กลิ่นตัวแรง

กลิ่นตัวแรง สาเหตุเกิดจากอะไร วิธีแก้ไขกลิ่นตัวแรง

อ่านแล้ว 1 นาที
แสดงบทความเพิ่มเติม

กลิ่นตัวแรง (Bromhidrosis) เป็นปัญหาที่พบบ่อยที่น่าอึดอัดใจ สร้างความกังวลและความไม่มั่นใจให้กับหลายๆ คน การทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับกลิ่นตัว สาเหตุ กลไกการเกิดกลิ่น และวิธีการแก้ปัญหากลิ่นตัวที่ถูกต้อง สามารถช่วยให้แก้ไขและลดกลิ่นตัวให้มีความมั่นใจมากขึ้น

กลิ่นตัวมาจากไหน? ทำความเข้าใจกลไกธรรมชาติ

หลายคนเข้าใจผิดว่า "เหงื่อ" คือตัวการที่ทำให้เกิดกลิ่น แต่ในความเป็นจริงแล้ว เหงื่อที่ร่างกายขับออกมาส่วนใหญ่ ไม่มีกลิ่น โดยเฉพาะเหงื่อจาก ต่อมเอกไครน์ (Eccrine glands) ซึ่งมีกระจายอยู่ทั่วร่างกาย มีหน้าที่หลักในการระบายความร้อน และส่วนประกอบส่วนใหญ่คือน้ำและเกลือ มักจะอยู่หนาแน่นบริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า หน้าผาก มีหน้าที่ควบคุมความร้อนในร่างกายและทำให้มีเหงื่อออกเยอะเวลาเราออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมต่างๆ

ตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดกลิ่นคือเหงื่อจาก ต่อมอะโพไครน์ (Apocrine glands) ซึ่งพบมากในบริเวณที่มีขน เช่น รักแร้ ขาหนีบ รอบหัวนม อวัยวะเพศ ต่อมนี้จะเริ่มทำงานในช่วงวัยรุ่นเป็นต้นไป โดยเหงื่อที่ผลิตออกมาจะมีความข้นกว่า ประกอบด้วยไขมันและโปรตีน เมื่อเหงื่อชนิดนี้สัมผัสกับ แบคทีเรีย (Bacteria) ซึ่งอาศัยอยู่บนผิวหนังตามธรรมชาติ (Skin Microbiome) แบคทีเรียเหล่านี้จะทำการย่อยสลายสารประกอบในเหงื่อ ทำให้เกิดเป็นสารระเหยต่างๆ ที่มีกลิ่นเฉพาะตัวขึ้นมา หรือที่เราเรียกว่า "กลิ่นตัว" นั่นเอง

สาเหตุของกลิ่นตัวแรง เกิดจากอะไร

ผู้ที่ประสบปัญหากลิ่นตัวแรงไม่ได้เกิดจากกลไกตามธรรมชาติอย่างเดียว มักจะเกิดได้หลายสาเหตุที่เป็นปัจจัยกระตุ้น ไม่ว่าจะเป็น:

  • เหงื่อออกเยอะ: จนเกิดการอับชื้นตามร่างกายและเสื้อผ้า ซึ่งเอื้อต่อการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย
  • แบคทีเรีย: ที่อยู่ตามผิวหนัง ข้อพับหรือบริเวณที่อับชื้นง่ายของร่างกาย สร้างสารให้กลิ่น
  • ฮอร์โมน: ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงกระตุ้นต่อมเหงื่อให้ผลิตเหงื่อมากเกินไป
  • สุขอนามัยที่ไม่เพียงพอ (Poor Hygiene): การไม่อาบน้ำเป็นประจำ หรือทำความสะอาดร่างกายไม่ทั่วถึง โดยเฉพาะบริเวณข้อพับต่างๆ ทำให้เกิดการสะสมของเหงื่อและแบคทีเรีย
  • อาหารรสจัด: การรับประทานอาหารรสจัดหรือมีกลิ่นฉุนบ่อยๆ ทำให้กลิ่นอาหารเหล่านี้ถูกขับออกมาทางเหงื่อด้วย
  • โรคต่างๆ: ไม่ว่าจะเป็นโรคเบาหวาน โรคอ้วน หรือความเครียด ก็ส่งผลกระทบกับกลิ่นตัวได้เช่นกัน
  • พันธุกรรม (Genetics): ลักษณะการทำงานของต่อมเหงื่อและองค์ประกอบทางเคมีในเหงื่อส่วนหนึ่งถูกกำหนดโดยพันธุกรรม ทำให้บางคนมีแนวโน้มที่จะมีกลิ่นตัวแรงกว่าคนอื่น

