ไมโครพลาสติกในผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย – ส่วนผสมที่กำลังเป็นที่จับจ้อง

อ่านแล้ว 1 นาที
แสดงบทความเพิ่มเติม

มลพิษในน้ำที่เกิดจากพลาสติกกำลังเป็นปัญหาใหญ่ในห้วงเวลานี้ ความสัมพันธ์ของมลพิษที่เกิดจากพลาสติกในท้องทะเลกับการใช้ไมโครพลาสติกในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณนั้นกำลังเป็นที่ถกเถียง ไบเออร์สด๊อรฟได้ให้ความสนใจและใส่ใจในประเด็นนี้มาเป็นเวลานาน เรากำลังทำงานอย่างเข้มข้นเพื่อทดแทนไมโครพลาสติกในสูตรต่างๆ ของผลิตภัณฑ์ของเราและตั้งเป้าหมายที่เราปรารถนาสำหรับปี 2563

ไมโครพลาสติกคืออะไร

การถกเถียงในพื้นที่สาธารณะในเรื่องของไมโครพลาสติกนั้นยังเป็นที่โต้แย้งกันอยู่มาก เพราะเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและปัจจุบันยังไม่มีคำนิยามที่เป็นสากลถึงความหมายของคำว่าไมโครพลาสติก หากพูดอย่างทั่วๆ ไป ไมโครพลาสติกคืออนุภาคของพลาสติกที่แข็งตัวและไม่สามารถละลายน้ำได้ ซึ่งมีขนาดห้ามิลลิเมตรหรือเล็กกว่านั้นและไม่สามารถย่อยสลายทางชีวภาพได้ โดยไบเออร์สด๊อรฟได้อ้างอิงจากคำนิยามของโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Environment Programme - UNEP)

ทำไมจึงมีไมโครพลาสติกอยู่ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง

ในอดีตอนุภาคที่แข็งตัวของพลาสติกนี้ถูกใส่ไว้ในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกายที่สามารถล้างออกได้ (อาทิ เจลขจัดผิวหรือเจลอาบน้ำ) เพื่อก่อให้เกิดการขจัดผิวในลักษณะที่อ่อนโยนต่อผิว ไบเออร์สด๊อรฟเป็นบริษัทเครื่องสำอางบริษัทแรกๆ ที่เลิกใช้อนุภาคขจัดผิวจากโพลีเอทิลีนในปี 2555 และทดแทนด้วยทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในอนาคต

ด้วยเหตุนี้ทำให้ยูเซอรินเลิกใช้ไมโครพลาสติกที่มาจากอนุภาคของโพลีเอทิลีนหรือที่เรียกว่าไมโครบีดส์ในผลิตภัณฑ์เมื่อสิ้นปี 2558 ปัจจุบันสูตรผสมของยูเซอรินนั้นใช้อนุภาคไมโครคริสตัลไลน์เซลลูโลสหรือส่วนผสมของไมโครคริสตัลไลน์เซลลูโลส อนุภาคซิลิกอนไดออกไซด์และขี้ผึ้งเทียมจากน้ำมันละหุ่ง เพื่อทดแทนไมโครบีดส์ เป็นอนุภาคทดแทนที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ โดยยังคงความอ่อนโยนและเป็นมิตรต่อผิวหนังเช่นเดิม แต่ยังคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพในการขจัดผิว

ไมโครพลาสติกที่อยู่ในสภาพแวดล้อมของเรานั้นมาจากไหน

ไมโครพลาสติกนั้นไม่ได้มาจากผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและดูแลผิวพรรณเท่านั้น แต่มาจากหลากหลายแหล่ง สิ่งที่พบเห็นบ่อยที่สุดคืออนุภาคเล็กๆ ของพลาสติกที่มาจากชิ้นส่วนพลาสติกขนาดใหญ่ ซึ่งไม่ได้รับการกำจัดอย่างถูกวิธี เช่น ยางรถยนต์ที่เสื่อมสภาพ พลาสติกแตกตัวเป็นชิ้นเล็กๆ จนถึงชิ้นเล็กจิ๋วผ่านความผุพังจากกระบวนการตามธรรมชาติและการกัดเซาะ

เศษเส้นใยจากผ้าใยสังเคราะห์ที่หลุดออกระหว่างการซักล้างหรืออนุภาคเล็กๆ ของพลาสติกที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ของใช้ประจำวัน จากการศึกษาของสถาบันฟรอนโฮเฟอร์ (Frauenhofer Institute) พบว่าประชากรในเยอรมนีหนึ่งคนเป็นต้นเหตุการเกิดไมโครพลาสติก 4 กิโลกรัมต่อปี จากตัวเลขนี้มีเพียง 19 กรัมหรือร้อยละ 0.5 ที่มาจากผลรวมของผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายและเครื่องสำอาง

ไมโครพลาสติกมีผลเสียต่อร่างกายจริงหรือ

เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง โดยมีการยืนยันจากการแถลงอย่างเป็นทางการของสถาบันแห่งชาติว่าด้วยการประเมินความเสี่ยง ( Federal Institute for Risk Assessment) ในปี 2557 ซึ่งรวมถึงการใช้กับผิวหนังภายนอกและไมโครพลาสติกที่กลืนเข้าร่างกายโดยมิได้ตั้งใจ

ยูเซอรินและไบเออร์สด๊อรฟคิดอย่างไรกับไมโครพลาสติก

จากการถกเถียงที่มีอยู่ในขณะนี้เกี่ยวกับพลาสติกในมหาสมุทร ยูเซอรินและไบเออร์สด๊อรฟตระหนักดีว่าต้องดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องนี้ นับเป็นส่วนหนึ่งในกลยุทธ์ขององค์กรที่เราให้ความสำคัญ ทั้งกับคุณภาพและผลกระทบระยะยาวต่อระบบนิเวศน์ที่เกิดขึ้นจากผลิตภัณฑ์ เราถือว่าเรื่องเหล่านี้เป็นความรับผิดชอบของเรา

ไบเออร์สด๊อรฟได้ถอดโพลีเมอร์สังเคราะห์อนุภาคเล็กและแข็งตัวที่นับว่าเป็นไมโครพลาสติกออกจากสูตรผสมของผลิตภัณฑ์ที่ล้างออกได้ทุกตัวของยูเซอริน ในอดีตสารเหล่านี้ถูกนำมาใช้เพื่อก่อให้เกิดความเงาในเครื่องสำอางและได้เปลี่ยนเป็นทางเลือกอื่นที่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ นอกจากนี้ไบเออร์สด๊อรฟยังมุ่งมั่นที่จะเลิกใช้ไนลอนเป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ทุกตัวของแบรนด์ยูเซอรินภายในสิ้นปี 2563

วัตถุประสงค์ของเรา: เสริมความงามโดยปราศจากไมโครพลาสติก
สรุปย่อ

  • ไบเออร์สด๊อรฟมุ่งมั่นที่จะกำจัดวัตถุดิบที่มาจากไมโครพลาสติกในสูตรผสมของผลิตภัณฑ์และปรับปรุงความสามารถในการอยู่ร่วมกันกับสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง
  • ตั้งแต่สิ้นปี 2558 เราหยุดใช้สิ่งที่เรียกว่าไมโครบีดส์ เพื่อการขจัดผิวในผลิตภัณฑ์ของเราทั่วโลกมา เราทดแทนการใช้อนุภาคโพลีเอทิลีนด้วยอนุภาคขจัดผิวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแทน
  • เราจะเปลี่ยนการใช้สารสร้างความเงาในเครื่องสำอางทั้งหมดมาเป็นทางเลือกที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพอย่างช้าที่สุดภายในปี 2563
  • ภายในปี 2563 เรายังจะเลิกใช้ไนลอนในส่วนผสมทั้งสิ้นและปรับเปลี่ยนสูตรผสมของผลิตภัณฑ์ให้ตอบสนองกับภารกิจนี้
  • ภายในสิ้นปี 2568 ผลิตภัณฑ์ของเราจะปราศจากโพลิเมอร์ที่ไม่สามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพ

 

