10 วิธี ลดริ้วรอยใต้ตาบริเวณถุงใต้ตาแบบได้ผลจริง ทำได้ด้วยตัวเอง

สาวๆ หลายคนอาจมีปัญหาผิวหน้าที่แตกต่างกัน แต่มีหนึ่งปัญหาผิวที่ทุกคนต้องเจอเหมือนกันคือ ริ้วรอยใต้ตา และถุงใต้ตาบวมที่ทำให้ใบหน้าของเราดูไม่สดใส เหนื่อยล้า จึงเป็นปัญหาที่ทำให้หลายคนมีความกังวลมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะสาวๆ ที่เริ่มเข้าสู่ช่วงอายุ 20 กลางๆ มักมีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่เคร่งเครียด และเร่งรีบ ทำให้ละเลยการดูแลตนเอง ส่งผลให้ผิวบริเวณนี้อ่อนแอจนเป็นปัญหาตามมา วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความเข้าใจถึงสาเหตุ พร้อมเคล็ดลับลดริ้วรอยใต้ตาที่ทุกคนสามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง

สาเหตุของการเกิด 'ริ้วรอยใต้ตา' เกิดจากอะไร

ปัญหาริ้วรอยใต้ตาล้วนมีสาเหตุการเกิดจากหลายปัจจัย รวมถึงพฤติกรรมต่างๆ ที่เราเผลอทำในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม ดังนั้นเราจะพาทุกคนไปดูสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาริ้วรอยใต้ตากัน โดยหลักๆ มีดังนี้

• อายุเพิ่มขึ้น : ส่งผลให้คอลลาเจนใต้ผิวลดลงตามธรรมชาติ ยิ่งถ้ามีพฤติกรรมที่ละเลยการดูแลผิวเป็นประจำก็จะทำให้เกิดริ้วรอยใต้ตาได้ง่าย 

• งานหนัก ปาร์ตี้จัดเต็ม : เพราะสาวๆ ช่วงวัยนี้มักจะทุ่มเทให้กับการทำงานอย่างหนักตลอดทั้งวัน ตกเย็นหลังเลิกงานจึงปาร์ตี้จัดเต็มเพื่อผ่อนคลาย พฤติกรรมนี้ส่งผลให้เกิดริ้วรอยใต้ตาได้เร็วมากขึ้น เพราะร่างกายขาดการพักผ่อน
• ผิวขาดการบำรุง : เมื่อเราละเลยขั้นตอนการบำรุงผิวโดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตา ส่งผลให้ผิว ขาดความชุ่มชื้น ขาดความยืดหยุ่นและไม่แข็งแรง หากละเลยไปนานๆเข้า ก็จะเกิดริ้วรอยที่ชัดเจนมากขึ้น 

• การแสดงสีหน้า : การแสดงอารมณ์ทางใบหน้าที่เราทำซ้ำๆ เป็นประจำ เช่น การยิ้ม ขมวดคิ้ว ฯลฯ ทำให้กล้ามเนื้อของเราหดตัวซ้ำๆ จนสูญเสียความยืดหยุ่น หากปล่อยไว้เป็นเวลานานโดยไม่ได้รับการดูแลจะส่งผลให้เกิดริ้วรอยใต้ตาขึ้นได้ 

พฤติกรรมเหล่านี้เป็นจุดเริ่มต้นของปัญหา ‘ริ้วรอยใต้ตา’ ที่ไม่มีใครอยากให้เกิด ดังนั้นเราควรหันมาใส่ใจ ดูแลตนเองตั้งแต่วันนี้เพื่อลดการเกิดริ้วรอยใต้ตา โดยสามารถทำตามวิธีง่ายๆ ดังนี้

รู้จักประเภทของริ้วรอยใต้ตา เพื่อการรักษาที่ตรงจุด

• ริ้วรอยจากการแสดงอารมณ์ (Dynamic Wrinkles): คือริ้วรอยที่จะปรากฏเมื่อคุณยิ้มหรือหยีตา เกิดจากการทำงานของกล้ามเนื้อ
• ริ้วรอยถาวร (Static Wrinkles): คือริ้วรอยร่องลึกที่มองเห็นได้ตลอดเวลา แม้ใบหน้าจะนิ่งเฉย เกิดจากการสูญเสียคอลลาเจนและไขมันใต้ผิว
• ริ้วรอยตื้นๆ จากผิวขาดน้ำ (Fine/Dehydration Lines): คือเส้นเล็กๆ ที่มักเกิดจากผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น สามารถแก้ไขได้ง่ายที่สุด

1. นวดผ่อนคลาย

ถือเป็นการช่วยฟื้นบำรุงผิวบริเวณดวงตา ช่วยให้เลือดสามารถไหลเวียนได้ดี แถมยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ผิว ทำให้ผิวยืดหยุ่น ช่วยลดการเกิดริ้วรอยใต้ตาที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยอาจนวดวนเบาๆ ที่ใต้ตา หรือนำผ้าที่มีความอุ่นเล็กน้อยมาประคบผิวบริเวณรอบดวงตา เรียกได้ว่าเป็นวิธีง่ายๆ ที่ทุกคนสามารถทำได้

2. พักผ่อนให้เพียงพอ

การพักผ่อนให้เพียงพอ ด้วยการนอนหลับอย่างน้อย 7- 8 ชั่วโมงต่อคืน จะช่วยให้ร่างกายได้ซ่อมแซมตัวเองและผิวรอบดวงตาได้พักผ่อน

3. ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อร่างกาย

ร่างกายของเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบประมาณ 70% ดังนั้นใน 1 วัน เราควรดื่มน้ำให้ครบ 8-10 แก้วต่อวัน ก็จะช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้นจากภายใน ชะลอการเกิดริ้วรอยต่างๆ รวมถึงริ้วรอยใต้ตา ทั้งยังทำให้ผิวของเรากระจ่างใสมากขึ้นด้วย

4. หลีกเลี่ยงแสงแดด

แสงแดด เป็นตัวการหลักที่ทำให้ผิวหมองคล้ำและเกิดริ้วรอยขึ้นได้ แต่หากต้องออกไปข้างนอก ควรสวมแว่นกันแดดที่มีคุณภาพทุกครั้งที่ออกไปข้างนอก เพื่อป้องกันรังสี UV และปกป้องผิวบริเวณรอบดวงตา

5. ใช้ครีมบำรุงรอบดวงตา

การใช้ครีมบำรุงเป็นตัวช่วยสำคัญเพื่อลดริ้วรอยใต้ตา ไม่ว่าจะเป็นหางตา ร่องลึกต่างๆ ซึ่งส่วนผสมสำคัญที่ครีมบำรุงรอบดวงตาต้องมีคือสารที่ช่วยเติมเต็มริ้วรอย เช่น Hyaluron ที่ซึมเข้าสู่ผิวไว ไม่เหนอะหนะหรือหนักผิว ซึ่งถูกออกแบบมาสำหรับใช้ลดริ้วรอยรอบดวงตา ซึ่งเป็นผิวที่บอบบางมากกว่าจุดอื่น

6. การมาส์กใต้ตาด้วยสูตรธรรมชาติ

เราสามารถนำวัตถุดิบหรือสิ่งของที่อยู่ในครัวมาช่วยลดริ้วรอยใต้ตาได้ เช่น แตงกวา โดยนำมาหั่นเป็นแว่นๆ บางๆ จากนั้นวางไว้บนเปลือกตาของเราประมาณ 15 นาที แล้วนำออก จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวบริเวณรอบดวงตาได้เป็นอย่างดี

7. ล้างเมคอัพให้ถูกวิธี

การล้างเมคอัพให้สะอาดหมดจดถือเป็นสิ่งที่ดี หลายคนต้องใช้สำลีเช็ดบริเวณรอบดวงตาหลายรอบกว่าคราบเมคอัพจะหมด รู้หรือไม่ว่าการใช้สำลีอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวถูกเสียดสี เกิดการระคายเคือง ส่งผลให้ผิวเกิดริ้วรอยได้ ดังนั้นควรใช้คลีนซิ่งออยล์ หรือคลีนซิ่งน้ำนม ก็ช่วยให้ผิวรอบดวงตาสะอาดหมดจดได้โดยไม่ต้องพึ่งการใช้สำลี

8. ลดหรือเลิกการสูบบุหรี่

การสูบบุหรี่เป็นประจำ เป็นสิ่งที่อันตรายต่อร่างการและผิวพรรณ เพราะสารพิษในบุหรี่จะเข้าไปทำลายคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งเป็นโปรตีนที่สำคัญในการทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นและเต่งตึง เมื่อคอลลาเจนและอีลาสตินลดลง ผิวจึงเกิดริ้วรอยได้ง่าย

9. ลดการขยี้ตา

การลดการขยี้ตาเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีในการป้องกันและลดริ้วรอยใต้ตา เพราะการขยี้ตาบ่อยๆ จะทำให้ผิวรอบดวงตาบางลง เกิดการระคายเคือง และอาจทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่ายขึ้น การดูแลตัวเองไม่มีคำว่าสายไป หากเริ่มดูแลตัวเองเร็วเท่าไหร่ ยิ่งเป็นการป้องกันการเกิดริ้วรอยใต้ตาในอนาคตได้ เพียงเข้าใจถึงสาเหตุการเกิด หลีกเลี่ยงพฤติกรรมกระตุ้น และทำตามเคล็ดลับที่เราบอกอย่างสม่ำเสมอ ก็สามารถบอกลาริ้วรอยใต้ตา ไม่ให้กลับเข้ามากวนใจเราอีกต่อไป

10. การฉีดโบท๊อกซ์

การฉีดการฉีดโบท๊อกซ์ เพื่อลดริ้วรอยใต้ตาถือเป็นวิธีที่นิยมในปัจจุบัน เพราะเป็นวิธีที่รักษาที่เห็นผลไว การทำงานของโบท็อกซ์ จะช่วยไปบล็อกสัญญาณประสาทที่ส่งไปยังกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อส่วนนั้นหดตัวลดลง จึงช่วยลดริ้วรอยลงได้ โดยวิธีนี้จะต้องมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการประเมินปัญหาของแต่ละบุคคลเท่านั้น

11. ฟิลเลอร์ (Dermal Fillers)

เหมาะกับริ้วรอยร่องลึกถาวร (Static Wrinkles) หรือปัญหาเบ้าตาลึก โดยการฉีดสารเติมเต็มกลุ่ม Hyaluronic Acid เข้าไปเพื่อเติมเต็มปริมาตรที่หายไป ทำให้ร่องลึกดูตื้นขึ้นและผิวเรียบเนียน

12. เลเซอร์และเทคโนโลยียกกระชับ (Lasers & Tightening Devices)

เหมาะสำหรับคนที่มีริ้วรอยถาวรและปัญหาผิวหย่อนคล้อยทั่วทั้งใบหน้าและดวงตา

• Fractional Laser: ยิงเลเซอร์เพื่อกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินขึ้นมาใหม่
• Ulthera/Thermage: ใช้พลังงานคลื่นเสียง/คลื่นวิทยุส่งลงไปใต้ชั้นผิว เพื่อยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยให้เต่งตึงขึ้น

ขอแนะนำผลิตภัณฑ์ดูแลผิวรอบดวงตา จาก Eucerin

1. Eucerin SPOTLESS BRIGHTENING DARK EYE CIRCLE CORRECTOR เซรั่มลดรอยคล้ำรอบดวงตา ที่ช่วยให้ผิวรอบดวงตากระจ่างใสขึ้นได้จริง ด้วยสรรพคุณการลดความหมองคล้ำใต้ตาด้วย ไทอามิดอล สารเอกสิทธิ์จากยูเซอริน พร้อมลดโอกาสเกิดการหมองคล้ำด้วยลิโคชาลโคน และเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิวรอบดวงตาดูอิ่มฟูด้วยไฮยาลูรอนและโอลิโกเพพไทด์ ปลอบประโลมให้ผิวรอบดวงตาเย็นสดชื่น ด้วย คูลลิ่ง แอพพลิเคเตอร์ ช่วยทำให้ผิวรอบดวงตากระจ่างใส ภายใน 2 สัปดาห์

