โรคสะเก็ดเงิน ปัญหาผิว สาเหตุ อาการ และวิธีรักษา

อ่านแล้ว 1 นาที
แสดงบทความเพิ่มเติม

โรคสะเก็ดเงิน เป็นโรคผิวหนังเรื้อรัง ที่มีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้บ่อยๆ ผิวหนังจะอักเสบเป็นปื้นแดง ลอกเป็นขุย สามารถพบได้ในทุกช่วงอายุ แต่พบมากในผู้สูงอายุ โดยเฉพาะในช่วง 50-60 ปี


โรคสะเก็ดเงิน คืออะไร

โรคสะเก็ดเงิน คือโรคผิวหนังอักเสบเรื้อรังชนิดหนึ่งที่ไม่ใช่โรคติดต่อ เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานผิดปกติ ทำให้เซลล์ผิวหนังแบ่งตัวเร็วกว่าปกติจนเกิดการสะสมเป็นปื้นหนา แดง และมีขุยหรือสะเก็ดสีขาวเงินปกคลุม แม้โรคนี้จะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่การทำความเข้าใจและดูแลอย่างถูกวิธีจะช่วยควบคุมอาการและทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้

อาการของ โรคสะเก็ดเงิน

อาการของโรคสะเก็ดเงินอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล แต่ลักษณะที่พบได้บ่อยที่สุด ได้แก่:

  • ผื่นแดง (Erythematous plaques): ผิวหนังเป็นปื้นนูนแดงหนา ขอบเขตชัดเจน
  • สะเก็ดสีเงิน (Silvery scales): มีขุยหรือสะเก็ดสีขาวคล้ายเงินปกคลุมบนผื่นแดง เมื่อขูดออกอาจพบจุดเลือดซิบๆ
  • อาการคัน: ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักมีอาการคัน ซึ่งอาจรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน
  • ตำแหน่งที่พบบ่อย: มักพบบริเวณที่มีการเสียดสีบ่อยๆ เช่น ข้อศอก, หัวเข่า, หนังศีรษะ, หลังส่วนล่าง แต่ก็สามารถเกิดได้ทุกส่วนของร่างกาย รวมถึงเล็บและข้อต่อ
  • ความผิดปกติของเล็บ: เล็บอาจมีลักษณะเป็นหลุม, หนาตัวขึ้น, หรือเปลี่ยนสี
  • อาการปวดข้อ: ในผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการของโรคข้ออักเสบสะเก็ดเงิน (Psoriatic Arthritis) ร่วมด้วย

สาเหตุของโรคสะเก็ดเงิน

โรคสะเก็ดเงิน สามารถถ่ายทอดจากพ่อแม่สู่ลูกได้
หลีกเลี่ยงความเครียด เนื่องจากอาจกระตุ้นให้อาการกำเริบได้

สาเหตุหลักของโรคสะเก็ดเงินยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับ 2 ปัจจัยหลักคือ พันธุกรรม และ ระบบภูมิคุ้มกัน

  • พันธุกรรม (Genetics) หากมีคนในครอบครัวเป็นโรคนี้ ก็จะมีความเสี่ยงสูงกว่าคนทั่วไป
  • ระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ (Immune System Dysfunction) ร่างกายเข้าใจผิดว่าเซลล์ผิวหนังเป็นสิ่งแปลกปลอม จึงส่งเซลล์เม็ดเลือดขาว (T-cells) มาโจมตี ทำให้เกิดการอักเสบและกระตุ้นให้เซลล์ผิวหนังแบ่งตัวเร็วกว่าปกติหลายเท่า

 

ปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้อาการกำเริบ (Triggers)

แม้จะมีปัจจัยทางพันธุกรรมอยู่แล้ว แต่ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักมีอาการกำเริบเมื่อเจอกับปัจจัยกระตุ้นเหล่านี้:

  • ความเครียด เป็นปัจจัยกระตุ้นที่พบบ่อยที่สุด
  • การติดเชื้อ โดยเฉพาะการติดเชื้อแบคทีเรียในลำคอ (Strep throat)
  • การบาดเจ็บของผิวหนัง เช่น แผลถลอก, รอยขีดข่วน, หรือแม้แต่การเกาอย่างรุนแรง
  • ยาบางชนิด เช่น ยาลดความดันบางกลุ่ม, ยาลิเทียม, ยาต้านมาลาเรีย
  • การดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่
  • สภาพอากาศ อากาศที่แห้งและเย็นอาจทำให้อาการแย่ลง

โรคสะเก็ดเงินมีกี่ประเภท?

