วิธีรักษาฝ้า

รวมวิธีรักษาฝ้าให้หายขาด รักษาอย่างไรให้ถึงต้นตอ ฝ้าหายอย่างเป็นธรรมชาติ

อ่านแล้ว 5 นาที
แสดงบทความเพิ่มเติม

ปัญหาฝ้า เป็นอีกหนึ่งปัญหาผิวที่น่าหนักใจสำหรับใครหลาย ๆ คน เพราะรอยปื้นฝ้า รอยดำคล้ำบนใบหน้า ทำให้เสียความมั่นใจเวลาออกไปข้างนอก อีกทั้งฝ้า ยังรักษาให้หายขาดค่อนข้างยาก ต้องใช้เวลาในการรักษา แต่ใช่ว่าจะไม่มีวิธีรักษาฝ้าเลย วันนี้มีเคล็ดลับวิธีรักษาฝ้า, กระ และจุดด่างดำให้หายขาด รักษาฝ้าอย่างไรให้ถูกวิธี ไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำอีก


ฝ้า เกิดจากอะไร

ฝ้า เกิดจากการที่ผิวหนังมีเม็ดสีเมลานินมากเกินไป ทำให้เกิดจุดสีน้ำตาลเข้มไปจนถึงสีดำบนใบหน้า ซึ่งมีปัจจัยหลัก ๆ ดังนี้

  • แสงแดด (Ultraviolet)
    รังสี UVA และ UVB จากแสงแดดจะกระตุ้นการผลิตเม็ดสีเมลานิน เพื่อปกป้องผิวหนังและทำให้ผิวมีสีเข้มขึ้น จึงทำให้เกิดฝ้า กระ จุดด่างดำได้
  • ฮอร์โมน (Hormone)
    การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ส่งผลให้เซลล์สร้างเม็ดสีทำงานมากขึ้น เช่น การตั้งครรภ์, การเข้าสู่วัยทอง หรือวัยหมดประจำเดือน, การทานยาคุมกำเนิด และการใช้เครื่องสำอางบางชนิดที่ไปกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงเม็ดสีเมลานินบนผิวหนัง

รวมสูตรและวิธีรักษาฝ้า ให้หายขาด

1. ทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน

เพราะ รังสี UV ในแสงแดดคือตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดฝ้า อาจส่งผลให้ฝ้าที่เป็นอยู่มีสีเข้มขึ้น ทั้งยังทำให้เกิดฝ้าใหม่เพิ่มได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นก่อนออกไปกลางแจ้งควรทาครีมกันแดด SPF 30 ขึ้นไป และควรมีค่า PA+++ เพื่อปกป้องผิวจากแสงแดดทั้ง UVA และ UVB

 

2. ดูแลผิวด้วยครีมทาฝ้า

ครีมบำรุงที่มีสารไวท์เทนนิ่งนั่นช่วยปรับสภาพผิวให้ดูกระจ่างใสขึ้นได้ อย่าง วิตามินซี, กรดโคจิก (Kojic), อาร์บูติน (Arbutin), AHA และไทอามิดอล (THIAMIDOL™) สามารถช่วยลดเลือนฝ้า, กระ และจุดด่างดำบนใบหน้าได้ ช่วยให้สีผิวสม่ำดูสม่ำเสมอขึ้น แต่ควรเป็นครีมทาฝ้าที่ปลอดภัยได้รับการยืนยันจากแพทย์ผิวหนัง ควรใช้อย่างต่อเนื่องเป็นประจำเช้า-เย็น จึงจะเห็นถึงประสิทธิภาพสูงสุด

ควรหลีกเลี่ยงครีมทาฝ้าที่มีส่วนผสมของไฮโดรควิโนน (Hydroquinone) เพราะหากใช้มากเกินไปหรือแพ้ ผิวหนังบริเวณนั้นอาจเกิดเป็นด่างขาว และทำให้เกิดฝ้ามากขึ้น ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผิวหนังเท่านั้น

รักษาฝ้าด้วยวิธีธรรมชาติ

3. รักษาฝ้าด้วยสูตรสมุนไพรแบบธรรมชาติ

การใช้วิธีรักษาฝ้าแบบธรรมชาติด้วยสูตรสมุนไพรอย่างพืชผักและผลไม้ในครัว สามารถช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ช่วยลดการผลิตเม็ดสีเมลานินบนผิวหน้าได้ จึงสามารถช่วยทำให้ฝ้าบนใบหน้าจางลง

  • หัวไชเท้า
    มีสารไกลโคไซด์ (Glycossides) สามารถยับยั้งการผลิตเม็ดสีเมลานินที่ผลิตออกมามากเกินไปจนก่อให้เกิด ฝ้า กระ และจุดด่างดำได้ เพียงนำหัวไชเท้าไปแช่เย็นก่อน เพื่อลดความเผ็ดร้อนของหัวไชเท้าออก บดให้ละเอียดแล้วนำไปผสมกับน้ำผึ้งหรือว่านหางจระเข้ แล้วนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ไม่เกิน 5 นาที แล้วล้างออก ทำเป็นประจำ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ จะช่วยทำฝ้าดูจางลง ทำให้ผิวหน้าดูกระจ่างใสขึ้น สูตรนี้ไม่เหมาะกันผิวบอบบางแพ้ง่าย
  • มะนาว
    จัดเป็นกรดผลัดเซลล์ผิว (AHA) สามารถช่วยลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำได้ ทั้งยังช่วยยังลดอาการอักเสบของผิวได้ด้วยเช่นเดียวกัน เพียงใช้น้ำมะนาวแต้มลงบนบริเวณที่เป็นฝ้า , กระ และจุดด่างดำ ทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำแบบนี้ต่อเนื่องสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง หน้าจะดูกระจ่างใสขึ้น บริเวณที่เป็นฝ้าจะดูจางลง
  • ใบบัวบก
    ใบบัวบกมีฤทธิ์ช่วยต้านสารอนุมูลอิสระ สามารถช่วยลดเลือนฝ้าและริ้วรอยบนใบหน้าได้ เพียงนำน้ำใบบัวบกคั้นสดมาเช็ดบริเวณผิวหน้า โดยใช้สำลีเสมือนเช็ดโทนเนอร์ ใช้เป็นประจำทุกวันก่อนนอนโดยไม่ต้องล้างออก จะช่วยทำให้รอยฝ้าต่าง ๆ จางลง ทำให้ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้น
  • มะละกอสุก
    มะละกอมีเอนไซม์ปาเปนซึ่งมีส่วนช่วยในการผลัดเซลล์ผิวที่ตายออกไป ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสและดูอ่อนเยาว์ขึ้น โดยเอามะละกอสุก มาบดหรือปั่นให้ละเอียด จากนั้นนำมาพอกบนผิวหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

 

4. เลเซอร์รักษาฝ้า

การเลเซอร์ฝ้า (Laser) เป็นการยิงเพื่อรักษาและปรับสภาพผิว ซึ่งใช้พลังงานความร้อนเพื่อกำจัดเม็ดสีของบริเวณที่เกิดฝ้าโดยตรง และอาจทำให้ผิวหลังการรักษาไวต่อแสง เพราะฉะนั้น 7-14 วัน หลังทำเลเซอร์ควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดด และควรบำรุงผิวเป็นพิเศษเพราะหลังทำเลเซอร์อาจทิ้งแผลตกสะเก็ดไว้บนใบหน้า

 

5. รักษาฝ้าด้วย IPL

การรักษาฝ้าด้วย IPL (Intense Pulsed Light) เป็นหัตถการที่ใช้พลังงานแสงความเข้มสูง ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอีลาสตินในผิวชั้นบน ๆ ช่วยรักษาฝ้า, กระ และจุดด่างดำได้ ทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น แต่ต้องทำหลายครั้งถึงจะเห็นผล ช่วยให้ฝ้าจางลงได้ แต่ไม่ได้ช่วยให้ฝ้าหายขาด มีโอกาสที่ฝ้าจะกลับมามีสีเข้มอีกได้

 

6. ฉีดเมโสลดฝ้า

การฉีดเมโสหน้าใสลดฝ้าอย่างต่อเนื่อง สามารถช่วยชะลอการกระจายของฝ้าได้แต่ไม่มาก ซึ่งขึ้นอยู่กับชนิดของฝ้าและความเข้มของฝ้าบนใบหน้า เมโสลดฝ้าจึงไม่เหมาะกับคนที่มีฝ้าหนาเป็นปื้น ๆ ซึ่งวิธีนี้ผิวหนังจะได้รับผลข้างเคียงน้อยกว่าการทำเลเซอร์