2. HYALURON (3X) FILLER EYE CREAM SPF 15 ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดเลือนริ้วรอยรอบดวงตา ด้วยแรงบันดาลใจจากแนวคิดการฉีดฟิลเลอร์ที่ยกกระชับให้ริ้วรอยตีนกาตื้นขึ้น จากไฮยาลูรอนที่เข้มข้นขึ้นถึง 3 เท่า

3. Eucerin HYALURON-FILLER + ELASTICITY EYE CREAM SPF 20 มีนวัตกรรม Elastic Lift ด้วยหลักการเดียวกับเทคโนโลยีการยกกระชับตาข่ายผิว ผสาน Arctiin สารทรงประสิทธิภาพที่มีคุณสมบัติช่วยยกกระชับผิวบริเวณรอบดวงตา คืนความยืดหยุ่นผิวรอบดวงตาให้ดูเต่งตึง แน่นกระชับ เติมริ้วรอยลึกได้ทุกระดับ แม้ผิวหย่อนคล้อยมาก ผสมสารป้องกันแสงแดด ปราศจากน้ำหอม เห็นผลใน 4 สัปดาห์ ให้ผลลัพธ์ยาวนานเมื่อใช้อย่างต่อเนื่องทั้งกลางวันและกลางคืน

Tip : เพื่อประสิทธิภาพที่เพิ่มมากขึ้น แนะนำใช้คู่กับ ผลิตภัณฑ์ต่อต้านริ้วรอยใหม่ Eucerin Hyaluron-Filler Epicelline Serum ที่ช่วยป้องกันและลด 10 สัญญาณแห่งวัย ด้วยนวัตกรรม Age Clock Technology ที่ได้รับการจดสิทธิบัตร พร้อมด้วยสาร Epicelline® ที่เป็นสารทรงพลังใหม่ล่าสุดในการต่อต้านความร่วงโรยแห่งวัย ที่ค้นพบโดยทีมนักวิทยาศาสตร์ของ Eucerin หลังจากการวิจัยเกี่ยวกับ Epigenetics อย่างต่อเนื่องกว่า 15 ปี ช่วยชะลอความร่วงโรยของผิว ทั้งริ้วรอย หน้าเหี่ยว ผิวไม่กระชับ และผิวที่ดูแห้งไม่ชุ่มชื้น เสริมประสิทธิภาพด้วย Hyaluronic Acid ที่ช่วยเติมเต็มร่องลึกและเพิ่มความนุ่มชุ่มชื้นให้กับผิว และสาร Glycine Saponin ที่ช่วยกระตุ้นการผลิตไฮยาลูรอนิก คอลลาเจน และเพิ่มอีลาสตินของผิวหนัง พร้อมด้วยสาร Enoxolone ที่ช่วยลดการเสื่อมสลายของกรดไฮยาลูโรนิก ทำให้ผิวหน้ากระชับและดูอ่อนเยาว์กว่าอายุจริงภายใน 4 สัปดาห์

Tips สำหรับการดูแลริ้วรอยใต้ตาอย่างครอบคลุม เริ่มต้นด้วยขั้นตอนบูสต์ผิวทั่วทั้งหน้า ใช้ Eucerin HYALURON RADIANCE-LIFT FILLER BOOSTING ESSENCE เป็นขั้นตอนแรกหลังล้างหน้า เพื่อเตรียมผิวให้พร้อมรับการบำรุงในขั้นตอนถัดไป น้ำตบจะช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นด้วยไฮยาลูรอน 3 โมเลกุล และเสริมประสิทธิภาพให้ผลิตภัณฑ์ขั้นตอนต่อไปซึมดีขึ้น ควรใช้เป็นประจำทั้งเช้าและเย็น สร้างขั้นตอนการดูแลแบบครบทั้งใบหน้า หลังใช้ Boosting Essence แล้ว ให้ทาครีมบำรุงรอบดวงตาเฉพาะจุด เช่น Eucerin HYALURON FILLER EYE CREAM เพื่อดูแลริ้วรอยใต้ตาโดยตรง จากนั้นใช้เซรั่ม เช่น Eucerin HYALURON RADIANCE-LIFT FILLER 3D SERUM เพื่อบำรุงผิวหน้าโดยรวม และจบด้วยครีมบำรุงเช้า-เย็น