การแต่งหน้าเป็นเรื่องที่จำเป็นสำหรับทุกคน โดยเฉพาะมือใหม่ซึ่งไม่ใช่เฉพาะสาวๆ เท่านั้น ไม่ว่าจะเพศไหนก็สามารถแต่งหน้าได้ทั้งนั้น จะแต่งมากแต่งน้อยก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน สำหรับมือใหม่แล้วก็อาจจะมึนงงสักหน่อยว่าควรจะทาอะไรก่อนหลังดี และที่หลายคนยังไม่รู้คือขั้นตอนการเตรียมผิวและทาครีมเป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้ขั้นตอนการแต่งหน้า เพราะหากทำตามขั้นตอนอย่างถูกต้องก็จะช่วยให้เครื่องสำอางที่ใช้แต่งลงบนผิวหน้าติดทนนานมากขึ้นด้วย สำหรับมือใหม่มาดู step-by-step กับ 12 ขั้นตอนการแต่งหน้า ควรทาอะไรก่อนหลัง ง่ายๆ ดังนี้เลย
1. ขั้นตอนทำความสะอาดผิวหน้า
การล้างทำความสะอาดผิวหน้าให้หมดจดก่อนแต่งหน้าก็เป็นขั้นตอนที่ไม่ควรมองข้าม เพราะบางครั้งบนผิวหน้าผลิตน้ำมันออกมาระหว่างวันมากเกินไป หากแต่งหน้าลงเครื่องสำอางทันที ก็จะทำให้เครื่องสำอางไม่ติดทนนาน และสิ่งสกปรกอาจเข้าไปสะสมในรูขุมขนได้ แนะนำ Eucerin SPOTLESS BRIGHTENING GENTLE CLEANSING FOAM คลีนซิ่งช่วยทำความสะอาดผิวหน้า ขจัดเซลล์ผิวคล้ำเสีย ผสานสาร Dio-Actiove และ Bisabolol ที่ช่วยฟื้นบำรุงให้ผิวกระจ่างใส ดูสุขภาพดี
เคล็ดลับ: หากแต่งหน้าเป็นประจำ ควรใช้เมคอัพรีมูฟเวอร์เช็ดเครื่องสำอางออกให้หมดจดก่อน แล้วจึงตามด้วยคลีนเซอร์ (Double Cleansing)

2. ขั้นตอนปรับสภาพผิวเตรียมผิวให้พร้อมก่อนลงเมคอัพ
การปรับสภาพผิวเป็นอีกขั้นตอนสำคัญ เพราะช่วยบำรุงให้ผิวชุ่มชื้น ทำให้เมคอัพติดทน และปรับสภาพผิวให้พร้อมสำหรับการลงผลิตภัณฑ์ในขั้นตอนต่อไป ขอแนะนำ Eucerin SPOTLESS BRIGHTENING BOOSTING ESSENCE น้ำตบเพื่อผิวกระจ่างใส เป็นขั้นตอนแรกของการบำรุงผิว ช่วยปรับสภาพผิว ด้วยส่วนผสมที่มี Vitamin C ช่วยผลัดเซลล์ผิวหมองคล้ำอย่างอ่อนโยน ผสาน HYALURON เติมความชุ่มชื้นให้ผิวดูอิ่มฟู โกลว์ใส และ Panthenol ช่วยปลอบประโลมผิวและฟื้นบำรุงผิวให้ดูแข็งแรงเตรียมผิวให้พร้อมก่อนลงสกินแคร์ขั้นต่อไป
เคล็ดลับ: เลือกใช้ให้เหมาะกับปัญหาผิว เช่น หากต้องการความกระจ่างใส อาจเลือกเอสเซนส์ที่มีส่วนผสมของ Thiamidol
3. ขั้นตอนการบำรุงผิวด้วยสกินแคร์บำรุงผิว
สำหรับสกินแคร์บำรุงผิวที่มักใช้ลงก่อนแต่งหน้าจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิว ขั้นตอนนี้มีความจำเป็นอย่างมาก นอกจากจะทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นและช่วยให้เครื่องสำอางติดทนนานมากขึ้น ยังทำให้ผิวกระจ่างใส แนะนำให้ใช้เซรั่มที่มีเนื้อบางเบาเป็นพิเศษ เพื่อความสบายผิวหลังแต่งหน้าและไม่เหนียวเหนอะหนะหรือมันระหว่างวัน
เคล็ดลับ: การลงสกินแคร์จากเนื้อบางเบาที่สุดไปหาเนื้อหนักที่สุด จะช่วยให้ผลิตภัณฑ์ซึมเข้าสู่ผิวได้ดี
4. ขั้นตอนการปกป้องผิวด้วยครีมกันแดด
ครีมกันแดดสำคัญมาก เพราะไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หัดแต่งหน้า หรือแต่งหน้าจนชินแล้ว ก็ต้องปกป้องผิวก่อนที่จะออกไปเผชิญกับแสงแดด และควรเลือกครีมกันแดดที่ไม่อุดตันผิว อย่าง Eucerin Sun Protection SUN SERUM SPOTLESS BRIGHTENING SPF50+ PA+++ ป้องกันแสงแดด ลดฝ้าแดด จุดด่างดำตั้งแต่ต้นตอ และป้องกันการเกิดซ้ำ เนื้อเซรั่มบางเบา ช่วยให้ผิวกระจ่างใสและผ่านการทดสอบว่าไม่อุดตันรูขุมขน
เคล็ดลับ: แม้อยู่ในที่ร่มหรือวันที่มีเมฆมาก รังสียูวีก็ยังสามารถทะลุผ่านเข้ามาทำร้ายผิวได้ จึงควรทาครีมกันแดดทุกวัน
5. ขั้นตอนการลงไพรเมอร์ เพื่อผิวเรียบเนียน
การลงไพรเมอร์นั้นใช้สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าไม่เรียบเนียน หากใครที่มีปัญหาหลุมสิวหรือรูขุมขนกว้าง ไพรเมอร์สามารถช่วยอำพราง ลดเลือนจุดบกพร่องได้ สำหรับคนที่มีหลุมสิวขนาดใหญ่หรือมีรูขุมขนที่มองเห็นชัดไพรเมอร์ก็จะช่วยให้ร่องรอยพวกนั้นแลดูเลือนลางขึ้นได้
เคล็ดลับ: หากไม่มีปัญหาผิวที่ชัดเจนมากนัก หรือต้องการลุคที่บางเบา อาจข้ามขั้นตอนนี้ไปได้
6. ขั้นตอนการลงเมคอัพเบส
เมคอัพเบสเป็นขั้นตอนการปรับการปรับสีผิวจุดบกพร่องต่าง ๆ บนใบหน้าของเรา ด้วยการผสมสีลงไป ใครที่มีปัญหา รอยจากกดสิว, ขอบตาคล้ำ, สิวแดงที่เกิดใหม่ หรือริ้วรอยต่าง ๆ ก็ต้องลงเบสเพื่อปรับสภาพสีผิวก่อน ช่วยเก็บรายละเอียดของผิว และทำให้เครื่องสำอางติดทนนานยิ่งขึ้น เบสแต่ละสีจะทำหน้าที่ต่างกัน
เคล็ดลับ: มือใหม่ควรเริ่มจากปริมาณน้อยๆ ก่อน เพราะหากลงมากไปอาจทำให้สีเพี้ยนได้ ขั้นตอนนี้อาจไม่จำเป็นสำหรับทุกคน
7. ขั้นตอนการลงรองพื้น
เริ่มเข้าสู่ขั้นตอนการแต่งหน้าด้วยการลงรองพื้น รองพื้นจะช่วยปรับสภาพผิวหน้าให้เรียบเนียน สม่ำเสมอ พร้อมปกปิดรอยดำรอยแดงและริ้วรอยที่ไม่พึงประสงค์ การเลือกฟินิชของรองพื้นให้เข้ากับสภาพผิวสำคัญมาก เช่น ผู้ที่มีผิวแห้งการใช้รองพื้นที่ให้ฟินิชแบบฉ่ำโกลว์นั้นตอบโจทย์มากกว่า ในขณะที่ผิวหน้ามันแนะนำให้เลือกเป็นรองพื้นแบบแมตต์เพราะช่วยควบคุมความมันได้ดี
เคล็ดลับสำหรับมือใหม่: เริ่มจากปริมาณน้อยๆ ก่อน ค่อยๆ เพิ่มหากต้องการการปกปิดมากขึ้น การใช้ฟองน้ำชุบน้ำหมาดๆ จะช่วยให้เกลี่ยรองพื้นได้เนียนและดูเป็นธรรมชาติ
8. ขั้นตอนลงคอนซีลเลอร์ปกปิดริ้วรอยให้เป็นธรรมชาติ
การลงคอนซีลเลอร์ใต้ตาเพื่อปกปิดความหมองคล้ำใต้ตา มีเทคนิกง่ายๆ ในการทาคือให้ทาเป็นรูปสามเหลี่ยมคว่ำที่ใต้ตาเพื่อปกปิดความหมองคล้ำใต้ตา นอกจากนี้สามารถปกปิดบริเวณอื่นๆ บนใบหน้า เช่น หางตา ริมฝีปาก และรอยสิวได้ด้วย การใช้คอนซีลเลอร์ที่ดีที่สุดและให้ลุคที่เป็นธรรมชาติที่สุดคือการใช้นิ้วมือค่อย ๆ เกลี่ยจนเนื้อคอนซีลเลอร์เรียบเนียนไปกับผิวหน้า
เคล็ดลับ: เลือกสีคอนซีลเลอร์ให้เหมาะสม ถ้าใต้ตาคล้ำมาก อาจใช้คอนซีลเลอร์ที่สว่างกว่าสีผิว 1 เฉด สำหรับรอยสิวควรเลือกสีที่พอดีกับผิวหรือเข้มกว่าเล็กน้อยเพื่อไม่ให้รอยดูเทา
9. ขั้นตอนการลงแป้งเก็บรายละเอียดผิว
แป้งมีคุณสมบัติช่วยควบคุมความมัน รวมถึงเซ็ตเครื่องสำอางให้ติดทน เทคนิคการลงแป้งแนะนำให้ลงบริเวณ T-Zone เพราะเป็นบริเวณที่ผลิตน้ำมันออกมากที่สุดทำให้หน้ามันง่ายกว่าส่วนอื่น ซึ่งแป้งแต่งหน้ามีหลายประเภท สำหรับมือใหม่แนะนำแป้งโปร่งแสง (Translucent) เพราะสามารถเข้าได้กับทุกสีผิว
เคล็ดลับสำหรับมือใหม่: แป้งฝุ่นโปร่งแสง (Translucent Loose Powder) เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะใช้ง่าย ไม่ต้องกังวลเรื่องสีเพี้ยน และช่วยให้ลุคดูเป็นธรรมชาติ
10. ขั้นตอนการแต่งตาให้โดดเด่น
ขั้นตอนนี้ขอบอกโดยรวม เริ่มจากการเขียนคิ้วให้เป็นทรงสวย สำหรับมือใหม่แนะนำคิ้วทรงตรงสไตล์สาวเกาหลี เพราะนอกจากจะสามารถวาดโครงคิ้วได้ง่ายแล้วยังให้ลุคที่ดูเป็นธรรมชาติด้วย และเริ่มแต่งดวงตาให้โดดเด่นด้วยอายแชโดว์เพิ่มมิติให้ดวงตา ดัดขนตาปัดมาสคาราอีกหน่อยให้ขนตางอนเด้งมากขึ้น
เคล็ดลับ: สำหรับลุคประจำวัน อาจเลือกแต่งตาโทนสีธรรมชาติ เช่น สีน้ำตาล สีพีช หรือสีชมพูอ่อนๆ

11. ขั้นตอนการปัดแก้มด้วยบลัชออน
การปัดแก้มด้วยบลัชออนด้วยให้ใบหน้าดูสดใสขึ้น โดยอาจเลือกเป็นสีเดียวกับอายแชโดว์หรือโทนสีที่ใกล้เคียง เพื่อให้เมกอัพดูละมุน จากนั้นค่อยๆ ปัดบริเวณหน้าแก้ม ไล่สูงไปจนถึงโหนกแก้ม ระวังอย่าปัดให้เลยจมูกลงมาเพราะจะทำให้หน้าดูไม่เต่งตึง และดูหย่อนคล้อยได้
เคล็ดลับ: เนื้อครีมจะให้ลุคที่ดูเป็นธรรมชาติและฉ่ำวาวกว่า เหมาะสำหรับผิวแห้ง ส่วนเนื้อฝุ่นจะใช้ง่ายและติดทนกว่า เหมาะสำหรับผิวมันหรือมือใหม่

12. ขั้นตอนการทาลิปสติก
ก่อนทาลิปสติกควรบำรุงริมฝีปากด้วยลิปมัน แนะนำเป็น Eucerin Aquaphor SOS LIP CARE ช่วยฟื้นบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื่น ด้วยนวัตกรรม Semi-occlusive ช่วยเคลือบปกป้องและล็อกความชุ่มชื้นให้ริมฝีปาก และช่วยให้ออกซิเจนสามารถผ่านเข้าผิวเพื่อเสริมกระบวนการฟื้นบำรุงริมฝีปากได้ดีขึ้นและช่วยให้ลิปสติกติดทนยิ่งขึ้น สำหรับสีลิปสติกควรเลือกสีลิปสติกที่โทนสีเดียวกับบลัชออน สำหรับใครที่อยากดูลุคสดใส แนะนำให้ใช้ลิปแบบทินต์ทาเบาๆ ให้ลุคดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
เคล็ดลับ: สำหรับลุคธรรมชาติ อาจเลือกใช้ลิปทินท์ทาด้านในริมฝีปากแล้วเกลี่ยออกมา หรือลิปสติกสีนู้ดชมพู หากต้องการให้ลิปสติกติดทนนาน หลังจากทารอบแรก ให้ซับด้วยกระดาษทิชชูเบาๆ แล้วทาซ้ำอีกรอบ