4 พฤติกรรมเสี่ยง! หน้าเป็นกระ พร้อมวิธีดูแลรักษา

อ่านแล้ว 2 นาที
แสดงบทความเพิ่มเติม

กระ อาจไม่ได้มีสาเหตุกระตุ้นการเกิดเพียงแค่เรื่องพันธุกรรมหรือแสงแดดเท่านั้น แต่พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันบางอย่างก็เป็นหนึ่งในตัวการที่ส่งผลให้ปัญหาหน้าเป็นกระเกิดขึ้นได้เช่นกัน และเมื่อเกิดกระ ขึ้นบนหน้าแล้ว เราจะมีวิธีรับมือเพื่อดูแลรักษากระ ลดกระบนใบหน้า รวมถึงการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพได้อย่างไร

 

กระ คืออะไร

กระ คือ รอยด่างดำ หรือจุดด่างดำบนผิวหนัง ซึ้งเกิดขึ้นบริเวณผิวหน้า หรือร่างกายมักมีสีน้ำตาลอ่อน น้ำตาลเข้ม หรือดำ เกิดจากเซลล์เม็ดสีเมลานินทำงานมากผิดปกติ หากเป็นมากขึ้นขนาดของกระจะใหญ่มากขึ้นคล้ายปาน

กระ เกิดขึ้นได้อย่างไร?

กระ เกิดจากการทำงานที่ผิดปกติในการสร้างเม็ดสีเมลานิน (Melanin) จากเซลล์เมลาโนไซต์ ที่ใต้ชั้นผิวหนัง เมื่อผิวสัมผัสกับรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) เมลาโนไซต์จะเพิ่มการผลิตเมลานินเพื่อทำการปกป้องผิวจากความเสียหาย ทำให้เซลล์เม็ดสีเกิดการกระจุกรวมตัวกันมากกว่าปกติในบางจุด ส่งผลให้ผิวบริเวณนั้นมีสีคล้ำขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดเป็นกระ ขึ้นที่ใบหน้า โดยส่วนมากมักมีตัวกระตุ้นเกิดจากสาเหตุภายใน เช่น พันธุกรรม และ ปัจจัยภายนอก เช่น แสงแดด รวมถึงปัจจัยข้างเคียงอื่นๆ ที่ต้องพบเจอตามแต่ละช่วงวัย และสะสมเป็นปัญหาผิวที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

 

รู้หรือไม่… กระ และ ฝ้า ต่างกันอย่างไร?

  • กระ มีลักษณะเป็นจุดๆ สีน้ำตาลหรือดำ อาจเป็นตุ่มนูนหรือราบเรียบไปกับผิว กระจายอยู่ทั่วผิวหน้า พบได้มากบริเวณดั้งจมูก หน้าแก้ม ไปจนถึงลำคอ
  • ฝ้า จะมีลักษณะเป็นรอยปื้นแผ่นใหญ่ๆ สีน้ำตาลเข้มกว่าสีผิวของเรา สามารถเกิดขึ้นได้ทั่วใบหน้า แต่มักเกิดขึ้นบริเวณโหนกแก้ม หรือ สันจมูก

ประเภทของ กระ

กระตื้น (Ephelides)

มีลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาลเล็กๆ เมื่อโดนแสงแดดกระทบบนผิวที่เป็นกระจะยิ่งเห็น กระ ชัดเจนยิ่งขึ้น มักพบบริเวณโหนกแก้มทั้ง 2 ข้าง หรือจมูก

 

กระลึก (Lentigines)

มีลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาลเข้ม หรือสีออกเทาๆ สามารถเป็นได้ทั้งแบบจุด หรือแบบแผ่นมีขอบไม่ชัด และยิ่งถ้าเจอแสงแดด จะทำให้กระลึก มีสีเข้มขึ้นเรื่อยๆ มักพบบริเวณขมับ ดั้งจมูกและโหนกแก้ม

 

กระเนื้อ (Seborrheic Keratosis)

มีลักษณะเป็นก้อนนูนขึ้นมาจากผิว มีขนาดเล็ก มีทั้งแบบผิวเรียบและผิวขรุขระ ตุ่มเล็กๆ นั้นมีโอกาสจะขยายใหญ่ขึ้นและมีสีเข้มขึ้นได้ มักพบในบริเวณใบหน้า ลำคอ หน้าคอ หน้าอกและหลัง

 

กระแดด (Solar Lentigo)

มีลักษณะเป็นจุดหรืออาจจะเป็นปื้นสีน้ำตาล เห็นขอบชัดเจน ขนาดไม่เกิน 1 เซนติเมตร เมื่อโดนแสงแดดจะมีสีเข้มขึ้น มักพบในบริเวณที่โดนแดดบ่อยๆ อย่างบริเวณผิวบนใบหน้า เช่นโหนกแก้ม

วิธีดูแลและป้องกัน กระ

1. ใช้ครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิว

ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง (30 หรือสูงกว่า) ให้ทั่วบริเวณผิวทั้งหมด 15-20 นาทีก่อนออกไปข้างนอก ทาซ้ำทุกสองชั่วโมงทำกิจกรรมกลางแจ้ง ออกแดดเป็นเวลานานหรือหลังจากว่ายน้ำ/เหงื่อออก

 

2. ป้องกันผิวจากรังสีอัลตราไวโอเลต (UV)

สวมชุดมิดชิดเพื่อป้องกันรังสี UV เช่น เสื้อแขนยาว กางเกง หมวกปีกกว้าง และแว่นกันแดด

 

3. หลีกเลี่ยงช่วงเวลาที่แสงแดดมีความเข้มข้นสูง

หาที่ร่มในช่วงเวลาที่มีแสงแดดจ้า (10.00 น. ถึง 16.00 น.) และใช้ร่มเพื่อเพิ่มการป้องกันผิวจากแสงแดด

 

4. ทานอาหารที่มีประโยชน์

บริโภคอาหารที่อุดมด้วยสารอาหารด้วยอาหารที่มีวิตามินซี วิตามินอี และเบต้าแคโรทีนสูง เพื่อปรับสมดุลสุขภาพและเพิ่มการฟื้นฟูผิว

4 พฤติกรรมเสี่ยงที่เป็นสาเหตุของ กระ

1.ผิวหน้าเจอแสงแดด : แสงแดด ไม่เพียงเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวคล้ำเสียเท่านั้น แต่เป็นปัจจัยหลักที่กระตุ้นให้เกิดฝ้าได้ เนื่องจากเม็ดสีเมลานินจะผลิตขึ้นเพื่อทำหน้าที่กรองรังสียูวี หากผิวต้องเผชิญกับแสงแดดเป็นเวลานาน เมลานินก็จะถูกผลิตออกมามากขึ้นด้วยเช่นกัน โดยรังสีที่ส่งผลให้เกิดฝ้าได้คือ รังสี UVA สำหรับสาวๆ ที่มีไลฟ์สไตล์ขาลุย ไม่กลัวแดด ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้ง การใช้ครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพดีและเหมาะสมกับกิจกรรมที่ทำเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV ได้ อย่าง Eucerin SUN PROTECTION SUN SERUM SPOTLESS BRIGHTENING SPF50+ PA++++ ครีมกันแดดทาหน้าที่ช่วยปกป้องรังสี UVA/UVB ที่มาพร้อมสารทรงพลังอย่าง THIAMIDOL (ไทอามิดอล) สารไบรท์เทนนิ่งบำรุงผิวอย่างล้ำลึกเอกสิทธิ์เฉพาะจาก Eucerin ที่ช่วยลดผิวคล้ำเสีย พร้อมลดจุดด่างดำ ลดฝ้าแดดฝังลึกที่มีสาเหตุมาจากรังสี UV รวมถึง high Energy Visible Light ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดโอกาสการเกิดซ้ำเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง โดยเห็นผลอย่างชัดเจน เพื่อผิวดูกระจ่างใสใน 2 สัปดาห์

แสงแดด,หน้าเป็นกระ,กระ

2.ไม่ใช้ครีมบำรุง : สำหรับสาวสายชิลล์ที่มักจะละเลยการดูแลผิว หลายคนมักมองว่าปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ เป็นปัญหาผิววัย 30+ เท่านั้น ส่งผลให้ผิวหน้าไม่ได้รับการดูแลจนต่อยอดเป็นปัญหาผิวที่อาจสายเกินแก้ได้ เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดฝ้าฝังลึกในอนาคต เราจึงควรหมั่นทาครีมบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงเลือกใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของสารไวท์เทนนิ่งที่ช่วยในการฟื้นฟูผิวจากความหมองคล้ำเป็นประจำตั้งแต่เนิ่นๆ 

 

3.เครียด พักผ่อนไม่เพียงพอ : เคลียร์งานจนดึก นั่งทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งวัน ปาร์ตี้ยันเช้า แต่ต้องตื่นไปทำงานแบบไม่มีหยุดพัก พฤติกรรมเหล่านี้ล้วนทำให้สาวๆ เกิดความเครียดและพักผ่อนไม่เพียงพอ ส่งผลเสียต่อทั้งร่างกายและอารมณ์จนเกิดเป็นความเครียดได้ ซึ่งความเครียดมีผลทำให้เกิดอนุมูลอิสระขึ้นภายในร่างกาย เร่งการหลั่งเม็ดสีเมลานินออกมามากกว่าปกติ ทำให้ปัญหากระ จุดด่างดำตามมา

4.ใช้ครีมไวท์เทนนิ่งที่ไม่มีประสิทธิภาพ : การใช้ครีมไวท์เทนนิ่งเพื่อช่วยฟื้นบำรุงผิวหน้าเป็นอีกหนึ่งแนวทางการดูแลปัญหากระได้ด้วยตัวเอง ซึ่งผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่งในปัจจุบันมีให้เลือกมากมาย แต่มีกลไกการทำงานและให้ประสิทธิภาพที่แตกต่างกัน ด้วยเกิดจากสารสำคัญที่เป็นส่วนผสมหลักนั้นมีประสิทธิภาพไม่เพียงพอ ซึ่งครีมไวท์เทนนิ่งส่วนมากที่พบในท้องตลาดทั่วไป มักมีกลไกในการดูแลเฉพาะผิวชั้นนอก เช่น การผลัดเซลล์ผิวด้วยกรดผลไม้ แต่ไม่ได้ลงลึกจัดการกับต้นตอของสาเหตุที่ทำให้เกิดเม็ดสีเมลานิน ทำให้ปัญหากระ จุดด่างดำยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างแท้จริง  

เซรั่มทาฝ้า,ครีมลดฝ้า
Eucerin Brightening Spotless Booster Serum

จึงเป็นที่มาของผลิตภัณฑ์เซรั่มทาฝ้ากระของยูเซอริน Eucerin EVEN SKIN SPOTLESS BRIGHTENING BOOSTER SERUM คือที่มีส่วนผสมของ สารไทอามิดอล (Thiamidol™) สารให้ความกระจ่างใสเอกสิทธิ์เฉพาะจากยูเซอริน ที่ได้รับการคิดค้นและวิจัยจากผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังว่ามีความสามารถในการยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส สาเหตุของการเกิดฝ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง ผสานทำงานร่วมกับ ไฮยาลูรอนเข้มข้นที่เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการฟื้นบำรุงผิวหน้า และช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิว โดดเด่นด้วยนวัตกรรมสุดล้ำเทคโนโลยี micro target ที่ช่วยในการนำพาสารสำคัญทั้งสองให้ซึมซาบลึกสู่ชั้นผิวและจัดการตรงจุดถึงต้นตอของปัญหา ฟื้นบำรุงให้ผิวกระจ่างใสขึ้น ลดปัญหากระ ฝ้าแดด ได้ภายใน 2 สัปดาห์ เมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง และ Licochalcone สารแอนติออกซิแดนท์ ทรงประสิทธิภาพ ช่วยตัดวงจรฝ้าแดด จุดด่างดำ และลดโอกาสการกลับมาเป็นฝ้า จุดด่างดำซ้ำอีกได้มากถึง 75% ผ่านการพิสูจน์และรับรองโดยผู้เชี่ยวชาญและผู้ทดสอบการใช้งานพึงพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้  

ทั้ง 4 พฤติกรรมเสี่ยงทำหน้าเป็นกระ เหล่านี้ อาจเป็นเพียงจุดเล็กๆ ที่กระตุ้นให้เกิดปัญหาหน้าเป็นกระขึ้น แต่หากเรายังคงละเลยการดูแลผิวหน้าอย่างจริงจัง ปัญหาผิวอาจเกิดการสะสมและรุนแรงขึ้นได้ เพื่อช่วยให้คุณมีผิวกระจ่างใสที่สมบรูณ์แบบ ปัญหาผิวเหล่านี้ควรต้องได้รับการดูแลอย่างตรงจุด รวมทั้งต้องหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง หันมาเอาใจใส่สุขภาพมากยิ่งขึ้น รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และมอบสารอาหารที่ดีต่อผิว ไม่ละเลยที่จะบำรุงผิวหน้าอย่างจริงจังและเลือกใช้ครีมทาฝ้าที่มีประสิทธิภาพสูงอย่าง Eucerin EVEN SKIN SPOTLESS BRIGHTENING BOOSTER SERUM ตัวช่วยที่ขาดไม่ได้สำหรับผิวที่มีปัญหาฝ้า กระ และจุดด่างดำฝังลึก ช่วยดูแลให้ผิวโกลว์ กระจ่างใสได้อย่างแท้จริง


วิธีรักษากระ

1. การรักษาด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนช่วยในการรักษากระ

a. เรตินอยด์: อนุพันธ์ของวิตามินเอที่มีความแข็งแรง ที่สามารถช่วยให้ฝ้ากระจางลงโดยส่งเสริมการผลัดเซลล์ ควรใช้ตามคำสั่งแพทย์เท่านั้น เนื่องจากมีผลข้างเคียง

b. ไฮโดรควิโนน: สารปรับสีผิวที่ลดการสร้างเมลานิน ทำให้ฝ้ากระจางลง

c. กรดไกลโคลิก: กรดอัลฟ่าไฮดรอกซีที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว ช่วยลดรอยกระ

 

2. การรักษาด้วยเลเซอร์ชนิดต่างๆ

a. Intense Pulsed Light (IPL): การรักษาแบบมุ่งเป้าไปที่เมลานินในกระ ทำให้เมลานินเกิดการสลายและจางลง

b. Q-switched lasers: เลเซอร์ชนิดหนึ่งที่ให้พลังงานเป็นจังหวะสั้นๆ เพื่อสลายเม็ดสีเมลานินในกระ ให้ร่างกายสามารถกำจัดเม็ดสีได้เองตามธรรมชาติ

 

3 .การบำบัดด้วยความเย็น (Cyrotherapy)

การใช้ความเย็นจัด (Cyrotherapy) เพื่อทำลายเซลล์ที่สร้างเม็ดสีเมลานินในฝ้ากระ ซึ่งนำไปสู่การจางลงในที่สุด

 

4. การลอกผิวด้วยสารเคมี

การใช้สารละลายที่มีความเป็นกรดกับผิวหนังเพื่อกำจัดเซลล์ผิวหนังชั้นบนสุด และให้ผิวหนังฟื้นฟูตัวเองใหม่และมีสีผิวสม่ำเสมอขึ้น วิธีนี้ควรให้แพทย์ผิวหนังเป็นคนทำการรักษา เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบและผลข้างเคียง

 

5. การขัดผิว

ขั้นตอนที่ใช้เครื่องขัดผิวชั้นบนสุด ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่เป็นกระ ทำให้ดูจางลงเมื่อเวลาผ่านไปและเซลล์ผิวใหม่ฟื้นฟูขึ้นมาแทนที่

กระ ที่เกิดในเด็กและวัยรุ่น

ในเด็กบางคน กระ ปรากฏบนผิวหน้าตั้งแต่ในวัยเด็กและอาจเด่นชัดขึ้นในช่วงวัยแรกรุ่น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่กระตุ้นเซลล์เมลาโนไซต์ให้ผลิตเมลานินออกมามากผิดปกติ การดูแลกระในเด็ก ผู้ปกครองควรให้ความรู้แก่บุตรหลาน ในเรื่องความสำคัญของการป้องกันตัวเองจากแสงแดดตั้งแต่ยังเด็ก เนื่องจากผิวหนังมีความเสี่ยงต่อการถูกทำลายจากแสงแดดเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นการสอนให้ทาครีมกันแดด สวมชุดป้องกัน และหาที่ร่มในช่วงเวลาที่มีแสงแดดจ้า

กระ ที่เกิดในผู้ที่มีอายุมาก

เมื่ออายุมากขึ้น ลักษณะและการกระจายของกระอาจเปลี่ยนไป กระบางส่วนอาจจางลง ในขณะที่บางส่วนอาจเห็นชัดขึ้นเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของผิวหนังตามอายุ เช่น ผิวบางลง และการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินลดลง การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อาจส่งผลต่อความเข้มและลักษณะของกระ

 

เพื่อป้องกันการเกิดกระในผู้สูงอายุ ควรจะต้องมีนิสัยในการดูแลผิวที่ดี รวมทั้งการป้องกันแสงแดด ความชุ่มชื้น และการรับประทานอาหารที่สมดุล การรักษาเฉพาะที่ เช่น เรตินอยด์ การรักษาด้วยเลเซอร์ อาจช่วยป้องกันการเปลี่ยนแปลงของผิวหนังตามอายุและช่วยรักษาผิวให้อ่อนเยาว์ขึ้นได้

บทความเกี่ยวข้อง

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง