัวเอง: การออกกำลังกายที่บ้านช่วยให้เราสามารถจัดการโปรแกรมการออกกำลังกาย เราสามารถปรับการออกกำลังกายให้เหมาะกับระดับความแข็งแรงและเป้าหมายของเราได้ โดยไม่รู้สึกกดดันหรือเปรียบเทียบกับคนอื่นๆ

ข้อควรระวังของการออกกำลังกายที่บ้าน

แม้การออกกำลังกายที่บ้านจะมีประโยชน์หลายข้อ แต่การออกกำลังกายที่บ้านก็มาพร้อมกับข้อควรระวังเช่นกัน

  • ขาดแรงจูงใจ: การที่เราออกกำลังกายที่บ้านคนเดียว โดยที่ไม่มีคนอื่นเลยอาจจะทำให้ขาดแรงกระตุ้นในการออกกำลังกายได้
  • สิ่งรบกวนต่างๆ: ออกกำลังกายที่บ้านมีสิ่งรบกวน ตั้งแต่งานบ้านไปจนถึงสมาชิกในครอบครัว สิ่งต่างๆ มากมายที่สามารถขัดจังหวะการออกกำลังกายของคุณได้
  • อุปกรณ์จำกัด: แม้ว่าการออกกำลังกายที่บ้านหลายแบบจะไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ออกกำลังกาย แต่การออกกำลังกายบางชนิดก็ยังจำเป็นที่ต้องใช้อุปกรณ์บางอย่างด้วยเช่นกัน
  • ท่าออกกำลังกายที่ไม่เหมาะสม: หากไม่มีเทรนเนอร์คอยแก้ไขท่าของเรา ก็อาจมีความเสี่ยงที่จะออกกำลังกายไม่ถูกต้อง ซึ่งนอกจากจะเสี่ยงกับอาการบาดเจ็บแล้วยังอาจออกกำลังกายไม่ได้ผลลัพธ์เท่าที่ควรอีกด้วย

11 วิธีออกกำลังกายที่บ้าน ออกกำลังกายแบบไหนที่เหมาะกับเรา

การออกกำลังกายที่บ้านด้วยตัวเองมีหลายชนิดให้เลือก แต่ละชนิดก็มีข้อดีและข้อเสียต่างกันไป กุญแจสำคัญคือการหาการออกกำลังกายที่คุณชอบและเหมาะสมกับระดับความฟิตและเป้าหมายของคุณ


บอดี้เวท

การออกกำลังกายบอดี้เวท (Bodyweight Workout)

การออกกำลังกายด้วยตัวเองแบบบอดี้เวทจะใช้น้ำหนักตัวของคุณเองเพื่อเป็นแรงต้าน สามารถทำได้ทุกที่และไม่ต้องใช้อุปกรณ์ใดๆ เช่น

  • วิดพื้น (Pushup): เริ่มต้นในท่า plank ค่อยๆลดร่างกายลงจนหน้าอกเกือบแตะพื้น และดันร่างกายกลับขึ้นไปท่าเดิม ควรเก็บข้อศอกไว้ใกล้กับลำตัวขณะดันตัวขึ้น
  • สคอวท (Squats): ยืนแยกเท้ากว้างเท่าสะโพก งอเข่าและย่อตัวลงเหมือนนั่งเก้าอี้ ให้หน้าอกตั้งตรงและเข่าอยู่เหนือปลายเท้า ค่อยๆดันกลับขึ้นไปยืนในท่าเดิม

ข้อดี: ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ สามารถทำได้ทุกที่ ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่น

ข้อควรระวัง: อาจให้แรงต้านไม่เพียงพอสำหรับผู้ออกกำลังกายจริงจัง และกำหนดกลุ่มกล้ามเนื้อเฉพาะส่วนได้ค่อนข้างยาก


คาดิโอ

การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ (Cardio)

การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอออกแบบมาเพื่อเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจและปรับปรุงสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด สามารถทำได้โดยมีอุปกรณ์หรือไม่มีอุปกรณ์ก็ได้