มลพิษในน้ำที่เกิดจากพลาสติกกำลังเป็นปัญหาใหญ่ในห้วงเวลานี้ ความสัมพันธ์ของมลพิษที่เกิดจากพลาสติกในท้องทะเลกับการใช้ไมโครพลาสติกในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณนั้นกำลังเป็นที่ถกเถียง ไบเออร์สด๊อรฟได้ให้ความสนใจและใส่ใจในประเด็นนี้มาเป็นเวลานาน เรากำลังทำงานอย่างเข้มข้นเพื่อทดแทนไมโครพลาสติกในสูตรต่างๆ ของผลิตภัณฑ์ของเราและตั้งเป้าหมายที่เราปรารถนาสำหรับปี 2563

การถกเถียงในพื้นที่สาธารณะในเรื่องของไมโครพลาสติกนั้นยังเป็นที่โต้แย้งกันอยู่มาก เพราะเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและปัจจุบันยังไม่มีคำนิยามที่เป็นสากลถึงความหมายของคำว่าไมโครพลาสติก หากพูดอย่างทั่วๆ ไป ไมโครพลาสติกคืออนุภาคของพลาสติกที่แข็งตัวและไม่สามารถละลายน้ำได้ ซึ่งมีขนาดห้ามิลลิเมตรหรือเล็กกว่านั้นและไม่สามารถย่อยสลายทางชีวภาพได้ โดยในบริบทนี้เราอ้างอิงจากคำนิยามของโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Environment Programme  - UNEP) ซึ่งเป็นที่ปฏิบัติตามอย่างกว้างขวางในมุมมองทางวิทยาศาสตร์

การถกเถียงในพื้นที่สาธารณะในเรื่องของไมโครพลาสติกนั้นยังเป็นที่โต้แย้งกันอยู่มาก เพราะเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและปัจจุบันยังไม่มีคำนิยามที่เป็นสากลถึงความหมายของคำว่าไมโครพลาสติก หากพูดอย่างทั่วๆ ไป ไมโครพลาสติกคืออนุภาคของพลาสติกที่แข็งตัวและไม่สามารถละลายน้ำได้ ซึ่งมีขนาดห้ามิลลิเมตรหรือเล็กกว่านั้นและไม่สามารถย่อยสลายทางชีวภาพได้ โดยในบริบทนี้เราอ้างอิงจากคำนิยามของโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Environment Programme  - UNEP) ซึ่งเป็นที่ปฏิบัติตามอย่างกว้างขวางในมุมมองทางวิทยาศาสตร์

 

 

ต่อจากหมุดหมายนี้ เราได้ตั้งเป้าหมายที่เราจะทะยานไปในปี 2563 ดังนี้:

 

เพื่อความปลอดภัย อย่างช้าที่สุดภายในปี 2563 เราจะเลิกใช้อนุภาคโพลิเมอร์สังเคราะห์ขนาดเล็กและแข็งตัวที่เรานับว่าเป็นไมโครพลาสติกออกจากผลิตภัณฑ์ที่ต้องล้างออกทุกตัว ในอดีตสารเหล่านี้ถูกนำมาใช้เพื่อก่อให้เกิดความเงาในเครื่องสำอางและได้เปลี่ยนเป็นทางเลือกอื่นที่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ สารก่อให้เกิดความเงาในเครื่องสำอางสร้างคุณลักษณะของเนื้อครีมและสีในสูตรผสมของผลิตภัณฑ์บางอย่าง การเปลี่ยนสูตรผสมที่เกี่ยวข้องนี้จะทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ต้องล้างออกทุกชิ้นของไบเออร์สด๊อรฟนั้นปราศจากไมโครพลาสติก

เรายังปฏิบัติมาตรการป้องกันด้วยการยกเลิกการใช้ไนลอนเป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของเรา ปัจจุบันเรายังใช้ไนลอน เพื่อช่วยปรับปรุงความรู้สึกเรียบเนียนของผิวพรรณในผลิตภัณฑ์ประเภททาทิ้งไว้ ซึ่งไม่ต้องล้างออกและสามารถทิ้งไว้บนผิวหนังได้หลังจากทาเสร็จ

เพื่อให้บรรลุความมุ่งมั่นที่เราวางไว้สำหรับปี 2563 เป็นอย่างช้าที่สุด เรากำลังทำงานอย่างแข็งขันที่จะปรับเปลี่ยนสูตรผสมและนำเสนอผลิตภัณฑ์ เราไม่ใช้วัตถุดิบที่มีไมโครบีดส์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่

บทความเกี่ยวข้อง