แสงแดด ที่เราต้องเผชิญในแต่ละวันเป็นหนึ่งในปัจจัยกระตุ้นที่มีผลต่อสุขภาพผิวหน้า นำไปสู่ปัญหาผิวได้หลายประการ ทั้งริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อย จุดด่างดำ ฝ้า กระแดด หรือเป็นสิว แม้จะมีการใช้อุปกรณ์ต่างๆ เพื่อช่วยป้องกันผิวจากแสงแดด แต่ก็เป็นเพียงตัวช่วยเสริมเท่านั้น เพราะการปกป้องผิวจากแสงแดดที่ดีที่สุดคือการใช้ครีมกันแดด ดังนั้นการเลือกครีมกันแดดที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ
เพื่อช่วยให้คุณค้นหาครีมกันแดดที่ดีที่สุดสำหรับสภาพผิวของคุณ วันนี้เรามีคำแนะนำการเลือกครีมกันแดด และผลิตภัณฑ์กันแดดจากยูเซอรินสำหรับแต่ละสภาพผิวมาแนะนำ
เลือกครีมกันแดดตัวไหนดี? คุณสมบัติครีมกันแดดที่ควรรู้
ครีมกันแดดในปัจจุบัน นอกจากจะต้องมีประสิทธิภาพในการปกป้องรังสี UVA/UVB จากแสงแดดได้ดีแล้ว ควรมีคุณสมบัติในการปกป้องผิวจากคลื่นรังสีและคลื่นแสงจากที่อื่นๆ ด้วย เช่น แสงจากหลอดไฟ จอโทรทัศน์ จอโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เนื่องจากอุปกรณ์เหล่านี้สามารถปล่อยพลังงาน High-energy visible light(HEVIS Light) หรือ แสงสีฟ้า ซึ่งมีอานุภาพในการทำร้ายเซลล์ผิวเทียบเท่ากับรังสี UVA และ UVB สามารถกระตุ้นการสร้างอนุมูลอิสระ (Free Radical) และเม็ดสีเมลานิน ต้นตอของการเกิดจุดด่างดำ ฝ้า กระ รวมถึงปัญหาผิวและริ้วรอยอื่นๆ ได้เช่นกัน
เพื่อให้ผิวได้รับการปกป้องและดูแลปัญหาผิวได้เป็นอย่างดี การเลือกใช้ครีมกันแดดจึงต้องพิจารณาคุณสมบัติเหล่านี้1. ค่า SPF และ PA :
ค่าของ SPF หรือ PA ที่อยู่ใน ครีมกันแดดทาหน้า อาจเป็นสิ่งที่หลายคนมองหาเป็นอันดับแรก เพราะคุ้นชินกับการได้ยินหรือคุ้นตาแต่ยังมีหลายคนที่อาจจะไม่เข้าใจถึงความหมายของค่าแสดงเหล่านี้มากนัก ซึ่งส่วนใหญ่มักเข้าใจว่ายิ่งค่าตัวเลขสูงยิ่งมีประสิทธิภาพที่ดี แต่ความหมายที่แท้จริงของค่าแสดงที่สามารถพบเห็นได้บนผลิตภัณฑ์ครีมกันแดด สามารถอธิบายได้ดังนี้
- SPF (Sun Protection Factor) หรือค่าความสามารถในการป้องกันรังสี UVB ซึ่งตัวเลขที่ต่อท้ายจะเป็นการบอกค่าจำนวนเท่าของระยะเวลาที่ผิวสามารถทนต่อรังสีได้ โดยหลังจากนั้นถึงจะเกิดอาการแดงหรือผิวไหม้แดด ปัจจุบันในครีมกันแดดมีค่าปกป้องแตกต่างหลายระดับ เพื่อให้สามารถเลือกใช้งานได้ตามแต่สถานการณ์
- PA (Protection Grade of UVA) คือ ค่าที่แสดงถึงการปกป้องผิวจากรังสี UVA ที่สามารถทำร้ายผิวได้ลึกจนทำให้เกิดปัญหาฝ้า กระ ริ้วรอย และความแก่ก่อนวัย ส่วนเครื่องหมาย + ที่ตามหลังนั้น คือค่าความสามารถในการปกป้องผิว โดยแบ่งออกได้ตามระดับ ดังนี้
PA+ คือ มีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี
PA++ คือ มีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสีได้ปานกลาง ทำงานในที่ร่ม หรือในออฟฟิศ
PA+++ คือ มีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสีได้มาก สามารถทำงานกลางแดดจ้าได้
PA++++ คือ มีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสีได้สูงมาก ทำงานกลางแดดตลอดเวลาได้
2.ครีมกันแดดที่ให้การปกป้องขั้นกว่า : ครีมกันแดดทั่วไปมักจะเน้นไปที่การปกป้องรังสี UVA/UVB จากแสงแดดเป็นหลัก แต่เพราะไลฟ์สไตล์แบบชีวิตติดจอของคนยุคใหม่ในปัจจุบัน การเลือกกันแดดที่ดีที่สุดจึงต้องช่วยปกป้องได้มากกว่าและต้องมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดการทำร้ายผิวจากแสงแดดและรังสีต่างๆ ได้อีกด้วย
3.ครีมกันแดดที่ดีที่สุดสำหรับผิวของคุณ : นอกจากคุณสมบัติที่สำคัญทั้ง 2 ข้อจากที่กล่าวมาแล้วนั้น หัวใจสำคัญอีกข้อคือ เนื้อสัมผัส ควรเลือกครีมกันแดดที่มีเนื้อบางเบา ซึมซาบเร็ว ไม่ทิ้งความมันตกค้าง เกาะติดผิวแต่ไม่ทำให้รู้สึกเหนอะหนะ ไม่หลุดง่ายระหว่างวัน มีส่วนผสมที่อ่อนโยน เหมาะกับสภาพผิวและปัญหาผิวของแต่ละคนด้วย เพราะทุกคนล้วนมีสภาพผิวที่แตกต่าง ปัญหาผิวที่ต้องได้รับการดูแลรักษาและฟื้นฟูต่างกัน การเลือกครีมกันแดดเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพผิวและปัญหาผิวของคุณ จะเป็นการช่วยให้ครีมกันแดดนั้นสามารถปกป้องได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น