โรคภูมิแพ้ คืออะไร อาการของภูมิแพ้ที่แสดงออกมาที่ผิวหนัง และการดูแลตนเองเบื้องต้น

อ่านแล้ว 5 นาที
แสดงบทความเพิ่มเติม

โรคภูมิแพ้ เป็นอาการที่พบกันบ่อยมากขึ้นในไทย ที่พบมากที่สุดจะเป็น โรคภูมิแพ้ที่แสดงออกทางผิวหนัง และโรคภูมิแพ้ระบบทางเดินหายใจ เพราะสภาพแวดล้อมและภูมิอากาศที่เปลี่ยนไป จนปัจจัยที่ทำให้เกิดภูมิแพ้ต่างๆมีการสะสมในที่อยู่อาศัยหรือสภาพแวดล้อม จนกระตุ้นให้เกิดภูมิแพ้ขึ้น


โรคภูมิแพ้ คืออะไร?

โรคภูมิแพ้ (Allergy) คือปฏิกิริยาของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายที่ตอบสนองต่อ "สารก่อภูมิแพ้" (Allergens) ซึ่งเป็นสิ่งที่ปกติแล้วไม่เป็นอันตรายต่อคนทั่วไป แต่สำหรับผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ ร่างกายจะเข้าใจผิดว่าสารเหล่านี้เป็นสิ่งแปลกปลอมที่เป็นอันตราย และจะสร้างสารภูมิต้านทานชนิด Immunoglobulin E (IgE) ขึ้นมาเพื่อต่อต้าน
เมื่อร่างกายได้รับสารก่อภูมิแพ้ในครั้งถัดไป IgE จะกระตุ้นให้เซลล์ในร่างกายหลั่งสารเคมีต่าง ๆ ออกมา โดยเฉพาะ "ฮีสตามีน" (Histamine) ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดอาการแพ้ในระบบต่าง ๆ ของร่างกายนั่นเอง


ประเภทของสารก่อภูมิแพ้ที่พบบ่อย

สารก่อภูมิแพ้มีอยู่รอบตัวเรา สามารถแบ่งเป็นกลุ่มหลัก ๆ ได้ดังนี้:

  • สารก่อภูมิแพ้ในอากาศ: เช่น ไรฝุ่น, เกสรดอกไม้, ขนสัตว์เลี้ยง (สุนัข, แมว), เชื้อราในอากาศ, แมลงสาบ
  • สารก่อภูมิแพ้ประเภทอาหาร: เช่น นมวัว, ไข่, ถั่วลิสง, แป้งสาลี, อาหารทะเล
  • สารก่อภูมิแพ้จากการสัมผัส: เช่น โลหะนิกเกิล, ยาง (Latex), สารเคมีในเครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
  • อื่นๆ: เช่น ยาบางชนิด, พิษจากแมลง (ผึ้ง, ต่อ, แตน)

อาการของ โรคภูมิแพ้เป็นอย่างไร

อาการภูมิแพ้จะแสดงออกแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่าสารก่อภูมิแพ้เข้าสู่ร่างกายทางไหนและส่งผลต่ออวัยวะใด

  • ระบบทางเดินหายใจ (ภูมิแพ้อากาศ):
    • จามบ่อยติดต่อกัน
    • คัดจมูก น้ำมูกใสไหล
    • คันตา แสบตา น้ำตาไหล ตาบวม (ภูมิแพ้ขึ้นตา)
    • ไอเรื้อรัง หายใจมีเสียงวี้ด หรืออาจรุนแรงจนเกิดภาวะหอบหืด
  • ผิวหนัง (ภูมิแพ้ผิวหนัง):
    • ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic Dermatitis): เป็นผื่นแดง แห้ง คัน มักพบบริเวณข้อพับแขน-ขา ใบหน้า และลำคอ
    • ลมพิษ: เป็นผื่นนูนแดง คันมาก สามารถเกิดขึ้นได้ทั่วร่างกาย
    • ผิวหนังอักเสบจากการสัมผัส: เกิดผื่นแดง คัน หรือเป็นตุ่มน้ำใสในบริเวณที่สัมผัสกับสารที่แพ้
  • ะบบทางเดินอาหาร (ภูมิแพ้อาหาร):
    • คันในช่องปาก ริมฝีปากบวม
    • คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องเสีย
  • อาการแพ้รุนแรงเฉียบพลัน (Anaphylaxis): เป็นปฏิกิริยาที่อันตรายถึงชีวิต ต้องรีบพบแพทย์ทันที อาการอาจเกิดขึ้นพร้อมกันหลายระบบ เช่น มีผื่นลมพิษทั่วตัว, หายใจลำบาก, ความดันโลหิตตก, และอาจหมดสติได้
อาการของโรคภูมิแพ้

การวินิจฉัยและการรักษาโรคภูมิแพ้

หากสงสัยว่าเป็นโรคภูมิแพ้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง ซึ่งโดยทั่วไปมีวิธีการดังนี้:

  1. การซักประวัติ: แพทย์จะสอบถามอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และประวัติภูมิแพ้ในครอบครัว
  2. การทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนัง (Skin Prick Test): เป็นวิธีที่แม่นยำและรวดเร็ว โดยการหยดน้ำยาสกัดจากสารก่อภูมิแพ้ชนิดต่าง ๆ ลงบนผิวหนังและใช้เข็มสะกิดเบา ๆ เพื่อดูปฏิกิริยา
  3. การตรวจเลือด: เพื่อหาสารภูมิต้านทาน IgE ที่จำเพาะต่อสารก่อภูมิแพ้แต่ละชนิด

แนวทางการรักษา

  • การหลีกเลี่ยง: วิธีที่ดีที่สุดคือการหลีกเลี่ยงสารที่ตนเองแพ้
  • การใช้ยา: แพทย์อาจสั่งยาเพื่อควบคุมอาการ เช่น
    • ยาต้านฮีสตามีน (Antihistamines): หรือที่เรียกกันว่า "ยาแก้แพ้" ช่วยลดอาการคัน จาม น้ำมูกไหล
    • ยาสเตียรอยด์ (Steroids): ทั้งในรูปแบบพ่นจมูกและยาทาผิวหนัง เพื่อลดการอักเสบ
  • ภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy): เป็นการรักษาโดยการฉีดสารก่อภูมิแพ้ที่ผู้ป่วยแพ้เข้าไปในร่างกายทีละน้อย เพื่อให้ร่างกายค่อย ๆ สร้างภูมิต้านทานขึ้นมา

วิธีรักษาโรคภูมิแพ้ การหลีกเลี่ยงและป้องกันตัวเองจากโรคภูมิแพ้เบื้องต้น

การสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ช่วยในการต่อสู้กับโรคภูมิแพ้ที่มีสาเหตุมาจากสิ่งต่างๆรอบตัว

  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
  • หลีกเลี่ยงอาหารที่บางชนิดที่มีสารก่อให้เกิดภูมิแพ้
  • เปลี่ยนไส้กรองอากาศเป็นประจำ เปลี่ยนไส้กรองอากาศในบ้านและในรถยนต์ของคุณเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้สารก่อภูมิแพ้ติดอยู่และไหลเวียน
  • ทำความสะอาดผิวหนัง หรือล้างช่องจมูกเพื่อลดอาการแพ้
  • หลีกเลี่ยงสัตว์เลี้ยงต่างๆที่ก่อให้เกิดอาการแพ้
  • หมั่นสังเกตอาการของภูมิแพ้ และตรวจสอบว่าเราสัมผัสหรือรับประทานอะไรมา
  • ทำความสะอาดบ้านของคุณเป็นประจำ ดูดฝุ่นและฝุ่นเป็นประจำเพื่อกำจัดสารก่อภูมิแพ้ออกจากบ้านของคุณ
  • การใช้ยาและการรักษาอาการ การใช้ยารักษาโรคภูมิแพ้จะเป็นการช่วยควบคุมอาการภูมิแพ้ อย่างการใช้ยา แอนติฮิสตามีนหรือสเตียรอยด์ ที่ช่วยบรรเทาอาการของโรคภูมิแพ้ เช่น โรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจ โพรงจมูกอักเสบ หอบหืด แต่ควรได้รับยาจากแพทย์สั่งให้สามารถใช้ยาได้เท่านั้น
  • ปรึกษาแพทย์ผู้เชียวชาญ หากอาการภูมิแพ้ที่รุนแรงขึ้น เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมของแต่ละบุคคล

ข้อแนะนำสำหรับผู้ที่มีอาการผื่นคันหรือลมพิษจากการโรคภูมิแพ้

อาการผื่นภูมิแพ้ผิวหนังจากโรคภูมิแพ้ เกิดจากการที่ผิวหนังอักเสบที่แสดงออกมาบริเวณผิวหนัง จะสังเกตได้ง่าย เพราะว่าผิวจะมีอาการ แดง คัน หรือ ผื่นเกิดขึ้น หรือในบางรายที่มีอาการอักเสบเป็นระยะเวลานาน อาจจะมีตุ่มต่างๆ หรือผิวหนังลอกเป็นขุยเกิดขึ้นที่ผิวหนังได้ด้วยเช่นกัน สำหรับผู้ที่มีอาการค่อนข้างรุนแรงแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำการรักษาที่ถูกต้อง 

ครีมลดผื่นภูมิแพ้ แก้คัน

ข้อแนะนำสำหรับผู้ที่มีอาการผื่นคันหรือลมพิษจากการโรคภูมิแพ้

สำหรับผู้ที่มีอาการ แดง คัน หรือผื่นเล็กน้อย สามารถป้องกันและบรรเทาอาการได้ด้วยตัวเองในเบื้องต้น เช่น การใช้ ครีมบำรุงผิวที่ลดอาการแห้ง แดง คัน ผื่น อย่าง Eucerin OMEGA ATO-CALMING FACE CREAM ที่เหมาะกับการบรรเทาอาการผื่นจากโรคภูมิแพ้บริเวณผิวหน้าและ Eucerin OMEGA ATO-CALMING BALM สำหรับการบรรเทาอาการที่ผิวกาย สำหรับคนที่มีผิวแห้ง แดง คัน มีแนวโน้มผื่นภูมิแพ้ โดยมีสารสำคัญอย่าง

  • Licochalcone A สารจากธรรมชาติ ที่ช่วยลดปัญหาผิวแห้ง แดง และการระคายที่มีสาเหตุจากผิวแห้ง
  • Omega 3&6 fatty acids และ Ceramides ช่วยเติมไขมันที่จำเป็นเพื่อคืนความชุ่มชื้นให้แก่ผิว เพื่อฟื้นบำรุงชั้นปกป้องผิวให้มีสุขภาพดีขึ้น
  • Shea Butter ที่มีอยู่ใน Omega Balm ที่ช่วยทำให้ชั้นปกป้องผิวแข็งแรงยิ่งขึ้น

ปราศจากพาราเบน น้ำหอม และสี และช่วยลดโอกาสการกลับเป็นซ้ำของปัญหาผิวแห้ง แดง คัน ระคายเคือง สามารถใช้ได้แม้ผิวเด็กทารก 

เซรั่มกันแดด
ผลิตภัณฑ์กันแดด Eucerin SUN ULTRA 100 UV+ ที่ออกแบบมาเพื่อการปกป้องขั้นสุดสำหรับผิวบอบบางแพ้ง่ายและผิวหลังทำเลเซอร์โดยเฉพาะ ด้วยค่า SPF 50+ PA++++ ที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA/UVB ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมด้วยส่วนผสมของ Licochalcone A ช่วยปลอบประโลมผิวที่ระคายเคืองและอักเสบได้ง่าย และ Glycyrrhetinic Acid ที่ช่วยเสริมการฟื้นบำรุงผิวตามธรรมชาติ ช่วยลดโอกาสเกิดปัญหาผิวเสียแสบแดงจากรังสี UV ที่ทำร้ายผิวลึกได้อย่างมั่นใจ เหมาะสำหรับเป็นเกราะป้องกันผิวในทุกๆ วัน

โรคภูมิแพ้ อาจเป็นอาการที่ค่อนข้างยากในการรักษา แต่หากได้รับการป้องกันและการรักษาที่เหมาะสม ก็ช่วยลดอาการภูมิแพ้ที่เกิดขึ้นได้ อาการของโรคภูมิแพ้แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล บางคนอาจมีอาการแพ้รุนแรงในสารบางชนิด ดังนั้นจึงควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและวางแผนการรักษาที่ถูกต้องจะดีที่สุด


คำถามที่พบบ่อย (FAQ) (3)

  • โรคภูมิแพ้รักษาให้หายขาดได้ไหม?

    โรคภูมิแพ้เป็นโรคเรื้อรัง ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถควบคุมอาการให้อยู่ในภาวะสงบและใช้ชีวิตได้ตามปกติ ผ่านการหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้และการรักษาที่ถูกต้อง
  • ภูมิแพ้กับหวัดต่างกันอย่างไร?

    ภูมิแพ้มักมีอาการคัน (คันตา, คันจมูก) และน้ำมูกใส ๆ เป็นหลัก ไม่มีไข้ และอาการจะเป็นนานตราบเท่าที่ยังสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ ส่วนไข้หวัดมักมีไข้ ปวดเมื่อยตามตัว และน้ำมูกมักจะข้นขึ้นในภายหลัง และหายได้เองใน 7-10 วัน
  • อาการแพ้แบบไหนที่ควรรีบไปพบแพทย์ทันที?

    หากมีอาการแพ้รุนแรงเฉียบพลัน (Anaphylaxis) เช่น หายใจติดขัด, แน่นหน้าอก, ผื่นขึ้นทั่วตัวอย่างรวดเร็ว, หน้ามืด หรือเวียนศีรษะ ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วนที่สุด

บทความเกี่ยวข้อง

คุณอาจจะสนใจสิ่งเหล่านี้