สกินแคร์ คือ สกินแคร์ หน้าใส ดูแลผิว

สกินแคร์ คืออะไร ก่อนเลือกใช้สกินแคร์ มาทำความรู้จักกันสกินแคร์แต่ละชนิดก่อน

อ่านแล้ว 3 นาที
แสดงบทความเพิ่มเติม

สกินแคร์เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับร่างกายทุกส่วน ซึ่งมีหลายประเภทมาก สกินแคร์บางชนิดทำหน้าที่แตกต่างกันไปไม่ว่าจะเป็นการบำรุงผิว ฟื้นฟูผิว รวมไปถึงการแก้ปัญหาผิว ก่อนที่จะเลือกใช้สกินแคร์จึงจำเป็นต้องรู้จักและทำความเข้าใจสภาพผิวของตัวเอง รวมถึงรู้จักสกินแคร์แต่ละประเภทเพื่อที่จะเลือกประเภทของสกินแคร์ให้ตอบโจทย์และเหมาะกับสภาพผิวมากที่สุด

 


สกินแคร์ คืออะไร?

สกินแคร์ (Skincare) คือ ผลิตภัณฑ์สำหรับดูแล ฟื้นฟู และบำรุงผิวให้แข็งแรงแลดูมีสุขภาพดีขึ้นไม่ว่าจะเป็นผิวหน้าหรือผิวกาย โดยผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่เหมาะสมจะแยกไปตามสภาพผิวของแต่ละบุคคล

 


สกินแคร์มีกี่ประเภท?

สกินแคร์ประเภทที่ 1 กลุ่มสกินแคร์ปกป้องผิว

สกินแคร์อย่างเช่น กันแดด และสกินแคร์ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ เพื่อปกป้องผิวจากปัจจัยทำร้ายผิวต่างๆ

 

สกินแคร์ประเภทที่ 2 กลุ่มสกินแคร์บำรุงผิว

สกินแคร์เสริมความชุ่มชื้น เสริมความกระจ่างใส และปลอบประโลมผิวให้ผิวแข็งแรง

 

สกินแคร์ประเภทที่ 3 กลุ่มสกินแคร์รักษาผิว

สกินแคร์อย่างเช่นผลิตภัณฑ์ช่วยรักษาจุดด่างดำ รักษาสิว ลดเลือนริ้วรอยต่างๆ

 


เนื้อสัมผัสของสกินแคร์มีกี่แบบ?

เนื้อสัมผัสของสกินแคร์ เมื่อเรียงตามลำดับการใช้งานตั้งแต่ขั้นตอนการทำความสะอาด ไปถึงขั้นตอนการบำรุง สามารถแบ่งออกได้ดังนี้

 

เมคอัพรีมูฟเวอร์ (Makeup remover)

ผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับล้างเครื่องสำอาง สามารถแบ่งเนื้อผลิตภัณฑ์ ได้ไปหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของออยเจลหรือน้ำ สำหรับเมคอัพรีมูปเวอร์สามารถแบ่งได้เป็น

1. คลีนซิ่งวอเตอร์ มีลักษณะเป็นน้ำใสๆ ที่ใช้หยดลงบนสำลี แล้วใช้เช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางบนใบหน้า ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วจะมีส่วนผสมของน้ำมันอยู่น้อยมาก

2. คลีนซิ่งมิลค์ ลักษณะผลิตภัณฑ์จะมีเนื้อคล้ายกับโลชั่น ใช้ทำความสะอาดเครื่องสำอางได้ดีมากขึ้น เนื่องจากมีส่วนผสมของน้ำมันจึงสามารถช่วยละลายเมคอัฟได้ดี

3. คลีนซิ่งออยล์ ผิวเผินแล้วจะดูเหมือนมีลักษณะคล้ายคลึงซึ่ง Water แต่จริง ๆ แล้วมีน้ำมันเป็นส่วนประกอบ เหมาะสำหรับล้างเครื่องสำอางกันน้ำหรือเมคอัฟแบบ Longware ต่างๆ โดยการนวดวนบนใบหน้า

4. คลีนซิ่งเจล จะมีเนื้อสัมผัสอยู่ระหว่างคลีนซิ่งวอเตอร์และคลีนซิ่งมิลค์ ซึ่งมีลักษณะเป็นโลชั่นเหลว สีขุ่น เหมาะสำหรับการทำความสะอาดในวันแต่งหน้าเบาๆ