ทำความรู้จักกลิ่นตัวและต่อมเหงื่อ

ต่อมเหงื่อเป็นต่อมขนาดเล็กภายในโครงสร้างผิวหนัง มีหน้าที่ผลิตเหงื่อเพื่อระบายความร้อนของร่างกาย ต่อมเหงื่อมี 2 ชนิดคือ

  • Eccrine ต่อมเหงื่อขนาดเล็กที่มีมากที่สุดในร่างกาย มักจะอยู่หนาแน่นบริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า หน้าผาก มีหน้าที่ควบคุมความร้อนในร่างกายและทำให้มีเหงื่อออกเยอะเวลาเราออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมต่างๆ
  • Apocrine ต่อมเหงื่อประเภทนี้มักอยู่บริเวณ รักแร้ ขาหนีบต่างๆ มักจะถูกเรียกว่าต่อมกลิ่น จะมีขนาดใหญ่กว่า Eccrine ทำให้สารที่ผลิตออกมาจากต่อม Apocrine แม้ว่าจะไม่มีสี ไม่มีกลิ่น แต่เมื่อผสมกับแบคทีเรียต่างๆบนผิวหนังบริเวณรักแร้หรือบริเวณอับชื้นก็ทำให้เกิดกลิ่นตัวได้ หรือการทานอาหารรสจัดมีกลิ่นฉุนก็ทำให้ต่อม Apocrine ขับกลิ่นออกมาจากต่อมนี้ได้เช่นกัน

วิธีแก้ปัญหาและลดกลิ่นตัวแรง

รักษาสุขอนามัย

ให้ร่างกายสะอาดอยู่เสมอ เวลาอาบน้ำเป็นประจำ อาบน้ำอย่างถูกต้องและทำความสะอาดครบทุกซอกมุมของร่างกาย

 

ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด

ควรใช้สบู่ที่ช่วยลดแบคทีเรียและทำความสะอาดเหงื่อได้ดี รวมถึงปรับสภาพผิวให้แข็งแรง เพื่อป้องกันกลิ่นตัวและปกป้องผิวหนังจากแบคทีเรียต่างๆ หลังอาบน้ำควรใช้ผ้าขนหนูที่สะอาดซับตัวให้แห้งสนิท โดยเฉพาะตามข้อพับ

 

ใช้โรลออน

การใช้โรลออนระงับกลิ่น (Deodorant) สามารถช่วยป้องกันเรื่องกลิ่นตัวได้ชั่วคราว โดยการฆ่าเชื้อแบคทีเรียและปรับสภาพเหงื่อไม่ให้แบคทีเรียเจริญเติบโตได้ง่าย หรือ สารส้มที่เป็นทางเลือกจากธรรมชาติ มีคุณสมบัติช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย

 

สวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี

ควรสวมใส่เสื้อผ้าที่บางเพื่อลดการอับชื้นและความร้อนของร่างกาย ช่วยลดการผลิตเหงื่อและชะลอการเติบโตของแบคทีเรีย หากเหงื่อออกมาก ควรเปลี่ยนเสื้อผ้าระหว่างวัน

 

ซักเสื้อผ้าเป็นประจำ

เสื้อผ้ามักจะเป็นที่อยู่อาศัยของแบคทีเรีย การเก็บเสื้อผ้าไว้เป็นเวลานานทำให้เกิดการสะสมของเหงื่อและแบคทีเรียอยู่ในเนื้อผ้า อย่าหมักหมมเสื้อผ้าที่ใส่แล้ว โดยเฉพาะชุดออกกำลังกาย ควรซักให้สะอาดและตากแดดเพื่อฆ่าเชื้อ

 

การรับประทานอาหาร

ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสจัดต่างๆ หรืออาหารที่มีกลิ่นแรง เช่น หัวหอม กระเทียม และควรทานผักใบเขียวหรือผลไม้เป็นประจำแทน สารคลอโรฟิลล์ในผักใบเขียวอาจช่วยลดกลิ่นบางชนิดได้ และดื่มน้ำให้เพียงพอ ช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย และเจือจางความเข้มข้นของสารต่างๆ ในเหงื่อ

 

การกำจัดขน

การกำจัดขนบริเวณรักแร้ (โกน, แว็กซ์, เลเซอร์) ช่วยลดพื้นที่ผิวที่เหงื่อและแบคทีเรียจะสะสม ทำให้ทำความสะอาดได้ง่ายขึ้นและลดการอับชื้น

การรักษาโดยใช้วิธีทางการแพทย์ (Medical Treatments)

สำหรับผู้ที่มีปัญหากลิ่นตัวรุนแรง หรือมีภาวะเหงื่อออกมากผิดปกติ (Hyperhidrosis) ที่รบกวนชีวิตประจำวัน และลองวิธีดูแลตนเองเบื้องต้นแล้วไม่ได้ผล ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนัง ซึ่งอาจพิจารณาการรักษา เช่น การใช้สารระงับเหงื่อ การฉีดโบทอกบริเวณรักแร้ การใช้คลื่นไมโครเวฟในการทำลายต่อมเหงื่อ

กลิ่นตัวแรงเป็นปัญหาที่จัดการได้ การเข้าใจสาเหตุและกลไกที่แท้จริงเป็นก้าวแรกที่สำคัญ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต การรักษาความสะอาด การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม และการปรับอาหาร สามารถช่วยลดปัญหากลิ่นตัวได้อย่างมีนัยสำคัญ และสำหรับผู้ที่มีปัญหารุนแรง การปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่ตรงจุดคือทางออกที่ดีที่สุด อย่าปล่อยให้กลิ่นตัวบั่นทอนความมั่นใจ ค่อยๆ ปรับและหาวิธีที่เหมาะกับตัวเอง ก็จะกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างสบายใจอีกครั้ง

สบู่อาบน้ำผิวแพ้ง่าย

แนะนำผลิตภัณฑ์อาบน้ำจาก Eucerin

Eucerin pH5 VERY DRY SENSITIVE SKIN SHOWER OIL ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวกายสำหรับคนที่มีผิวแห้งมาก แต่บอบบางแพ้ง่าย ช่วยทำความสะอาดร่างกายและปรับสมดุลของผิว ช่วยเสริมเกราะป้องกันของผิวแพ้ง่าย และเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิวสามารถใช้ได้ทุกวัน

 

Eucerin pH5 SENSITIVE SKIN WASHLOTION ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวกายสำหรับคนที่มีผิวธรรมดาถึงแพ้ง่าย และต้องการดูแลเป็นพิเศษ เสริมเกราะป้องกันผิวช่วยให้ผิวไม่ไวต่อการกระตุ้นต่างๆ และยังช่วยปรับและคงความชุ่มชื้นไว้ในเซลล์ผิว เพื่อให้ผิวสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ

คำถามที่พบบ่อย (4)

  • ความเข้าใจผิดที่พบบ่อยเกี่ยวกับกลิ่นกาย?

    มีความเข้าใจผิดหลายประการเกี่ยวกับกลิ่นกาย หลายคนเชื่อว่าเหงื่อมีกลิ่น แต่จริงๆแล้วเหงื่อแทบไม่มีกลิ่นเลย แต่กลิ่นตัวเกิดจากแบคทีเรียที่เข้ามาเติบโตในบริเวณที่มีเหงื่อที่เป็นสาเหตุ

  • ใช้โรลออนช่วยระงับกลิ่นตัวถาวรได้หรือไม่?

    โรลออนสามารถช่วยระงับกลิ่นตัวได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น ถ้าอยากแก้ปัญหากลิ่นตัว ควรรักษาหรือเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่ทำให้เกิดกลิ่นตัวจะดีที่สุด

  • กลิ่นตัวสามารถบ่งบอกถึงอาการป่วยได้หรือไม่?

    บางครั้ง กลิ่นตัวก็เป็นสัญญาณบอกถึงปัญหาสุขภาพต่างๆได้ เพราะสำหรับคนที่ไม่เคยมีกลิ่นตัวมาก่อนหรือกลิ่นตัวเริ่มแปลกไป แสดงว่าร่างกายเราเกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่างขึ้น

  • ทำไมจู่ๆ ถึงมีกลิ่นตัว?

    การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของกลิ่นตัวอาจเกิดจากปัจจัยต่างๆ เช่น อาหาร ยา ความเครียด การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง