ผื่นขึ้นตามตัวเกิดจากอะไร? ควรดูแลรักษาอย่างไรดี

อ่านแล้ว 2 นาที
แสดงบทความเพิ่มเติม
ผื่นคันขึ้นตามตัว

อาการผื่นขึ้นตามตัวเป็นกลุ่มอาการทางผิวหนังที่พบได้บ่อย และมักนำไปสู่การแกะ เกา จนผิวหนังระคายเคือง โดยเฉพาะในคนที่มีผิวแพ้ง่าย บอบบางจะไวต่อการระคายเคืองเป็นพิเศษ จากการสัมผัส หรือต้องเผชิญปัจจัยกระตุ้นต่างๆ และอาการคันยุบยิบ สร้างความรำคาญใจและส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันไม่น้อย หลายคนอาจสงสัยว่าผื่นแดง ตุ่มใส หรืออาการคันเหล่านี้เกิดจากอะไร เป็นสัญญาณของโรคร้ายแรงหรือไม่ และควรดูแลตัวเองอย่างไรดี คนที่มีอาการควรทำความเข้าใจอาการผื่นขึ้นตามตัว ตั้งแต่สาเหตุที่พบบ่อย ประเภทของผื่นที่แตกต่างกัน วิธีดูแลรักษาเบื้องต้นด้วยตนเอง และที่สำคัญคือ สัญญาณอันตรายที่ต้องรีบไปพบแพทย์

ผื่นแบบไหนคือสัญญาณอันตราย ควรไปพบแพทย์ทันที

ก่อนจะไปดูสาเหตุทั่วไป สิ่งสำคัญที่สุดคือการสังเกตอาการที่เป็นสัญญาณอันตราย หากคุณมีผื่นขึ้นตามตัวร่วมกับอาการเหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน

  • มีไข้สูง: ผื่นร่วมกับอาการไข้ อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อที่รุนแรง
  • หายใจลำบาก หรือแน่นหน้าอก: อาจเป็นอาการของโรคภูมิแพ้ชนิดรุนแรง (Anaphylaxis)
  • ผื่นลามทั่วร่างกายอย่างรวดเร็ว: การแพร่กระจายของผื่นที่รวดเร็วผิดปกติควรได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์
  • ผื่นมีลักษณะเป็นตุ่มน้ำ ตุ่มหนอง หรือพุพอง: อาจบ่งบอกถึงการติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัส
  • มีอาการปวดแสบปวดร้อนอย่างรุนแรง: เช่น กรณีของโรคงูสวัด
  • ผื่นขึ้นบริเวณเยื่อบุต่างๆ: เช่น ในปาก ในตา หรือบริเวณอวัยวะเพศ

หากไม่แน่ใจ ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังทันที

ผื่นขึ้นตามตัวเกิดจากอะไร? เปิด 5 สาเหตุหลักที่พบบ่อย

อาการผื่นคันตามตัวอาจมีที่มาจากหลายปัจจัย การทำความเข้าใจสาเหตุจะช่วยให้เราหลีกเลี่ยงและรับมือได้อย่างถูกวิธี

  1. โรคผิวหนังโดยตรง:
    • ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic Dermatitis/Eczema): มักเกิดในผู้ที่มีผิวแห้งและบอบบาง เกราะป้องกันผิวไม่แข็งแรง ทำให้ปัจจัยภายนอกกระตุ้นให้เกิดการอักเสบได้ง่าย
    • ลมพิษ (Urticaria): เกิดจากปฏิกิริยาของระบบภูมิคุ้มกันต่อสิ่งกระตุ้นต่างๆ เช่น อาหาร ยา หรือการติดเชื้อ มีลักษณะเป็นผื่นนูนแดง บวม และคันมาก
    • ผื่นแพ้สัมผัส (Contact Dermatitis): เกิดเมื่อผิวหนังสัมผัสกับสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง (เช่น สบู่, ผงซักฟอก) หรือสารก่อภูมิแพ้ (เช่น โลหะนิกเกิล, ยาง, น้ำหอม)
  2. การติดเชื้อ:
    • เชื้อไวรัส: เช่น โรคหัด, อีสุกอีใส, งูสวัด ซึ่งมักจะมีไข้และอาการอื่นร่วมด้วย
    • เชื้อแบคทีเรีย: ทำให้เกิดการติดเชื้อที่ผิวหนัง มีลักษณะเป็นตุ่มหนอง หรือแผลพุพอง
    • เชื้อรา: เช่น โรคกลาก เกลื้อน มักเกิดบริเวณที่อับชื้นและมีเหงื่อออกมาก
  3. ปฏิกิริยาต่อปัจจัยภายนอก:
    • แมลงสัตว์กัดต่อย: เช่น ยุง มด หรือตัวเรือด ทำให้เกิดตุ่มแดงคัน
    • สภาพอากาศ: อากาศที่ร้อนจัดทำให้เกิด "ผดร้อน" ส่วนอากาศที่หนาวและแห้งก็ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้นและเกิดอาการคันได้ง่าย
    • เสื้อผ้า: เนื้อผ้าที่ระคายเคือง เช่น ผ้าขนสัตว์ หรือสารเคมีตกค้างจากผลิตภัณฑ์ซักผ้า อาจกระตุ้นให้เกิดผื่นได้
  4. ปัจจัยภายในร่างกาย:
    • อาหาร: การแพ้อาหารบางชนิด เช่น อาหารทะเล, ถั่ว, นม สามารถทำให้เกิดผื่นลมพิษได้
    • ยา: การแพ้ยาบางชนิดเป็นสาเหตุสำคัญของผื่นที่เรียกว่า "ผื่นแพ้ยา"
    • ความเครียด: ความเครียดส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันและฮอร์โมน สามารถกระตุ้นให้ผื่นภูมิแพ้หรือลมพิษกำเริบได้
  5. โรคทางระบบอื่นๆ:
  6. ในบางกรณี ผื่นคันอาจเป็นอาการแสดงของโรคภายในร่างกาย เช่น โรคตับ หรือโรคไต

ประเภทของผื่นขึ้นตามตัว

ประเภทผื่น

สาเหตุ

การดูแลรักษา

ผื่นคันทั่วไป

ผื่นคันทั่วไป มักเกิดจากสาเหตุที่ไม่รุนแรง อย่าง ผิวแห้ง อากาศร้อน อากาศแห้ง การเสียดสี การสัมผัสสารระคายเคือง สามารถหายเองได้ภายในเวลาไม่กี่วัน

ใช้โลชั่นทาตามร่างกายเพื่อบรรเทาอาการคันจากผื่นขึ้นที่ตัวเบื้องต้นได้

ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง

ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในเด็ก แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้ทุกวัย และมักเกิดร่วมกับอาการภูมิแพ้อื่นๆ รวมถึงการสัมผัส ฝุ่นและมลภาวะด้วย รวมไปถึง

- ระดับฮอร์โมนแปรปรวน

- ภูมิคุ้มกันของร่างกายบกพร่อง

- ปล่อยให้ผิวแห้งนานเกินไป

- อาบน้ำล้างเหงื่อหรือฝุ่นออก

- ใช้สบู่อ่อนๆ ไม่มีน้ำหอม ไม่ใส่สารกันเสีย เหมาะกับผิวบอบบาง แพ้ง่าย

- หลีกเลี่ยงการใส่เสื้อผ้ารัดรูป เพราะจะยิ่งทำให้เกิดการเสียดสี กระตุ้นให้เกิดการแพ้มีผื่นขึ้นตามตัวและคันมากขึ้น

- ทาโลชั่นหลังอาบน้ำทุกครั้ง เลือกโลชั่นที่ไม่มีน้ำหอมหรือสารเคมี ไม่ควรใช้โลชั่นประเภทไวท์เทนนิ่ง เพราะมีกรดผลไม้ ยิ่งทายิ่งระคาย

- กินยาแก้แพ้กลุ่มแอนตี้ฮีสตามีน

ผื่นลมพิษ

ผื่นลมพิษ เกิดจากการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน มักเกิดจากอาหาร ยา การติดเชื้อ หรือแมลงสัตว์กัดต่อย ผื่นลมพิษมักเกิดขึ้นฉับพลันและหายได้เองภายใน 24 ชั่วโมง หากรุนแรงต้องรีบปรึกษาแพทย์

- หลีกเลี่ยงสาเหตุที่ทำให้เกิดผื่นลมพิษ

- หมั่นสังเกตอาการผิดปกติ ไม่รับประทานหรือสัมผัสสารก่อภูมิแพ้นั้นๆ

- ใช้ยาต้านฮีสตามีนหรือยาแก้แพ้ชนิดที่ไม่ง่วง เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้น

- ดูแลผิวไม่ให้ผิวแห้งตึงจนเกินไป หมั่นทาครีมหรือโลชั่นที่ปราศจากน้ำหอม เพื่อลดความไวของผิวหนัง

- ใช้คาลาไมน์ทาบริเวณผื่นลมพิษเพื่อช่วยลดอาการคัน

- ไม่แกะ เกา ขีดข่วนผิวหนัง เพราะอาจทำให้เกิดผิวหนังอักเสบได้

- ผู้ที่เสี่ยงมีอาการแพ้หรือต้องการทราบความเสี่ยงในการแพ้สารใดๆ อาจป้องกันได้โดยเข้ารับการตรวจหาสารก่อภูมิแพ้ที่เป็นอันตรายต่อร่างกายได้

ผื่นแพ้สัมผัส

ผื่นแพ้สัมผัส เกิดจากการสัมผัสสารที่ก่อให้เกิดการแพ้และระคายเคืองหรือสารก่อภูมิแพ้ อย่าง สบู่ น้ำหอม โลหะ ยาง มักเกิดขึ้นบริเวณที่สัมผัสกับสารระคายเคืองหรือสารก่อภูมิแพ้

- สังเกตว่าเกิดผื่นแพ้หลังจากสัมผัสสิ่งใด และหลีกเลี่ยงสารที่ก่อให้เกิดอาการผื่นแพ้สัมผัส

- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่ไม่ผสมสี น้ำหอม และสารเคมี เพื่อป้องกันการระคายเคือง ไม่ให้เกิดอาการแพ้ที่อาจเพิ่มมากขึ้น

- ดูแลผิวบริเวณที่เป็นผื่นแพ้ ทาครีมหรือโลชั่นที่เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่ายให้ผิวชุ่มชื้น ไม่แห้งคัน

- ใช้ยากลุ่มสเตียรอยด์ หากมีอาการคันร่วมด้วย สามารถรับประทานยาแก้แพ้ร่วมได้

- หากอาการยังไม่ดีขึ้น ควรเข้าพบแพทย์ผิวหนังเพื่อรักษาได้ทันท่วงที


สิ่งที่กระตุ้นให้ผื่นคันกำเริบหรือเกิดผื่นขึ้นตามตัว

  • ฝุ่นและมลภาวะ เมื่อเราเจอกับฝุ่นละออง หรือไรฝุ่นที่อยู่รอบตัวเรา สิ่งนี้อาจทำให้ผื่นขึ้นตามตัว หรือมีอาการคันตามร่างกายของเรายิ่งกำเริบมากยิ่งขึ้นได้
  • อากาศและฤดูกาล ในช่วงอากาศหนาว และอากาศร้อนเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้อาการผื่นขึ้นตามตัว และมีอาการคันของเรากำเริบได้ อย่างในหน้าหนาวเพราะความชื้นในอากาศต่ำ อากาศที่เย็นขึ้นและแห้งอาจทำให้เกิดอาการคันตามร่างกาย และในช่วงหน้าร้อน อากาศที่ร้อนทำให้เหงื่อออกมาตามซอกร่างกายจนทำให้เกิดอาการคันผื่นขึ้นตามตัวในบริเวณที่เกา
  • แพ้อาหารบางชนิด ภูมิแพ้อาหารเป็นปฎิกิริยาของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เมื่อเราทานอาหารที่เรามีอาการแพ้อาจจะทำให้เกิดอาการคันตามร่างกายมากขึ้น อาหารที่มักทำให้เกิดอาการแพ้ได้แก่ สัตว์ทะเล กุ้ง ปู ถั่วต่างๆ นมวัว ปลา ไข่ไก่ เป็นต้น
  • เครื่องนุ่งห่มและเสื้อผ้าที่เราสวมใส่ เสื้อผ้าที่เราสวมใส่อาจทำให้เราแพ้ได้หรือที่เรียกว่า ผื่นแพ้เสื้อผ้า ซึ่งอาจเกิดจากร่างกายได้สัมผัสกับเส้นใยผ้าบางชนิด และทำให้เราเกิดความระคายเคือง หรืออาจเกิดจากสารเคมีของผงซักฟอกและน้ำปรับผ้านุ่มที่เราใช้ อาจเป็นปัจจัยหนึ่งทำให้ผื่นขึ้นตามตัว หรือผื่นคันกำเริบขึ้นได้

บริเวณที่มักเกิดผื่นคัน

  • ใบหน้า
  • ลำตัว
  • แขน
  • ขา
  • ข้อพับต่างๆ
  • มือ
  • เท้า

5 การดูแลรักษาเบื้องต้นของอาการ ผื่นขึ้นตามตัว

เมื่อเกิดอาการคัน เรามักเกาบริเวณที่คันแบบไม่รู้ตัว แต่ยิ่งเกา ก็จะยิ่งทำลายเกราะป้องกันผิว ทำให้สารระคายเคืองเข้าสู่ผิวได้มากขึ้น และกระตุ้นให้คันกว่าเดิม กลายเป็น "วงจรผิวแห้งคัน" ที่ไม่จบสิ้น การดูแลที่ถูกต้องคือการตัดวงจรนี้

การดูแลเบื้องต้นทำเองได้ง่ายๆ

  • หลีกเลี่ยงการเกา: พยายามตัดเล็บให้สั้น หรือใช้การลูบเบาๆ แทน หากคันมากให้ใช้ผ้าเย็นประคบบริเวณที่มีอาการประมาณ 5-10 นาที
  • อาบน้ำอย่างถูกวิธี: อาบน้ำในอุณหภูมิปกติ ไม่ร้อนหรืออุ่นจนเกินไป และใช้เวลาไม่เกิน 10-15 นาที เพื่อไม่ให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น
  • เลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด: ใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน ปราศจากสบู่ (Soap-free), น้ำหอม และแอลกอฮอล์
  • ซับผิวเบาๆหลังอาบน้ำ ให้ใช้ผ้าขนหนูนุ่มๆ ซับผิวเบาๆ ให้พอหมาด ไม่ควรถูแรงๆ
  • ทามอยส์เจอไรเซอร์ทันที: ขั้นตอนที่สำคัญที่สุด คือการทามอยส์เจอไรเซอร์หรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวให้ทั่วร่างกายภายใน 3 นาทีหลังอาบน้ำ เพื่อล็อกความชุ่มชื้นไว้ในผิว

ข้อห้ามเมื่อมีผื่นขึ้นตามตัว

  • ห้ามเกา: การเกาอาจทำให้ผิวหนังถลอกและเสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนได้ หากคันมากให้ใช้วิธีลูบเบาๆ หรือประคบเย็นแทน
  • หลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อนจัด: น้ำร้อนจะชะล้างไขมันตามธรรมชาติออกจากผิว ทำให้ผิวแห้งและคันกว่าเดิม
  • งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์หรือน้ำหอม: เพราะจะทำให้ผิวระคายเคืองมากขึ้น
  • อย่าซื้อยาสเตียรอยด์มาทาเองโดยไม่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: การใช้ยาสเตียรอยด์ที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้

แนวทางการรักษาผื่นขึ้นตามตัว

หากการดูแลเบื้องต้นไม่ดีขึ้น การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมจะช่วยบรรเทาอาการและฟื้นฟูผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ยาทาแก้คัน:

  • คาลาไมน์ โลชั่น (Calamine Lotion): ช่วยบรรเทาอาการคันและระคายเคืองเบื้องต้น
  • ยาทากลุ่มสเตียรอยด์ (Topical Steroids): ใช้สำหรับลดการอักเสบของผื่น ควรใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร

 

ยารับประทาน:

  • ยาแก้แพ้ (Antihistamines): ช่วยลดอาการคันและผื่นลมพิษได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีทั้งชนิดที่ทำให้ง่วงและไม่ง่วง

 

ผลิตภัณฑ์เวชสำอางเพื่อการฟื้นบำรุงเกราะป้องกันผิว:

หัวใจสำคัญของการจัดการผื่นคันที่เกิดจากผิวแห้งและผิวแพ้ง่าย คือการ "เสริมสร้างเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier)" ให้แข็งแรงควบคู่ไปกับการให้ความชุ่มชื้น ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังมักแนะนำให้มองหาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่เน้นให้ความชุ่มชื้นกับผิว

ครีมลดอาการคัน ผื่นขึ้น ให้ความชุ่มชื้นกับผิว

Eucerin OMEGA ATO-CALMING BALM

  • เหมาะสำหรับ : เหมาะกับผู้ที่มีผิวแห้งมาก คันตามผิวหนัง
  • เนื้อสัมผัส : บาล์มชนิดน้ำมัน เนื้อบางเบา ไม่ทิ้งความมันเหนอะหนะ
  • คุณสมบัติ : บาล์มบำรุงผิวหน้าและผิวกาย มีส่วนผสมของสารสกัดจากธรรมชาติ ไขมันจำเป็นในชั้นผิวหนังและ Shea Butter คอยเติมความชุ่มชื้นกลับคืนสู่ผิว ช่วยฟื้นบำรุงผิวแห้ง คันที่อ่อนแอให้กลับมาแข็งแรงขึ้น ลดปัญหาผื่นขึ้นตามตัวและอาการคันตามผิวหนัง ปรับสภาพผิวให้ผิวเนียนนุ่มขึ้น
ครีมสำหรับคนที่มีผื่นคันตามตัวไม่รุนแรง

Eucerin OMEGA ATO-CALMING FACE CREAM

  • เหมาะสำหรับ : ผู้มีปัญหาผื่นคันตามตัวและใบหน้า หรือผิวแห้ง แดง คัน หรือผดผื่นที่มีแนวโน้มเป็นผื่นภูมิแพ้และสามารถใช้งานกับผิวเด็กเล็กได้
  • เนื้อสัมผัส : เป็นเนื้อครีม เบาบาง เกลี่ยง่าย ซึมลงสู่ผิวได้รวดเร็ว
  • คุณสมบัติ : มีสารสกัดจากธรรมชาติ เซราไมด์, โอเมก้า และ 3&6 Fatty Acids ไขมันจำเป็นในชั้นผิวที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นและฟื้นบำรุงให้เกราะปกป้องผิวแข็งแรงขึ้น ทำงานร่วมกับ ลิโคชาลโคน เอ ช่วยลดปัญหาผื่นขึ้นตามตัว ผิวแดง คัน หรือการระคายเคืองที่เกิดจากผิวแห้ง ปราศจากพาราเบน น้ำหอม สี และสารที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว
ครีมทาตัว ปรับสมดุลผิว เสริมเกราะป้องกันผิว

Eucerin UREA REPAIR SOOTHING SCENT 5% UREA MOISTURIZING LOTION

  • เหมาะสำหรับ : ผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งมาก ปัญหาโรคผิวหนัง
  • เนื้อสัมผัส : เนื้อครีมเข้มข้น เคลือบผิว เก็บความชุ่มชื้น
  • คุณสมบัติ : ครีมบำรุงสูตรข้มข้นผสาน Urea ที่มีคุณสมบัติช่วยกักเก็บและเติมความชุ่มชื้นให้ผิวเรียบเนียน ชุ่มชื้นยาวนานตลอด 48 ชั่วโมง ช่วยลดอาการคันตามผิวหนังที่อาจเกิดขึ้นจากปัญหาผิวแห้งมากได้ สามารถใช้ได้เป็นประจำทุกวัน

การทำความสะอาดผิวกายเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญที่ช่วยดูแลให้เกราะปกป้องผิวแข็งแรงและสุขภาพดีขึ้นได้ เนื่องจากอาการผื่นคันตามตัวหรือปัญหาผิวแห้งกร้านนั้นมีเกี่ยวข้องกับความชุ่มชื้นในผิว หากผิวสูญเสียความชุ่มชื้นหรือสมดุลในผิวแล้วก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสการเป็นผื่นคันซ้ำซ้อนและผื่นขึ้นตามตัว หรือปัญหาผิวแห้งที่รุนแรงขึ้น ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวกายจำเป็นต้องมีคุณสมบัติในการชำระล้างสิ่งสกปรกได้อย่างดี และช่วยไม่ให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นออกไป หากมีการเลือกผลิตภัณฑ์อย่างเหมาะสม ใช้งานควบคู่กันจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลผิวแห้ง อาการคันตามผิวหนังได้ดีมากยิ่งขึ้น

โดยสรุปแล้ว การรับมือกับปัญหาผื่นคันตามผิวหนังต้องอาศัยความเข้าใจในสาเหตุ การหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น และที่สำคัญที่สุดคือ การดูแลเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรงอยู่เสมอ ด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมและอ่อนโยนอย่าง Eucerin AtopiControl คุณจะสามารถควบคุมปัญหาผิวแห้ง แดง คัน และกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างสบายใจและมั่นใจอีกครั้ง

คำถามที่พบบ่อย (4)

  • คันแบบไหนอันตราย

    อาการคันสามารถเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ แต่อาการคันที่เกิดจากการเป็นกลาก ลมพิษ อีสุกอีใส เริม โรคสะเก็ดเงิน อาจลุกลาม หรือติดเชื้อได้ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมของแต่ละบุคคล

  • ทำไมอาบน้ำเสร็จแล้วคัน

    อาการคันหลังอาบน้ำเสร็จสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย อย่างการอาบน้ำอุ่นหรือร้อนจนเกินไปอาจทำให้ผิวแห้งจนเกิดอาการคัน รวมถึงการใช้สบู่ที่ระคายเคืองผิวหนัง อาการแพ้คลอรีน โรคผิวหนังบางชนิด แนะนำควรเลือกครีมทาผิวที่เหมาะสมทาตามร่างกายหลังการอาบน้ำ

  • ผื่นคันตอนกลางคืนเกิดจากอะไร?

    อุณหภูมิร่างกายที่สูงขึ้นเล็กน้อยในเวลากลางคืน และการสูญเสียความชุ่มชื้นของผิวตามธรรมชาติ (Transepidermal Water Loss) จะเกิดขึ้นมากที่สุดในช่วงเวลานี้ ทำให้ผิวแห้งและคันง่ายขึ้น การทาบาล์มบำรุงที่เข้มข้นก่อนนอนจะช่วยลดปัญหานี้ได้
  • ความเครียดทำให้เกิดผื่นคันได้จริงหรือ?

    ความเครียดทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนที่กระตุ้นการอักเสบ ทำให้เกราะป้องกันผิวอ่อนแอลง และส่งผลให้อาการผื่นคันกำเริบได้ การจัดการความเครียดควบคู่ไปกับการดูแลผิวจึงเป็นสิ่งสำคัญ

บทความเกี่ยวข้อง