  • กระโดดตบ (Jumping jacks): ยืนโดยให้เท้าชิดกันและวางมือไว้ข้างลำตัว กระโดดเท้าออกจากกันและยกแขนขึ้นเหนือศีรษะ จากนั้นกระโดดกลับสู่ท่าเริ่มต้นเท้าชิดกันและมืออยู่ข้างลำตัวเหมือนเดิม
  • พุ่งหลัง (Burpees): จากท่ายืน หมอบลงและวางมือบนพื้น กระโดดเท้าไปข้างหลังจนอยู่ในท่า High Plank เริ่มวิดพื้น จากนั้นกระโดดดึงเท้ากลับไปที่มือแล้วยืนขึ้นหรือถ้าต้องการความยากให้กระโดดขึ้นเพื่อเพิ่มความเข้มข้นในการฝึก

ข้อดี: ช่วยเสริมความแข็งแรงของสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด เผาผลาญแคลอรี สามารถทำได้โดยใช้อุปกรณ์เพียงเล็กน้อย

ข้อควรระวัง: อาจทำให้ข้อต่อเสียหายได้ โดยเฉพาะการออกกำลังกายที่มีแรงกระแทกสูง เช่น การวิ่งและการกระโดด


โยคะ

โยคะ (Yoga)

โยคะเป็นการฝึกร่างกายและจิตใจที่ผสมผสานท่าทางต่างๆของร่างกาย การฝึกหายใจ และการทำสมาธิ ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น การทรงตัว และการผ่อนคลายความเครียดได้เป็นอย่างดี

  • ท่าสุนัขก้มหน้า (Downward Dog): เริ่มโดยการเริ่มในท่าคุกเข่า เหยียดมือไปด้านหน้า วางไว้ที่พื้นถัดจากบริเวณไหล่เล็กน้อย มองลงไปที่ฟื้น และออกแรงดันสะโพกขึ้น เหยียดขาตรงและพยายามดันส้นเท้าเข้าหาพื้น ควรวางมือให้มั่นคงและหลังตรง อยู่ในท่านี้ประมาณ 1 นาที พร้อมหายใจช้าๆ จึงค่อยๆกลับมาท่าเดิม
  • ท่าภูเขา (Warrior II): เริ่มโดยยืนแยกเท้าออกจากกัน กางแขนออกขนานกับพื้น หันเท้าขวาออก 90 องศาแล้วงอเข่าขวาลงให้ได้มากที่สุด ยืดแขนออกไปด้านข้างและจ้องมองไปที่มือขวา ค้างไว้ประมาณ 30 วินาที - 1 นาที แล้วค่อยกลับมาท่าเริ่มต้นและเริ่มทำสลับข้างอีกครั้ง

ข้อดี: ช่วยปรับปรุงความยืดหยุ่นและการทรงตัว ลดความเครียด สามารถเริ่มเล่นได้แม้ผู้เริ่มต้นออกกำลังกาย

ข้อควรระวัง: อาจไม่ได้ช่วยเผาผลาญมากนักหรือช่วยเรื่องการฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อได้ไม่เพียงพอสำหรับเป้าหมายการออกกำลังกายของคนที่ต้องการเพิ่มกล้ามเนื้อ


พิลาทิส

พิลาทิส (Pilates)

พิลาทิสเป็นการออกกำลังกายรูปแบบหนึ่งที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อในขณะที่ปรับปรุงการจัดระเบียบร่างกายและความยืดหยุ่นไปด้วย โดยมุ่งเน้นไปที่ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแกนกลาง

  • ท่า The Hundred: นอนหงายโดยหลังราบไปกับเสื่อรอง วางแขนข้างลำตัว งอเข่าและยกขาขึ้นให้ลอยขนานกับพื้น ยกร่างกายท่อนบน (ศีรษะและไหล่) ยกแขนขึ้นและลงในขณะที่หายใจเข้าออกห้าครั้งและหายใจออกอีกห้าครั้ง
  • ท่า Single Leg Stretch: นอนหงาย ยกขาสองข้างขึ้นเหยียดตรง แล้วดึงขาข้างหนึ่งเข้ามาที่หน้าอกในขณะที่ยืดขาอีกข้าง ดึงเข้าหาตัว 2 ครั้งแล้วสลับขาอีกข้างและทำซ้ำ โดยยกศีรษะและไหล่ออกจากเสื่อรอง

ข้อดี: ปรับปรุงความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของแกนกลาง ทำได้โดยใช้อุปกรณ์น้อย ดีสำหรับการฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกาย

ข้อควรระวัง: อาจช่วยเผาผลาญไขมันได้ไม่มาก รวมไปถึงการเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อบริเวณอื่น


bicep curls

การฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ (Strength Training)

การฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ เป็นการออกกำลังกายประเภทที่ใช้แรงต้านทานเพื่อกระตุ้นการหดตัวของกล้ามเนื้อ ซึ่งสร้างความแข็งแรง และมุ่งเน้นไปที่ฝึกความแข็งแรงและขยายขนาดของกล้ามเนื้อ

  • ท่า Bicep curls: ถือดัมเบลโดยให้ฝ่ามือหันไปข้างหน้าและข้อศอกชิดลำตัว งอข้อศอกขึ้นและค้างไว้ซักครู่ จากนั้นค่อย ๆ ลดกลับลงมาตำแหน่งเดิม ช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อหน้าแขน
  • ท่า Shoulder press: ถือดัมเบลที่ความสูงระดับไหล่โดยให้ฝ่ามือหันไปข้างหน้า องศาข้อศอกประมาณ 15 องศาจากร่างกาย ยกดัมเบลขึ้นเหนือหัวจนแขนยืดออกจนสุด จากนั้นค่อยๆลดระดับลงมาที่ตำแหน่งเดิม

ข้อดี: เสริมสร้างกล้ามเนื้อ เพิ่มอัตราการเผาผลาญ เพิ่มความหนาแน่นของกระดูก

ข้อควรระวัง: ต้องใช้อุปกรณ์ อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บได้หากไม่จัดท่าที่เหมาะสม อาจไม่มีประโยชน์ต่อระบบหัวใจและหลอดเลือดมากเท่าไหร่



hiit

การออกกำลังกายแบบ HIIT

High-Intensity Interval Training (HIIT) เป็นการออกกำลังกายแบบเข้มข้นในช่วงเวลาสั้น ๆ สลับกับช่วงพักที่มีความเข้มข้นต่ำ เป็นวิธีที่ดีในการเผาผลาญแคลอรีและปรับปรุงสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด

  • ออกกำลังกายใดๆก็ได้ (เช่น วิ่ง กระโดดตบ สควอท หรือท่า Burpees) โดยทำต่อเนื่องให้เร็วที่สุดเป็นเวลา 20 วินาที จากนั้นพักหรือออกกำลังกายเบาลงเป็นเวลา 10 วินาที ทำซ้ำเป็นเวลา 4 นาทีต่อ 1 เซ็ต

ข้อดี: เผาผลาญแคลอรีจำนวนมากในเวลาอันสั้น ช่วยเสริมเรื่องสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดและกระบวนการเมตาบอลิซึม สามารถออกกำลังกายโดยมีหรือไม่มีอุปกรณ์ก็ได้

ข้อควรระวัง: มีความเสี่ยงสูงต่อการบาดเจ็บหากไม่ได้ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม อาจรุนแรงหรือเหนื่อยเกินไปสำหรับผู้เริ่มต้นออกกำลังกายหรือผู้ที่มีโรคประจำตัว


ออกกำลังกายด้วยการเต้น

การออกกำลังกายด้วยการเต้น (Dance Workout)

การออกกำลังกายด้วยการเต้นเป็นวิธีที่สนุกในการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ ด้วยการเคลื่อนไหวตามท่าเต้นประกอบเพลง และมีหลากหลายแนวให้เต้นตั้งแต่ฮิปฮอปไปจนถึงซุมบ้า

  • เข้าคลาสเต้น พยายามทำตามผู้สอนเท่าที่ทำได้และไม่ต้องคิดมากหากไม่สามารถเต้นตามเทรนเนอร์หรือครูสอนเต้นได้ทั้งหมด ค่อยเต้นตามค่อยๆเรียนจับจังหวะท่าทางต่างๆ เพราะเป้าหมายคือการเคลื่อนไหวร่างกายมากที่สุด

ข้อดี: สนุก เผาผลาญแคลอรี ช่วยปรับปรุงระบบประสาทให้ทำงานได้ดีขึ้น

ข้อควรระวัง: อาจให้แรงต้านไม่เพียงพอสำหรับการฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ส่วนอัตราการเผาผลาญก็จะขึ้นอยู่กับจังหวะหรือชนิดของการเต้นว่ามีการเคลื่อนไหวมากน้อยแค่ไหน


บอดี้คอมแบท

การออกกำลังกายศิลปะป้องกันตัว (Body Combat)

การออกกำลังกายแบบศิลปะป้องกันตัวผสมผสานเทคนิคจากศิลปะการต่อสู้แขนงต่างๆ ช่วยเสริมความแข็งแรง ความยืดหยุ่น และการประสานงานของอวัยวะต่างๆ การออกกำลังกายแบบ Body Combat เป็นการรวมกันระหว่างออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อด้วย

  • Shadow Boxing: ยืนในท่าชกมวยแล้วชกต่อยขึ้นไปในอากาศ ฝึกการผสมผสานและการใช้เท้าแบบต่างๆ
  • Kickboxing: เข้าคลาสเรียนหรือทำตามวิดีโอออกกำลังกายคิกบ็อกซิ่ง ซึ่งจะรวมถึงการต่อย การเตะ และการตีเข่าต่างๆด้วยท่าของมวยไทย

ข้อดี: เสริมความแข็งแรง ความยืดหยุ่น และการประสานงานกันของอวัยวะต่างๆ ช่วยในการเผาผลาญและเพิ่มการทำงานของหัวใจได้ดี และเสริมทักษะการป้องกันตัวเอง

ข้อควรระวัง: อาจเป็นเรื่องยากที่จะเริ่มต้นเรียนรู้หากไม่มีผู้สอน และเสี่ยงต่อการบาดเจ็บหากไม่จัดท่าทางหรือรูปแบบที่เหมาะสม


ท่าออกกำลังกายยางยืด

การออกกำลังกายด้วยยางยืด (Resistance Band Workout)

การออกกำลังกายด้วยยางยืดเป็นการใช้แถบยางยืดเพื่อเพิ่มความต้านทานในการออกกำลังกาย มีความอเนกประสงค์ พกพาสะดวก และใช้สำหรับการออกกำลังกายได้หลากหลาย

  • ท่า Band pull aparts: ถือยางยืดด้วยมือทั้งสองข้างที่ความสูงระดับไหล่ ตั้งแขนให้ตรงแล้วดึงสายรัดออกจากกัน บีบสะบักเข้าหากัน ช่วยบริหารหลังและไหล่ได้เป็นอย่างดี
  • ท่า Banded squats: ยืนบนแถบยางยืดและจับปลายแถบยางยืดไว้ที่ความสูงระดับไหล่ สำหรับผู้ที่มีความแข็งแรงระดับนึงแล้ว ก็สามารถเปลี่ยนเป็นจับสายยางไว้เหนือหัวก็ได้ แล้วทำท่าสควอท เป็นการช่วยเพิ่มแรงต้านทานให้ท่าสควอท เสริมกล้ามเนื้อขาและสะโพกได้ดี

ข้อดี: มีความอเนกประสงค์ น้ำหนักเบาและพกพาได้ มีแรงต้านเพียงพอสำหรับการฝึกความแข็งแรงกล้ามเนื้อ สามารถใช้ได้กับการออกกำลังกายที่หลากหลาย

ข้อควรระวัง: ยางยืดอาจจะขาดได้หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม และอาจให้แรงต้านไม่เพียงพอสำหรับผู้ออกกำลังกายที่มีเป้าหมายเป็นต้องการเพิ่มกล้ามเนื้อ


ท่ายืดเส้น

การออกกำลังกายแบบเพิ่มยืดหยุ่นและความคล่องตัว (Flexibility and Mobility Workout)

การออกกำลังกายแบบนี้เน้นไปที่การยืดกล้ามเนื้อและเพิ่มช่วงการเคลื่อนไหวของอวัยวะต่างๆ เหมาะสำหรับการพักฟื้นหรืออุ่นเครื่องก่อนออกกำลังกาย หรือแม้กระทั้งการคูลดาวน์หลังออกกำลังกาย

  • ท่า Hamstring stretch: นั่งบนพื้นโดยเหยียดขาข้างหนึ่งออกและงออีกข้างหนึ่งขัดสมาธิไว้ เอื้อมมือไปจับที่เท้าที่เหยียดออกมาและค้างไว้ซักครู่
  • ท่า Hip circles: ยืนตัวตรงกางขาเล็กน้อย วางมือไว้บนสะโพก และหมุนเอวไปทางด้านขวา 30 วินาที พอครบแล้วก็หมุนสลับด้านอีก 30 วินาที

ข้อดี: ช่วยเรื่องความยืดหยุ่นของร่างกายและเพิ่มช่วงของการเคลื่อนไหวของร่างกาย เหมาะสำหรับยืดกล้ามเนื้อเพื่อการป้องกันการบาดเจ็บก่อนออกกำลังกายและช่วยเรื่องผ่อนคลายกล้ามเนื้อ

ข้อควรระวัง: อาจไม่ให้ประโยชน์ต่อการฝึกหัวใจและหลอดเลือดหรือการฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ


คาลิสเทนิค

การออกกำลังกายโดยใช้แรงต้าน (Calisthenics Workout)

การออกกำลังกายแบบ Calisthenics เป็นใช้น้ำหนักตัวของตัวเองเพื่อสร้างแรงต้านทาน ช่วยเสริมความแข็งแรง ความยืดหยุ่น และการทำงานของร่างกาย สามารถทำได้ทุกที่ การโหนบาร์ วิดพื้น สควอท ก็เป็นส่วนนึงของการออกกำลังกายแบบ Calisthenics

  • ท่า Pullup: หากคุณมีบาร์โหนที่บ้าน ก็สามารถเริ่มออกกำลังกายด้วยการโหนบาร์ได้ เริ่มต้นด้วยการห้อยลงมาจากบาร์โดยแยกมือออกจากกันให้อยู่ในช่วงไหล่ ดึงลำตัวขึ้นจนคางอยู่เหนือบาร์ จากนั้นค่อยๆลดตัวลง
  • ท่า Pistol Squats: ยืนบนขาข้างหนึ่ง และขาอีกข้างให้เหยียดออกมาข้างหน้าคุณ ค่อยๆย่อตัวลงนั่งบนขาที่ยืน คล้ายท่าสควอท โดยให้ขาอีกข้างอยู่เหนือพื้น และดันกลับขึ้นไปยืนท่าเดิม
  • ท่า Jump Squats: ยืนแยกเท้าระยะห่างประมาณสะโพก ค่อยๆย่อตัวลงเหมือนการทำท่าสควอท เมื่อถึงย่อตัวลงสุดแล้ว กระโดดขึ้นให้ตัวลอยจากพื้น ตอนลงให้ย่อกลับไปด้านล่างใหม่อีกครั้ง

ข้อดี: ใช้น้ำหนักตัวเป็นแรงต้าน เพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่น สามารถทำได้ทุกที่

ข้อควรระวัง: ยากสำหรับผู้เริ่มต้นออกกำลังกาย เพราะต้องใช้ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและทักษะในการทรงตัวค่อนข้างเยอะ


จัดโปรแกรมออกกำลังกายด้วยตัวเอง

การสร้างโปรแกรมออกกำลังกายที่บ้านให้สมดุลเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสร้างความแข็งแรงและสุขภาพโดยรวม ซึ่งรวมถึงการผสมผสานระหว่างคาร์ดิโอ การฝึกความแข็งแรงกล้ามเนื้อ และสร้างความยืดหยุ่น

  • ตั้งเป้าหมาย: การมีเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้มีแรงบันดาลใจ ไม่ว่าจะเป็นการลดน้ำหนัก สร้างกล้ามเนื้อ หรือเสริมความแข็งแรงของร่างกาย การมีเป้าหมายทำให้การออกกำลังกายมีจุดมุ่งหมายมากขึ้น
  • จัดตารางเวลา: การมีกำหนดเวลาสำหรับการออกกำลังกายทำให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรประจำวันและสามารถควบคุมให้เราออกกำลังกายเป็นประจำได้ง่ายขึ้น
  • ผสมผสานการออกกำลังกาย: การออกกำลังกายแบบเดิมๆ ทุกวันอาจทำให้เบื่อได้ง่าย ลองสลับเปลี่ยนรูปแบบการออกกำลังกายจะช่วยลดอาการเบื่อและขี้เกียจออกกำลังกายได้
  • การพักผ่อนและการฟื้นฟู: การพักผ่อนมีความสำคัญพอๆ กับการออกกำลังกาย เพราะร่างกายก็ต้องการเวลาในการฟื้นฟูกล้ามเนื้อต่างๆ เพราะฉะนั้นโปรแกรมออกกำลังกายก็ควรมีวันพักผ่อนเพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูด้วยเช่นกัน

การเลือกรับประทานสำหรับผู้ที่ออกกำลังกาย

การได้รับสารอาหารเหมาะสมและการดื่มน้ำ เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการออกกำลังกาย เพราะนอกจากจะช่วยเติมพลังในการออกกำลังกาย ยังช่วยในการฟื้นตัวอีกด้วย

  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ: ดื่มน้ำเป็นประจำทั้งระหว่างออกกำลังกาย และหลังออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายไม่ขาดน้ำ
  • รับประทานอาหารที่สมดุล: อาหารที่อุดมด้วยโปรตีน ไขมันน้อย ผลไม้ ผัก และเมล็ดธัญพืชต่างๆสามารถให้สารอาหารที่ร่างกายต้องการในการออกกำลังกายและฟื้นฟูกล้ามเนื้อ
  • อาหารก่อนและหลังออกกำลังกาย: การทานอาหารหรือของว่างที่มีโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตก่อนออกกำลังกายสามารถให้พลังงานได้ และทำเช่นเดียวกันหลังออกกำลังกายสามารถช่วยในการฟื้นฟูได้

การรักษาความสะอาดสำหรับผู้ที่ออกกำลังกาย

ทุกคนทราบดีอยู่แล้วถึงประโยชน์ของการออกกำลังกายเป็นประจำ ที่ช่วยเรื่องสุขภาพ หัวใจ หลอดเลือด ซึ่งการออกกำลังกายช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ช่วยเสริมการผลัดเซลล์ผิว และระหว่างออกกำลังกายจะมีการขับเหงื่อออกมาตลอดเวลาเพื่อระบายความร้อนของร่างกาย และในขณะที่เหงื่อถูกขับออกมา รูขุมขนก็จะเปิดขึ้นและขับสิ่งสกปรกและน้ำมันที่อุดตันอยู่ออกมาพร้อมเหงื่อด้วย แต่เรามักจะลืมเรื่องสำคัญอย่างการรักษาความสะอาด เพื่อชะล้างสิ่งสกปรกเหล่านี้หลังจากออกกำลังกาย ทำให้อาจเกิดอาการต่างๆเหล่านี้

  • ผื่นแพ้เหงื่อ จากการขับเหงื่อออกมาของร่างกายทำให้ระคายเคืองผิวหนังได้โดยง่ายจนเกิดเป็นผื่นในผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายหรือการเสียดสีกับเสื้อผ้าก็อาจทำให้เกิดผื่นคันได้ด้วยเช่นกัน
  • สิว สิ่งสกปรกที่ตกค้างบนผิวระหว่างการออกกำลังกาย รวมไปถึงการเสียดสีและความร้อนของร่างกายที่เกิดขึ้นก็เป็นต้นเหตุของสิวได้เช่นกัน ถ้าเราทำความสะอาดได้ไม่เหมาะสมหลังออกกำลังกาย

ขั้นตอนการรักษาความสะอาดร่างกายก่อน-หลังออกกำลังกาย

  • ก่อนออกกำลังกาย ควรลบหรือล้างเครื่องสำอางออกก่อน รวมไปถึงการล้างหน้าให้สะอาด เพื่อลดโอกาสที่สิ่งตกค้างจะเข้าไปอุดตันรูขุมขน
  • หลังออกกำลังกาย ควรอาบน้ำให้สะอาด โดยใช้สบู่อาบน้ำที่มีความอ่อนโยนต่อผิว และช่วยปรับสมดุล เพิ่มความแข็งแรงของเกราะป้องกันผิว อย่าง Eucerin pH5 SENSITIVE SKIN WASHLOTION โดยเฉพาะผิวที่แพ้ง่าย ช่วยลดอาการแพ้เหงื่อหลังจากออกกำลังกายได้เป็นอย่างดี หรือผู้ที่มีผิวแห้งมาก มีแนวโน้มจะแพ้เหงื่อได้ง่ายเป็นพิเศษ แนะนำให้ใช้ Eucerin pH5 VERY DRY SENSITIVE SKIN SHOWER OIL ที่ช่วยทำความสะอาดร่างกาย ปรับสมดุลของผิวเสริมเกราะป้องกันผิว พร้อมเสริมความชุ่มชื้นผิวได้อีกด้วย

การออกกำลังกายที่บ้านหรือกลางแจ้งที่เหมาะสมสำหรับเรา ขึ้นอยู่กับเป้าหมายการออกกำลังกาย ความชอบ และระดับการออกกำลังกายในปัจจุบัน ประโยชน์จากการผสมผสานการออกกำลังกายประเภทต่างๆเข้าด้วยกัน ช่วยให้มีความสมดุลของการฝึกหัวใจและหลอดเลือด ความแข็งแรง และความยืดหยุ่นได้อย่างครบถ้วน


บทความเกี่ยวข้อง