 

คลีนเซอร์ (Cleanser)

ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า เช่น สบู่ หรือ โฟม มีหน้าที่ทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่ยังตกค้างในรูขุมขน ทำให้เครื่องสำอางหรือสิ่งสกปรกไม่อุดตันบนผิวหน้า แบ่งได้ดังนี้

1. สบู่ก้อน สามารถชำระล้างสิ่งสกปรกได้สะอาดหมดจดกว่าคลีนเซอร์ประเภทอื่น ข้อเสียคือค่า pH สูง ทำให้ผิวหน้าขาดความชุ่มชื้น จึงไม่เหมาะกับคนผิวแห้ง สามารถแบ่งเป็น สบู่ทั่วไป (Toilet Soap) ตัวนี้ก็คือสบู่อาบน้ำทั่วไป มีความเป็นด่างสูง (pH 9 - 10) สบู่ใส (Transparent Soap) ออกแบบเพื่อความสวยงาม และอ่อนโยนต่อผิวมากขึ้น และสบู่สังเคราะห์ (Syndet Soap) เป็นสบู่ที่ผ่านกระบวนการหลายขั้นตอน เพื่อให้ได้ค่า pH 5.5 - 7 เหมาะกับทุกสภาพผิว

2. เจลล้างหน้า ลักษณะเป็นเจลใสคล้ายสบู่เหลว มีทั้งในรูปแบบของเจลมีฟองหรือไม่มีฟอง ใช้ชำระล้างสิ่งสกปรกและความมันบนใบหน้าได้ดี เหมาะกับคนผิวมัน

3. โฟมล้างหน้าเป็นรูปแบบคลีนเซอร์ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะมีลักษณะเป็นโฟมนุ่ม ให้สัมผัสละมุนผิวสามารถล้างสิงสกปรกได้ดี

 

โทนเนอร์ (Toner)

โทนเนอร์ทำหน้าที่ขจัดสิ่งตกค้างบนรูขุมขนในขั้นตอนสุดท้าย และเตรียมความพร้อมให้ผิว สำหรับรับการบำรุงจากสกินแคร์ในขั้นตอนต่อไป จะมีลักษณะเป็นเนื้อโซลูชั่น จะมีทั้งแบบ โซลูชั่นแบบน้ำ (Aqueous Solution) โซลูชั่นแบบแอลกอฮอล์ (Hydroalcoholic Solution)

 

เอสเซนส์ (Essence)

เอสเซนส์หรือที่รู้จักกันดีว่า “น้ำตบ” เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าในขั้นตอนแรก มีเนื้อสัมผัสของผลิตภัณฑ์ใกล้เคียงกับโทนเนอร์ มีลักษณะเป็นโซลูชั่นแบบน้ำ เพื่อให้ซึมเข้าสู่ผิวได้ง่าย

 

เซรั่ม (Serum)

เซรั่มเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ใช้ต่อจากเอสเซนส์ โดยจะมีเนื้อเข้มข้นกว่า มีสารบำรุงอัดแน่นอยู่มากกว่า จึงมีประสิทธิภาพดูแลปัญหาผิวได้ดีกว่า ซึ่งเซรั่มส่วนใหญ่มักใช้สำหรับการแก้ปัญหาผิวแบบเฉพาะจุด สามารถมีลักษณะได้ทั้ง โซลูชั่น รวมถึงเนื้อเจล ก็ได้

 

อิมัลชั่น (Emultion)

อิมัลชั่น หรือเรียกง่ายๆ ว่า มอยเจอร์ไรซ์เซอร์ มีเนื้อบางเบาใกล้เคียงกับโลชั่น แบ่งตามลักษณะได้ 2 แบบ คือ อีมัลชั่นเนื้อครีม โดยมีความเข้มข้นมาก และอีมัลชั่นเนื้อโลชั่น จะมีความเข้มข้นน้อยกว่า เกลี่ยง่าย ช่วยเพิ่มความกระจ่างใส ไม่เหมาะกับคนที่มีลักษณะเป็นผิวมัน

 

โลชั่น (Lotion)

ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่มีเนื้อเข้มข้นกว่าอิมัลชัน เพราะมีน้ำมันเป็นส่วนผสมอยู่มากกว่า โดยทั่วไปการใช้โลชั่น มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเคลือบผิวชั้นนอก ให้มีความชุ่มชื้น ลดการสูญเสียน้ำออกจากผิว เนื้อโลชั่นเกลี่ยง่าย