โรคสะเก็ดเงินสามารถแบ่งออกได้หลายประเภทตามลักษณะของผื่น:

  • สะเก็ดเงินชนิดผื่นหนา (Plaque Psoriasis): พบบ่อยที่สุด (ประมาณ 80-90%) มีลักษณะเป็นปื้นแดงหนาและมีสะเก็ดสีเงินปกคลุม
  • สะเก็ดเงินชนิดหยดน้ำ (Guttate Psoriasis): มักพบในเด็กและวัยรุ่นหลังการติดเชื้อในลำคอ มีลักษณะเป็นตุ่มแดงเล็กๆ คล้ายหยดน้ำกระจายทั่วตัว
  • สะเก็ดเงินชนิดตุ่มหนอง (Pustular Psoriasis): เป็นชนิดที่พบไม่บ่อย มีลักษณะเป็นตุ่มหนองสีขาวบนผิวหนังที่แดงอักเสบ
  • สะเก็ดเงินบริเวณซอกพับ (Inverse Psoriasis): เกิดบริเวณข้อพับต่างๆ เช่น รักแร้, ขาหนีบ, ใต้ราวนม มีลักษณะเป็นผื่นแดงเรียบ มันวาว และไม่มีขุย
  • ข้ออักเสบสะเก็ดเงิน (Psoriatic Arthritis): ผู้ป่วยประมาณ 30% จะมีอาการข้ออักเสบร่วมด้วย ทำให้มีอาการปวด, บวม, และฝืดแข็งตามข้อต่างๆ

แนวทางการรักษาโรคสะเก็ดเงิน

การรักษาโรคสะเก็ดเงิน คือการควบคุมอาการ ลดการอักเสบ ชะลอการแบ่งตัวของเซลล์ผิว และทำให้โรคอยู่ในระยะสงบให้ยาวนานที่สุด ซึ่งแพทย์จะเลือกแนวทางที่เหมาะสมตามความรุนแรงและประเภทของโรค

  • ยาทาภายนอก (Topical Treatment): เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง
    • ยาทาสเตียรอยด์: ช่วยลดการอักเสบและอาการคันได้อย่างรวดเร็ว แต่ควรใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียง
    • ยาทาวิตามินดีสังเคราะห์: ช่วยชะลอการเติบโตของเซลล์ผิว
    • สารช่วยผลัดเซลล์ผิว (Keratolytic agents): เช่น Salicylic acid, Urea ช่วยลดความหนาของสะเก็ด
  • การฉายแสงอาทิตย์เทียม (Phototherapy): เป็นการใช้รังสีอัลตราไวโอเลต (UVB) ในการรักษา ซึ่งได้ผลดีกับผู้ป่วยที่มีอาการปานกลางถึงรุนแรง
  • ยารับประทานและยาฉีด (Systemic & Biologic aeds): สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง หรือไม่ตอบสนองต่อการรักษาอื่น เช่น ยาปรับภูมิคุ้มกันและยาฉีดชีวภาพ ซึ่งออกฤทธิ์โดยตรงต่อระบบภูมิคุ้มกัน

การดูแลผิวและรักษาความชุ่มชื้นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่เป็นโรคสะเก็ดเงิน

ต้องทำให้ผิวชุ่มชื้นอยู่เสมอ
นอกจาสารให้ความชุ่มชื้นแล้ว ควรมีสารประเภทอื่นประกอบในผลิตภัณฑ์นั้นด้วย

การใช้ผลิตภัณฑ์ให้ความชุ่มชื้นเป็นการดูแลพื้นฐานที่จำเป็น นอกจากนั้น การรักษาโรคสะเก็ดเงินโดยใช้ยาทาสเตียรอยด์ เพื่อลดอาการอักเสบของผิวก็มีความจำเป็น แต่ควรใช้ในช่วงเวลาสั้นๆ

ผลิตภัณฑ์ให้ความชุ่มชื้นแบบเคลือบผิว มีส่วนช่วยให้ลดอาการเป็นขุยและใช้เคลือบผิวเพื่อป้องกันน้ำสูญเสียออกจากผิว และยังมีสารให้ความชุ่มชื้นแบบอื่นๆ คือ สารให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติผิว (NMFs) ช่วยเพิ่มการยึดเกาะโมเลกุลของน้ำไว้ภายในเซลล์ผิว นอกจากนั้นยังมีสาร กลูโค-กลีเซอรอล ช่วยเพิ่มการส่งผ่านน้ำจากเซลล์สู่เซลล์ในชั้นผิวที่ลึกลงไป

การใช้ผลิตภัณฑ์ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว จำเป็นต้องใช้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าอาการที่ผิวจะหายไปแล้วก็ตาม เพื่อช่วยป้องกันการกลับเป็นซ้ำ

ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้นสำหรับผิวแห้ง ไม่มีส่วนประกอบของน้ำหอม และสารระคาบยเคือง
ยาทาสเตียรอยด์ให้คุณสมบัติในการลดการอักเสบที่ผิว

  • สารที่ช่วยลอกผิว (Keratolytic agents) เพื่อช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายและเสื่อมสภาพแล้ว ให้หลุดลอกออกไป และเกิดการสร้างผิวใหม่ เพื่อลดการเกิดขุย และปื้นแข็งที่ผิวหนังยูเรีย เป็นสารประเภทหนึ่งที่ นอกจากจะมีคุณสมบัติในการให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวแล้ว ยังมีคุณสมบัติช่วยในการลอกผิวได้อีกด้วย
  • ยาทาสเตียรอยด์ ช่วยลดอาการอักเสบของผิว ทำให้ปืนสีแดงที่ผิวลดลง ไม่ควรใช้เป็นระยะเวลานาน และควรใช้ร่วมกับสารให้ความชุ่มชื้น
  • วิตามิน ดี นิยมใช้ในคนที่มีปัญหา สะเก็ดเงินเรื้อรัง

แนะนำผลิตภัณฑ์ดูแลผิวบอบบางเป็นสะเก็ดเงิน

Eucerin OMEGA ATO-CALMING BATH & SHOWER OIL

เริ่มต้นด้วย Eucerin AtoControl OMEGA ATO CALMING BATH AND SHOWER OIL ผลิตภัณฑ์ออยล์อาบน้ำที่ช่วยทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยนโดยไม่ทำให้ผิวแห้งตึง ด้วยส่วนผสมของ Omega 3 & 6 fatty acids ช่วยเติมไขมันที่จำเป็นให้ผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้นและลดความรู้สึกแห้งคันตั้งแต่ขั้นตอนแรก

ผลิตภัณฑ์ออยล์อาบน้ำที่ช่วยทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยนโดยไม่ทำให้ผิวแห้งตึง

Eucerin OMEGA ATO-CALMING FACE CREAM

หลังอาบน้ำ ซับตัวเบาๆ แล้วบำรุงผิวทันทีด้วย Eucerin OMEGA ATO-CALMING FACE CREAM บาล์มเนื้อเข้มข้นแต่ซึมซาบเร็ว ที่มีส่วนผสมของ Licochalcone A สารสกัดจากธรรมชาติช่วยลดการอักเสบและอาการแดง, Ceramides ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง และ Shea Butter ที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นยาวนาน การใช้บาล์มเป็นประจำจะช่วยลดปัญหาผิวแห้ง ลอกเป็นขุย และอาการคันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ผิวรู้สึกสบายขึ้นและลดโอกาสการกลับมาเป็นซ้ำ

ครีมบรรเทาโรคสะเก็ดเงิน

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) (4)

  • โรคสะเก็ดเงินติดต่อได้หรือไม่?

    ไม่ติดต่อ โรคสะเก็ดเงินเป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค จึงไม่สามารถติดต่อจากคนสู่คนผ่านการสัมผัสได้
  • โรคสะเก็ดเงินรักษาให้หายขาดได้ไหม?

    ปัจจุบันยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถควบคุมอาการของโรคให้อยู่ในระยะสงบ (Remission) ได้เป็นเวลานาน ด้วยการรักษาที่เหมาะสมและการดูแลตนเองอย่างสม่ำเสมอ
  • อาหารชนิดไหนที่ควรหลีกเลี่ยง?

    แม้จะไม่มีข้อห้ามที่ชัดเจน แต่ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการแย่ลงเมื่อรับประทานอาหารบางชนิด เช่น แอลกอฮอล์, อาหารแปรรูป, อาหารที่มีไขมันสูง ควรเน้นทานอาหารต้านการอักเสบ เช่น ผัก, ผลไม้, และปลาที่มีไขมันโอเมก้า 3
  • ควรไปพบแพทย์เมื่อไหร่?

    ควรไปพบแพทย์ผิวหนังทันทีที่สงสัยว่าตนเองอาจเป็นโรคสะเก็ดเงิน หรือเมื่ออาการที่เป็นอยู่กำเริบรุนแรงขึ้น, กระจายตัวเป็นวงกว้าง, หรือมีอาการปวดบวมตามข้อร่วมด้วย เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้อง

บทความเกี่ยวข้อง

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง