‘ผมร่วง’ นับเป็นอีกปัญหาที่หนักใจของหลายๆ คน โดยปกติแล้วเส้นผมจะหลุดร่วงทุกวันโดยที่เราไม่รู้ตัว เนื่องจากมีจำนวนน้อยจนไม่ทันสังเกตความเปลี่ยนแปลง แต่สัญญาณอันตรายของปัญหาผมร่วงจะเริ่มเห็นได้ชัดขึ้นเมื่อผมเริ่มร่วงเป็นกำมือ หรือร่วงเกิน 30 เส้นต่อวัน วิธีที่จะแก้ผมร่วงได้นั้นจำเป็นจะต้องรู้ทันสาเหตุต่างๆ ที่ทำให้ผมร่วงเสียก่อน เพื่อให้สามารถแก้ผมร่วงได้อย่างตรงจุดถึงต้นตอ !
ผมร่วงเกิดจากสาเหตุอะไร ?
สาเหตุของการเกิดผมร่วงเกิดจากหลายประการ ปกติแล้วคนเราจะมีผมร่วงในแต่ละวันประมาณ 50-90 เส้น และมีผมเส้นใหม่งอกขึ้นมาทดแทน แต่สำหรับปัญหาผมร่วงมากผิดปกติ สาเหตุมีทั้งปัจจัยภายในร่างกาย และปัจจัยภายนอกที่ทำให้เกิดผมร่วงได้
ปัจจัยภายในร่างกาย
เกิดจากความผิดปกติภายในร่างกายซึ่งไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้การแก้ไขปัญหาผมร่วงจากปัจจัยนี้เป็นเรื่องยาก โดยปัจจัยในร่างกายที่ส่งผลให้ผมร่วง ได้แก่
- ผมร่วงตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น
- มีกรรมพันธุ์ผมร่วง
- ฮอร์โมนผิดปกติ
อายุที่เพิ่มส่งผลกับการทำงานของร่างกายให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ที่ประทบมากสุดจะเป็นเรื่องฮอร์โมนต่างๆ ซึ่งกระทบมากโดยเฉพาะผู้ชาย ที่เมื่ออายุมากขึ้น อัตราการผลิตฮอร์โมนฮอร์โมนไดไฮโดรเทสโทสเตอโรน (Dihydrotestosterone) หรือ DHT ได้ผิดปกติจนกระทบกับวงจรการเติบโตของเส้นผม
ในกรณีมีกรรมพันธุ์ผมร่วงหรือผมร่วงที่เกิดจากพันธุกรรม (Androgenetic Alopecia) ซึ่งพบได้เป็นส่วนใหญ่ของเพศชายที่มีปัญหาหัวล้านผมบางตั้งแต่อายุยังน้อย ซึ่งปัญหาผมร่วงของผู้ที่เกิดจากพันธุกรรม กิดจากร่างกายผลิต ฮอร์โมนฮอร์โมนไดไฮโดรเทสโทสเตอโรน (Dihydrotestosterone) หรือ DHT มากจนเกินไป และเมื่อ DHT ไปจับกับ Androgen Receptor ที่รากผม ส่งผลให้วงจรการเติบโตของเส้นผมมีระยะพักนานขึ้นเรื่อยๆ ทำให้รากผมทำงานได้ไม่เต็มที่และมีขนาดเล็กลงเรื่อยๆและฝ่อลงไป
ฮอร์โมนไทรอยด์ทำงานมากไปหรือน้อยไปเส้นผมจะได้รับผลกระทบ และความเครียดที่กระตุ้นให้วงจรชีวิตของผมเร็วขึ้นจนผมร่วงเร็วกว่าปกติ
ปัจจัยภายนอกร่างกาย
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยภายนอกร่างกาย มักเป็นพฤติกรรมที่ทำให้ผมร่วงไม่รู้ตัว ได้แก่ พฤติกรรมที่เราทำต่อเส้นผมเป็นประจำ ดังนี้
1. ผมร่วงเพราะโดนความร้อน
ความร้อนจากไดร์เป่าผม จะทำให้เคราตินในเส้นผมซึ่งมีส่วนให้ผมชุ่มชื่นหายไป เมื่อเคราตินหายไป เส้นผมก็จะแห้งเสีย และยังอาจทำให้หนังศีรษะแห้ง คัน ขาดความชุ่มชื้น และเส้นผมหลุดร่วงจากหนังศีรษะได้ง่าย
2. ได้รับสารเคมีบ่อยเกินไป
การดัด ย้อม ทำสีผมบ่อยเกินไปนั้น ถือเป็นการทำร้ายหนังศีรษะให้อ่อนแอจนอาจเป็นเหตุให้ผมร่วงได้ แต่ในบางกรณีเช่นผู้ที่ใช้เคมีบำบัดอยู่ ก็ส่งผลกระทบกับอาการผมร่วง ผมบางเช่นกัน
3. ผมร่วงเพราะสระผมบ่อยเกินไปและการสระผมด้วยน้ำอุ่น
การสระผมบ่อยเกินไปอาจทำให้หนังศีรษะแห้ง จนเกิดอาการคันศีรษะ ระคายเคือง เป็นรังแคและทำให้ผมร่วง การสระผมด้วยน้ำอุ่นบ่อยๆ จะลดความแข็งแรงของเส้นผม ทำให้ผมแห้งและหลุดร่วงได้ง่าย
4. ผมร่วงเพราะหวีผมแรงๆ และหวีผมขณะผมเปียก
ในขณะที่ผมเปียกเส้นผมจะขาดหลุดร่วงง่ายกว่าปกติ หากหวีหรือใช้ผ้าขนหนูเช็ดแรงๆ จะส่งผลให้เส้นผมที่บอบบางอยู่หลุดร่วงได้ง่าย ซึ่งนอกจากจะทำให้เส้นผมหลุดร่วงมากขึ้นแล้ว หวียังเสียดสีกับเส้นผมจนทำให้ผมแห้งเสียได้เช่นกัน
5. ขาดสารอาหาร
สำหรับบางคนที่รับประทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่ หรือได้รับสารอาหารบางชนิดไม่เพียงพอที่ร่างกายต้องการ เช่น วิตามินต่างๆ โปรตีน สังกะสี ก็ส่งผลต่อการเติบโตของเส้นผมเช่นกัน
12 วิธีแก้ผมร่วง และลดโอกาสผมขาดหลุดร่วง
แม้ว่าปัจจัยภายในที่ทำให้ผมร่วงนั้นจะควบคุมได้ยาก แต่เราสามารถแก้ผมร่วงที่เกิดจากพฤติกรรมที่ทำให้ผมร่วงโดยไม่รู้ตัว ซึ่งเป็นปัจจัยภายนอกได้ ดังนี้
1. การรักษาด้วยยา
สำหรับคนที่ผมร่วงเยอะมากเนื่องจากพันธุกรรม แพทย์จะจ่ายยาที่สามารถยับยั้งการทำงานของฮอร์โมน DHT ได้ และทำให้รากผมและเส้นผมค่อยๆ กลับมาเป็นเหมือนเดิมในบริเวณทียังมีรากผมอยู่ แต่ถ้าหากปล่อยไว้นานและไม่ไปพบแพทย์โดยเร็ว ยาก็ไม่ช่วยให้รากผมกลับมาได้
2. หลีกเลี่ยงการดัด ย้อม ทำสีผมและลดการใช้ความร้อนกับเส้นผมมากเกินไป
เพราะการใช้สารเคมีบ่อยครั้ง รวมทั้งการจ่อไดร์เป่าผมที่หนังศีรษะ อาจทำให้หนังศีรษะอักเสบ อ่อนแอ และทำให้เส้นผมหลุดร่วงมากยิ่งขึ้น
3. หลีกเลี่ยงการขยี้เส้นผมหลังอาบน้ำ ไม่หวีผมขณะผมเปียก
เนื่องจากเส้นผมจะอ่อนแอขณะเปียกน้ำ หากหวีผมหรือใช้ผ้าขนหนูเช็ดแรง จะทำให้เส้นผมที่บอบบางขาดหลุดร่วงได้ง่ายขึ้น ควรใช้หวีซี่ห่างค่อยๆ หวีเบาๆ เพื่อถนอมเส้นผมและป้องกันไม่ให้ผมร่วง
4. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยบำรุงหนังศีรษะและเส้นผม
พฤติกรรมที่ทำให้ผมร่วงมีอยู่หลายประการ แต่ต้นเหตุที่แท้จริงนั้นเกิดจากหนังศีรษะที่บอบบางและอ่อนแอ ทางแก้ที่ดีที่สุดคือ การดูแลหนังศีรษะให้แข็งแรง ด้วยการเลือกใช้แชมพูสูตรอ่อนโยนต่อเส้นผมและหนังศีรษะ และใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่มีสารช่วยฟื้นบำรุงหนังศีรษะที่อ่อนแอจากสารเคมี เช่น ลิโคชาลโคน เอ รวมถึงส่วนผสมที่ช่วยให้เส้นผมดูหนา เช่น คาร์นิทีน และครีเอทีน เพื่อบำรุงสุขภาพเส้นผมและหนังศีรษะให้แข็งแรงมากขึ้นด้วย อย่าง Eucerin DermoCapillaire RE-VITALIZING SHAMPOO THINNING HAIR แชมพูลดผมขาดหลุดร่วงที่มีสารสำคัญอย่าง Licochalcone A ตัวช่วยฟื้นบำรุงหนังศรีษะจากสิ่งตกค้าง ทำให้หนังศีรษะดูสุขภาพดีไม่ระคายเคืองผิว และสาร Cartine & Creatine ช่วยให้ผมดูหนาขึ้น ดูสุขภาพดีตั้งแต่โคนผม เส้นผมไม่เปราะขาดง่าย และชะลอผมขาดร่วงได้อย่างมีประสิทธิภาพพร้อมให้เส้นผมนุ่มสลวย
Tips : เพื่อประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น แนะนำใช้คู่กับ Eucerin DermoCapillaire THINNING HAIR TREATMENT ตัวช่วยลดผมขาดร่วงและทำให้ผมหนาขึ้น 45% ลดอาการหนังศีรษะระคายเคืองที่เป็นต้นเหตุหลักของปัญหาผมขาดหลุดร่วง และยังทำให้หนังศรีษะแข็งแรง ทรีทเมนต์เป็นสูตรไม่ต้องล้างออก สามารถใช้หลังสระผมเสร็จได้เป็นประจำทุกวัน
5. การใช้สมุนไพรในการดูแลเส้นผม
การใช้แชมพูที่มีส่วนผสมของสมุนไพรธรรมชาติ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถแก้ผมร่วงได้เพราะสรรพคุณจากสมุนไพรบางชนิด จะช่วยทำให้ผมแข็งแรงสุขภาพดีเงางาม และป้องกันปัญหาผมต่างๆ ได้อีกด้วยอย่างเช่น
- มะกรูด มีวิตามินซีสูงช่วยบำรุงหนังศีรษะ ลดรังแค และกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม
- ขิง มีฤทธิ์แก้รังแค ช่วยลดการอักเสบของหนังศีรษะ และกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต
- ว่านหางจระเข้ มีสรรพคุณ ช่วยบำรุงหนังศีรษะ ลดการอักเสบ และทำให้ผมนุ่มลื่น
- อัญชัน มีสารแอนโทไซยานิน ช่วยให้ผมดกดำเงางาม และป้องกันผมหงอก
6. การหวีผมอย่างถูกวิธี
การหวีผมเป็นประจำอย่างถูกวิธี เป็นหนึ่งในการดูแลเส้นผมให้สวยงามและสุขภาพดี เพราะการหวีผมจะช่วยทำให้เส้นผมไม่พันกัน แนะนำแบ่งผมเป็นช่อๆ เริ่มหวีผมจากปลายผมขึ้นมาทีละน้อย จนถึงโคนผม และไม่ควรหวีผมแรงๆเพราะอาจทำให้เส้นผมขาดได้
7. รับประทานอาหารที่ประโยชน์
การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการบำรุงร่างกายรวมไปถึงเส้นผม เพราะอาหารบางชนิดมีสารอาหารที่จำเป็นต่อเส้นผม ช่วยให้เส้นผมแข็งแรง อย่างโปรตีน ไบโอติน ธาตุเหล็ก วิตามินซี วิตามินดี น้ำดื่ม เป็นต้น
8. หลีกเลี่ยงการมัดผมแน่น
การมัดผมแน่นจนเกินไปจะส่งผลเสียต่อผมและหนังศีรษะเป็นอย่างมาก เพราะการมัดผมแน่นๆ รากผมของเราจะถูกดึงรั่ง ทำให้รากผมอ่อนแอ ผมร่วงง่าย เส้นผมถูกเสียดสี จนทำให้ผมเปราะบาง ขาดง่าย และอาจะทำให้หนังศีรษะอักเสบ เกิดอาการปวดหัวได้
9. การนวดหนังศีรษะ
การนวดหนังศีรษะจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตไปเลี้ยงรากผม ทำให้รากผมได้รับสารอาหารและออกซิเจนอย่างเพียงพอ ส่งผลดีต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม และยังช่วยลดความตึงเครียดของหนังศีรษะ ทำให้รากผมแข็งแรง และหลุดร่วงน้อยลงได้ แนะนำนวดศีรษะทุกวันแค่ 4 นาทีก็สามารถช่วยได้
10. การทำเลเซอร์หนังศีรษะ
การทำเลเซอร์หนังศีรษะ เป็นหนึ่งในวิธีการรักษาผมร่วง ที่ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม โดยใช้แสงเลเซอร์ความเข้มข้นต่ำ (Low-Level Laser Therapy - LLLT) ยิงไปยังหนังศีรษะ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตไปเลี้ยงรากผม ทำให้รากผมได้รับสารอาหารและออกซิเจนอย่างเพียงพอ และแสงเลเซอร์ยังช่วยลดการอักเสบของหนังศีรษะ กระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม
11. การฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP)
การฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP) บริเวณหนังศรีษะเป็นวิธีการรักษาผมร่วงวิธีหนึ่งที่กระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม โดยแพทย์จะนำเลือดของผู้ที่รักษามาปั่นแยกและคัดเฉพาะพลาสม่าที่มีเกล็ดเลือด ฉีดเข้าไปที่หนังศีรษะ เพื่อกระตุ้นการทำงานของเซลล์ผม ทำให้รากผมแข็งแรง ชะลอผมให้ร่วงน้อยลงได้ แต่วิธีนี้อาจใช้เวลานานในการรักษาและมีค่าใช้จ่ายที่สูง
12. ปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง
การปรึกษาแพทย์เฉพาะทางที่เชี่ยวชาญในการรักษาด้านเส้นผมและหนังศรีษะโดยเฉพาะ เพื่อหาสาเหตุของผมร่วงที่แท้จริง และรับการรักษาที่เหมาะสมของแต่ละบุคคล เช่น
- แพทย์ให้รับประทานยาฟินาสเตอไรด์ (Finasteride) เพื่อช่วยลดปริมาณฮอร์โมน DHT
- ยาไมนอกซิดิล (Minoxidil) ซึ่งมาแบบรับประทานและแบบทาที่หนังศีรษะ กระตุ้นรากผม
- การฉีด Stemcell ที่ผม (Rigenera Activa) ที่เป็นการดึงรากผมที่แข็งแรงออกมาปั่นและเพาะเลี้ยง แล้วนำกลับไปฉีดที่หนังศีรษะ เพื่อกระตุ้นการเกิดใหม่ของรากผม
- การฉีด PRP (Platelet Rich Plasma) ที่เป็นการนำเอาเลือดของเราออกมาปั่นแยกชั้น เพื่อเก็บเฉพาะตัวพลาสม่าในเลือดของเรา กลับไปฉีดเพื่อบำรุงหนังศีรษะ
สาเหตุของผมร่วงมีหลายปัจจัย ตั้งแต่ปัจจัยภายในร่างกาย เช่น ฮอร์โมนและความเครียด และปัจจัยภายนอกร่างกายที่ควบคุมได้อย่างพฤติกรรมที่ทำให้ผมร่วงโดยไม่รู้ตัวต่างๆ เช่น สระผมบ่อย ใช้ความร้อนและสารเคมีกับเส้นผม จนหนังศีรษะและเส้นผมไม่แข็งแรง แน่นอนว่าเราสามารถแก้ผมร่วงในเบื้องต้นได้ด้วยการหลีกเลี่ยงการไดร์ ยืด ดัด ม้วน กัดสี ทำสีผมบ่อยเกินไป แต่วิธีที่ดีและมีประสิทธิภาพและสามารถแก้ปัญหาเส้นผมร่วงได้ถึงต้นตอก็คือ ต้องดูแลสุขภาพหนังศีรษะและเส้นผมให้แข็งแรงจากภายใน ด้วยการเลือกแชมพูที่แก้ปัญหาได้ตรงจุด เท่านี้ก็แก้ผมร่วงได้ เส้นผมที่สุขภาพดีก็จะอยู่กับคุณไปอีกนาน