 

ครีม (Cream)

เป็นสกินแคร์ชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมสูงสุด มีเนื้อเข้มข้นและมีส่วนผสมของน้ำมันอยู่เยอะที่สุด มีความเข้มข้นสูง สามารถคงความชุ่มชื้นให้ผิวได้นานกว่า

 

กันแดด (Sunscreen)

ครีมกันแดด เป็นผลิตภัณฑ์ที่ปกป้องผิวจากแสงแดด โดยใช้เป็นขั้นตอนสุดท้ายของการใช้สกินแคร์ในช่วงเช้า สำหรับผลิตภัณฑ์กันแดดนั้นมักจะส่วนผสมที่สามารถป้องป้องได้ทั้ง UVA และ UVB ซึ่งจมีทั้งในรูปแบบที่ดูดซับรังสี UV เอาไว้กับแบบที่สะท้อนรังสี UV ออกไป หรือที่รู้จักกันว่า Chemical sunscreen และ Physical sunscreen ลักษณะเนื้อของกันแดด อาจมีได้หลายแบบทั้งแบบสเปรย์ เนื้อโลชั่น เนื้อน้ำมัน รวมถึงเนื้อครีม เป็นต้น

 

นอกจากนี้ยังสามารถแบ่งลักษณะของเนื้อสกินแคร์ของกลุ่มผลิตภัณฑ์สกินแคร์หมวดอื่นๆ ได้ดังนี้

ผงแป้ง (Powder) สามารถแบ่งออกเป็น 2 แบบ

-แป้งฝุ่น (Loose Powder) ได้แก่ แป้งเด็ก แป้งปัดแต่งหน้าควบคุมความมัน

-แป้งตลับหรือแป้งอัดแข็ง (Compact Powder) โดยใช้แป้งฝุ่นมาอัดแน่นลงในตลับด้วยน้ำมันเพื่อให้พกพาง่าย ใช้สะดวก โดยอาจใส่เม็ดสีปรับสภาพผิวให้ดูสว่าง กระจ่างใส และช่วยปกปิดจุดบกพร่องใบหน้าได้เป็นต้น

 

เนื้อบาล์ม (Ointment)

เช่น บาล์มบำรุงผิว ขี้ผึ้ง หรือ ลิปแคร์

 

เนื้อแบบแท่ง (Stick)

เช่น ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย ลิปสติก อายครีมแบบแท่ง เป็นต้น

 

เนื้อซัสเพนชัน (Suspensions)

เช่น แป้งน้ำ คาลาไมด์ ยาทาเล็บ รองพื้น เป็นต้น

 

เนื้อสครับ (Pastes)

เช่น ยาสีฟัน หรือสครับมาส์กหน้า เป็นต้น

 

รู้จักผิวก่อนเลือกสกินแคร์

การเลือกสกินแคร์ให้เหมาะสมกับสภาพผิว รวมถึงปัญหาผิว ที่ทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ควรรู้จักสภาพผิวของตนเองว่ามีลักษณะเป็นอย่างไร และมีปัญหาผิวที่ควรป้องกันหรือแก้ไขอะไรบ้าง โดยสามารถแบ่งประเภทของผิวตามสภาพและลักษณะ ได้เป็น 4 ประเภท ได้แก่

 

1. ผิวแห้ง (Dry Skin) หรือผิวขาดน้ำ จะมีรูขุมขนที่ละเอียดแต่ผิวแห้งแตกง่าย ลอกเป็นขุยได้ง่าย โดยเฉพาะหลังล้างหน้าจะรู้สึกตึงและฝืดผิวหน้า บางครั้งก็มีอาการคัน แสบ แดง ระคายเคืองได้ง่าย

 

2. ผิวมัน (Oily Skin) ผิวมัน เงา โดยเฉพาะบริเวณ T-ZONE คือ บริเวณหน้าผาก จมูก และคาง มีรูขุมขนกว้าง ที่เกิดจากต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากกว่าปกติ ทำให้มีปัญหาเรื่องสิวเสี้ยนและเป็นสิวได้ง่าย

 

3. ผิวผสม (Combination Skin) มีทั้งบริเวณที่ผิวแห้ง หรือ U-Zone (รอบดวงตา ข้างแก้มและคาง) ที่มักเกิดบริเวณแห้ง ลอก เป็นขุย ในขณะที่บริเวณผิวมัน หรือ T-Zone (หน้าผากและจมูก) ซึ่งจะมีต่อมผลิตไขมันที่มากกว่าบริเวณอื่น ๆ และเป็นส่วนที่เกิดสิวได้ง่าย

 

4. ผิวแพ้ง่าย (Sensitive Skin) เป็นผิวบอบบางแพ้ง่าย ผิวไวต่อสารเคมี มลภาวะ แสงแดด ฝุ่นควันต่าง ๆ ผิวแบบนี้เป็นสิวง่าย เป็นผื่นง่าย อักเสบง่าย และบางครั้งอาจมีอาการแสบ แดง คัน

 

5. ผิวธรรมดา (Normal Skin) เป็นผิวสุขภาพดี มีความสมดุล คือไม่แห้งจนเกินไป และ ไม่มันจนเกินไป ผิวมีลักษณะเรียบเนียน กระจ่างใส รูขุมขนเล็กละเอียด ไม่ค่อยพบปัญหาผิว

วิธีการเลือกสกินแคร์ให้เหมาะกับสภาพผิว

สกินแคร์สำหรับผิวแห้ง ผิวลอกเป็นขุย แห้ง แดง คัน
สกินแคร์สำหรับผิวแห้ง ผิวลอกเป็นขุย แห้ง แดง คัน

วิธี 1 ผิวแห้ง (Dry Skin)

สกินแคร์สำหรับผิวแห้ง ควรเลือกสกินแคร์เนื้อสัมผัสแบบบาล์ม หรือโซลูชั่นแบบน้ำมัน จะช่วยเคลือบผิวกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิว ผู้ที่มีผิวแห้งปัญหาผิวที่ตามมาคือ ผิวลอกเป็นขุย แห้ง แดง คัน ได้ง่าย และยังเกิดปัญหาฝ้าจากแสงแดดได้ง่าย จึงควรเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว แนะนำ Eucerin UltraSENSITIVE LIPO-BALANCE CREAM ครีมบำรุงผิวสำหรับผิวแห้ง ช่วยลดปัญหาผิวแห้งลอก แม้แต่ผิวบอบบางที่ผ่านการทำเลเซอร์ เพราะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหน้าพร้อมบำรุงผิวอย่างล้ำลึก มีนวัตกรรม Instant Calming System ที่มี Ceramide-3 (เซราไมด์-3) ที่ช่วยเติมน้ำมันธรรมชาติในผิวให้หล่อเลี้ยงระหว่างเซลล์ผิว พร้อมสมานผิวที่แห้งลอกเป็นขุยได้ทันทีโดยไม่ทำให้เกิดการระคายเคือง


ผิวมัน  ผิวเป็นสิวง่าย ควบคุมความมัน
ผิวมัน  ผิวเป็นสิวง่าย ควบคุมความมัน

วิธี 2 ผิวมัน (Oily Skin)

สกินแคร์สำหรับผิวมัน ควรเลือกสกินแคร์ที่มีเนื้อสัมผัสที่บางเบา ซึมง่ายอย่างเนื้อเจล โลชั่น และโซลูชั่นแบบน้ำ โดยผิวมันเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดสิว จากการที่ผิวหนังผลิตน้ำมันส่วนเกิน ผสมกับเซลล์ผิวเก่าจนเกิดการอุดตันในรูขุมขนและเกิดเป็นสิวอักเสบขึ้น แนะนำให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ Eucerin Pro ACNE SOLUTION A.I. MATT FLUID มอยเจอร์ไรเซอร์ลดรอยสิว สิวอุดตัน ควบคุมความมันได้นาน 8 ชั่วโมง ช่วยลดการระคายเคือง อ่อนโยนต่อผิวบอบบางและผิวเป็นสิวง่าย เพื่อช่วยควบคุมความมันและลดโอกาสการเกิดสิว

เซรั่มผิวผสม  ฟื้นฟูผิวหมองคล้ำ ผิวดูกระจ่างใส
เซรั่มผิวผสม  ฟื้นฟูผิวหมองคล้ำ ผิวดูกระจ่างใส

วิธี 3 ผิวผสม (Combination Skin)

สกินแคร์สำหรับผิวผสม ควรเลือกสกินแคร์แบบของคนผิวมันตรงช่วง T-Zone ที่มีเนื้อสัมผัสแบบเจล โลชั่น และโซลูชั่นแบบน้ำ สำหรับช่วง U-Zone ควรเลือกใช้สกินแคร์แบบเนื้อบาล์ม และโซลูชั่นแบบน้ำมัน ซึ่งผู้ที่มีผิวผสม ปัญหาที่พบบ่อยคือ ผิวหมองคล้ำได้ง่าย แนะนำให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ที่เนื้อบางเบา ซึมเข้าสู่ผิวง่าย ไม่ก่อให้เกิดการอุดตันของผิว แนะนำ Eucerin SPOTLESS BRIGHTENING SEBUM CONTROL CRYSTAL BOOSTER SERUM ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าเนื้อบางเบาเป็นพิเศษ ซึ่งช่วยลดจุดด่างดำ ผสานไทอามิดอล ฟื้นฟูผิวหมองคล้ำให้ดูกระจ่างใสขึ้นใน 2 สัปดาห์

สกินแคร์สำหรับผิวแพ้ง่าย ระคายเคือง แดง และผิวเป็นเม็ดเล็กๆ

วิธี 4 ผิวแพ้ง่าย (Sensitive Skin)

สกินแคร์สำหรับผิวแพ้ง่าย เลือกใช้สกินแคร์เนื้อสัมผัสได้ทั้งแบบโซลูชั่น อิมัลชั่น หรือเนื้อครีม โดยควรเลือกที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ สำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ และช่วยลดระคายเคืองผิว แนะนำผลิตภัณฑ์ Eucerin UltraSENSITIVE REPAIR CREAM ครีมบำรุงผิวที่ช่วยฟื้นฟูบำรุงผิวให้แข็งแรง ดูแลลดปัญหาระคายเคือง แดง และผิวเป็นเม็ดเล็กๆ เนื้อครีมเข้มข้นให้ความชุ่มชื้นผิว ช่วยดูแลและฟื้นบำรุงเกราะปกป้องผิวที่อ่อนแอและแพ้ง่าย ทำให้ผิวเรียบเนียนใสแลดูสุขภาพดี ไม่ไวต่อการระคายเคือง ให้ผิวพร้อมเผชิญทุกสภาวะทำร้ายผิว

สกินแคร์สำหรับผิวธรรมดา ผิวชุ่มชื้น สว่างกระจ่างใส

วิธีที่ 5 ผิวธรรมดา (Normal Skin)

สกินแคร์สำหรับผิวธรรมดา ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเสริมความแข็งแรงให้ผิว รวมถึงปรับสภาพผิวให้ชุ่มชื้นสว่างกระจ่างใส แนะนำเลือกผลิตภัณฑ์ Eucerin HYALURON [3X]+ FILLER FIRST SERUM MOISTURE BOOSTER พรีเซรั่มเนื้อเจลใส บางเบา ซึมง่าย เหมาะสำหรับทุกสภาพผิวแม้ผิวแพ้ง่าย ช่วยเติมและล็อคความชุ่มชื้นผิวได้ยาวนาน 24 ชั่วโมง ช่วยให้ผิวหน้าเด้มอิ่มฟู และดูอ่อนเยาว์

ครีมกันแดดเนื้อน้ำ ซึมไว ปกป้องรังสี UV ในทุกมิติ

นอกจากนี้ควรเลือกใช้สกินแคร์ที่ดูแลปกป้องผิว โดยเลือกใช้ครีมกันแดด Eucerin SUN HYDRO PROTECT ครีมกันแดดที่ช่วยปกป้องรังสี UV ในทุกมิติด้วย Advanced Spectral Technology ลดผลกระทบผิวไม่ให้ถูกทำร้ายจากแสงแดด เนื้อซึมไว เกลี่ยง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ สามารถใช้ได้ทุกวัน และยังช่วยเติมความชุ่มชื่นให้ผิวรู้สึกสบายผิวหลังทาทันที

 

การศึกษาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สกินแคร์มีประโยชน์อย่างมาก เพราะจะช่วยให้สามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่เหมาะกับสภาพผิวได้มากที่สุด ยิ่งเลือกสกินแคร์ที่เหมาะสมกับผิวจะยิ่งทำให้การดูแล บำรุง ฟื้นฟูรวมถึงการแก้ปัญหาผิวเกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น