 

7. กรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณี

การกรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณี (Microdermabrasion) เป็นการใช้เกล็ดอัญมณีช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ทำให้เกิดการฟื้นฟูและกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ใช้ได้ผลกับฝ้าตื้น ช่วยให้ใบหน้ากระจ่างใส ฝ้า กระ และจุดด่างดำดูจางลง แต่ถ้าหากใช้พลังงานที่สูงเกินไปอาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิวได้


แนะนำครีมรักษาฝ้าจาก Eucerin

เซรั่มลดฝ้า

1. ดูแลรักษาฝ้า กระ และจุดด่างดำ ด้วยเซรั่มลดฝ้า Eucerin SPOTLESS BRIGHTENING BOOSTER SERUM เซรั่มเข้มข้น แต่เนื้อบางเบา สามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ทันที ช่วยลดเลือนฝ้าแดด จุดด่างดำฝังลึก ให้ผิวกระจ่างใสใน 2 สัปดาห์ ด้วย 2 กลไก คือ ลดฝ้าแดด จุดด่างดำฝังลึก ด้วยเอกสิทธิ์นวัตกรรม สารไทอามิดอล (Thiamidol) สารไบรท์เทนนิ่งทรงพลัง และตัดวงจรฝ้าแดด จุดด่างดำเกิดใหม่ ด้วยลิโคชาลโคน (Licochalcone) สารแอนติออกซิแดนท์ ทรงประสิทธิภาพ ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใส อิ่มฟู หน้าเด้ง ผิวดูเปล่งประกายใน 2 สัปดาห์ ใช้ทาบริเวณผิวหน้าเป็นประจำเช้า-เย็น เพื่อการดูแลผิวอย่างล้ำลึกในทุกช่วงเวลา



เซรั่มแต้มฝ้า

2. รักษาฝ้าให้ถึงต้นตอ ด้วย Eucerin SPOTLESS BRIGHTENING SPOT CORRECTOR ผลิตภัณฑ์แต้มฝ้า ที่มีสารไทอามิดอลทรงพลังด้วยประสิทธิภาพในการบำรุง ลดฝ้า กระ จุดด่างดำเฉพาะจุด ลึกไปถึงต้นตอ ลดการผลิตเม็ดสีเมลานิน ป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำอีก เห็นผลลัพธ์ได้ใน 2 สัปดาห์ แนะนำให้ใช้ต่อเนื่องเป็นประจำเพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น


ครีมลดฝ้า

3. เซรั่มที่เหมาะกับปัญหาผิววัย 40+ ที่สามารถดูแลริ้วรอย กระชับผิว และช่วยลดจุดด่างดำตามวัยได้อย่างมีประสิทธิภาพตั้งแต่ขั้นตอนแรกของการบำรุงอย่าง Eucerin HYALURON [HD] RADIANCE-LIFT FILLER 3D SERUM ที่มี Arctiin สารแอนตี้ออกซิแดนท์ ช่วยเติมให้ริ้วรอยลึกร่องลึกตามวัยให้ดูตื้นขึ้น และช่วยให้ผิวเรียบเนียนเด้งกระชับ ฟื้นบำรุงผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังมี THIAMIDOL สารสำคัญเอกสิทธิ์เฉพาะของยูเซอริน ที่ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ ฝ้า กระ ให้ผิวหน้าเปล่งประกายดูสุขภาพดี


ถึงแม้ว่าฝ้าจะรักษาให้หายยาก แต่สามารถรักษาให้จางลงได้ แต่อาจจะต้องใช้เวลาสักระยะ เพียงรักษาฝ้าให้ถูกวิธี มีวินัย และทำตามวิธีรักษาฝ้าข้างต้น เช่น ทาครีมกันแดดก่อนออกกลางแจ้ง, ทาครีมทาฝ้าเป็นประจำทุกวัน และหาเวลาพอกหน้าด้วยสูตรสมุนไพร เพียงเท่านี้ปัญหาฝ้าที่เป็นอยู่จะค่อยๆ ดีขึ้นได้ และหายขาดในที่สุด


บทความเกี่ยวข้อง