ผิวกระจ่างใส ไร้จุดด่างดำ เป็นผิวหน้าที่ใครๆ หลายคนใฝ่ฝัน แต่สำหรับบางคนแม้จะดูแลผิวหน้าเป็นอย่างดี ใช้ครีมไวท์เทนนิ่งเป็นประจำเช้า/เย็น แต่ผิวหน้าก็ยังดูหมองคล้ำ มีจุดด่างดำปรากฏชัดเจน…. อะไรคือสิ่งที่คุณมองข้าม? วันนี้เราจะมาค้นหาสิ่งที่คุณอาจจะยังละเลย หรือเข้าใจแบบผิดๆ พร้อมคำแนะนำในการดูแลเพื่อผิวกระจ่างใสไร้ฝ้า กระ ที่เห็นผลและปลอดภัย
3 เหตุผล ที่ไม่ควรมองข้าม ถ้าอยากมีผิวกระจ่างใส
ก่อนที่จะไปถึงขั้นตอนการฟื้นบำรุงผิวใส เรามาดูกันก่อนว่าอะไรคือสิ่งที่คุณละเลย หรือเข้าใจแบบผิดๆในขั้นตอนใดในการบำรุงผิวหน้า จนเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวหมองคล้ำ ไม่กระจ่างใสเสียที
- ละเลยการทาครีมกันแดด แสงแดดเป็นตัวการใหญ่ที่กระตุ้นให้ผิวผลิตเมลานินหรือเซลล์เม็ดสีมากขึ้น หากไม่ปกป้องผิวจากแสงแดดด้วยการทาครีมกันแดด ผิวจะยิ่งผลิตเมลานินในปริมาณเพิ่มขึ้นทำให้ผิวหมองคล้ำ รังสียูวีจากแสงแดดยังก่อให้เกิดจุดด่างดำ โดยรังสียูวีจะกระตุ้นการผลิตเม็ดสีเมลานิน ผิวจึงดูหมองคล้ำมากยิ่งขึ้น
- ใช้ครีมบำรุงผิวที่ไม่ตอบโจทย์ปัญหาของปัญหาผิว การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวบางชนิดที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวแม้จะช่วยให้ผิวขาวขึ้นได้อย่างรวดเร็วแต่อาจเกิดผลข้างเคียงคือ ผิวแห้ง ผิวลอก ถึงขนาดที่ทำให้ผิวหน้าบางลงมากจนไวต่อการระคายเคือง ซึ่งผิวหน้าของเราจะยิ่งไวต่อการถูกกระตุ้นและนำไปสู่ปัญหาจุดด่างดำซ้ำๆ
- สครับหน้ารุนแรงเกินไป ผิวของเรามีรอบผลัดเซลล์ทุกๆ 28 – 30 วัน หากปล่อยให้เซลล์ผิวที่ตายแล้วทับถมกันนานๆ เข้า ผิวหน้าก็จะดูหมองคล้ำ ผิวไม่กระจ่างใส จึงควรสครับผิวหน้าเพื่อช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า เปิดโอกาสให้เซลล์ผิวใหม่ได้เผยโฉม ทั้งนี้การสครับผิวควรทำอย่างเบามือและเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่หยาบกระด้างจนเกินไป เพราะจะทำให้ผิวหน้ายิ่งเกิดการระคายเคือง ผิวแห้ง และผิวลอกหรือบางลง ส่งผลให้ผิวไวต่อแสง แทนที่จะแก้ปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ กลับเกิดปัญหาใหม่ให้ต้องแก้ไขเพิ่มขึ้นไปอีก
รู้หรือไม่? อะไรคือสาเหตุการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ? สาเหตุของการเกิดจุดด่างดำ มีได้หลายปัจจัยทั้งภายในและภายนอก โดยเฉพาะแสงแดดที่เป็นศัตรูอันดับหนึ่ง ทำให้เอนไซม์ไทโรซิเนส (Tyrosinase) กระตุ้นให้เม็ดสีเมลานินถูกผลิตออกมามากกว่าปกติ จึงทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นมีสีเข้มขึ้น และเกิดเป็นปัญหาฝ้า กระ และจุดด่างดำต่างๆ มากวนใจเรา |