มอยเจอร์ไรเซอร์ คืออะไร วิธีเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวหน้าของตัวเอง

อ่านแล้ว 2 นาที
แสดงบทความเพิ่มเติม
มอยเจอร์ไรเซอร์

พูดถึง มอยเจอร์ไรเซอร์ หลายๆคนคงคิดถึงครีมบำรุงผิวหน้าที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว แต่ทราบหรือไม่ว่า มอยเจอร์ไรเซอร์สำหรับผิวแห้ง ผิวมัน ผิวแพ้ง่าย เป็นสิว หรือสภาพผิวที่มีปัญหาอื่นๆ นั้นมีความแตกต่างกัน เพราะฉะนั้นหากเรารู้จักสภาพผิวของตัวเองจะยิ่งช่วยให้การบำรุงผิวหน้ามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น วันนี้เรามาบอกทริคในการเลือก มอยเจอร์ไรเซอร์ ที่เหมาะกับแต่ละสภาพผิวแบบง่ายๆ ที่นอกจากจะช่วยคืนความชุ่มชื้นให้ผิวแล้วยังได้ฟื้นบำรุงจากปัญหาผิวต่างๆ ไปพร้อมๆ กันได้อีกด้วย



มอยเจอร์ไรเซอร์ คืออะไร ?

มอยเจอร์ไรเซอร์ (Moisturizer) คือ ผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวที่มีหน้าที่ช่วยเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิวหนังชั้นนอก (Stratum Corneum) เปรียบเสมือนการเติมน้ำและสร้างเกราะป้องกันให้กับผิว แม้ว่าร่างกายเราจะสามารถผลิตสารที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นใต้ผิวหนังได้เองตามธรรมชาติ แต่ด้วยปัจจัยที่เป็นตัวกระตุ้น เช่น ฝุ่น ควัน มลภาวะต่างๆ ส่งผลให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น หรืออายุที่เพิ่มมากขึ้นทำให้สารสำคัญใต้ผิวเหล่านี้ผลิตได้ลดน้อยลงจนผิวหนังขาดความุช่มชื้น

ทำไมเรายังต้องใช้มอยเจอร์ไรเซอร์?

  1. ปัจจัยภายนอก: การเผชิญกับสภาพอากาศที่แห้ง (ห้องแอร์, ฤดูหนาว), ลม, แสงแดด, มลภาวะ, การล้างหน้าบ่อยครั้ง หรือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่รุนแรง สามารถทำลายเกราะป้องกันผิวและทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่ายขึ้น
  2. อายุที่เพิ่มขึ้น: ความสามารถในการผลิต NMFs และไขมันตามธรรมชาติลดลง ทำให้ผิวแห้งกร้านและเกิดริ้วรอยได้ง่ายขึ้น
  3. สภาพผิว: ผู้ที่มีสภาพผิวแห้งแต่กำเนิด หรือมีภาวะผิวหนังบางอย่าง เช่น ผิวหนังอักเสบ (Eczema) มักจะมีเกราะป้องกันผิวที่ไม่แข็งแรง
  4. การใช้ยารักษาโรคบางชนิด: เช่น ยารักษาสิวบางกลุ่ม อาจทำให้ผิวแห้งและระคายเคือง

มอยเจอร์ไรเซอร์จึงเข้ามาช่วยเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไป เสริมสร้างความแข็งแรงให้เกราะป้องกันผิว และรักษาความสมดุลของความชุ่มชื้น ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ เรียบเนียน และสุขภาพดี

มอยเจอร์ไรเซอร์ แบ่งออกเป็น 3 ประเภทตามคุณสมบัติ

มอยเจอร์ไรเซอร์ที่ช่วยเคลือบผิว

จะช่วยสร้างแผ่นฟิล์มบางๆเพื่อช่วยในการเก็บน้ำในผิว ช่วยชะลอไม่ให้ผิวหนังสูญเสียความชุ่มชื้นเร็วเกินไป

เหมาะกับ: ผิวแห้งมาก, ผิวที่ต้องการการปกป้องเป็นพิเศษ (แต่คนผิวมัน/เป็นสิวง่ายควรเลือกใช้ด้วยความระมัดระวัง หรือเลือกชนิดที่ไม่หนักผิว เช่น Dimethicone)

 

มอยเจอร์ไรเซอร์ที่ทำให้ผิวนุ่ม

ส่วนมากจะเป็นสารไขมันต่างๆที่สามารถซึมได้ง่าย เพื่อทำให้เซลล์ผิวที่ตายแล้วหรือสะเก็ดต่างๆ มีความนุ่มมากขึ้น

เหมาะกับ: ผิวธรรมดาถึงผิวแห้ง หรือผิวที่มีปัญหาเกราะป้องกันผิวอ่อนแอ

 

มอยเจอร์ไรเซอร์ที่เติมความชุ่มชื้นให้ผิว

จะประกอบไปด้วยสารที่ดูดซับน้ำและจะเติมความชุ่มชื้นให้ผิวหนังที่ขาดน้ำ หรือมีอาการผิวแห้ง

เหมาะกับ: ทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวขาดน้ำ

วิธีเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์ให้เหมาะกับผิว

ปัจจุบันมีมอยเจอร์ไรเซอร์ให้เลือกหลากหลายรูปแบบ อีกทั้งเนื้อสัมผัสก็มีความแตกต่างกัน นอกจากนี้ยังมีการผสานรวมกับสารสำคัญอื่นๆ ช่วยดูแลปัญหาผิวต่างๆ เพื่อให้เหมาะสมกับแต่ละสภาพผิวหน้าของแต่ละคนอีกด้วย

 

ผิวเป็นสิว

ควรใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ที่ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ลดการอุดตันของรูขุมขน และลดการเกิดสิวซ้ำ

 

ผิวมัน

ควรใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีเนื้อครีมบางเบา และมีสารควบคุมความมันบนใบหน้า

 

ผิวแห้ง

ควรใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ที่เพิ่มเติมความชุ่มชื้น ช่วยปรับสมดุลและกักเก็บความชุ่มชื้น

 

มีฝ้า กระ

ควรใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีสารลดเลือนจุดด่างดำและปรับสีผิวโดยเฉพาะ

 

มีริ้วรอย

ควรใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ที่เติมความชุ่มชื้นและปรับสมดุล มีสารเติมริ้วรอยให้ตื้นขึ้น

 

ผิวแพ้ง่าย

ควรใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ที่เติมความชุ่มชื้นให้ผิวหน้า สร้างเกราะป้องกันผิว ลดการระคายเคือง และต้องไม่มีสารพาราเบน แอลกอฮอล์ น้ำหอม

 

ผิวขาดน้ำ

ผิวขาดน้ำเกิดได้กับทุกสภาพผิว แม้แต่ผิวมัน ควรเลือกเนื้อสัมผัสตามสภาพผิวพื้นฐาน เช่น ผิวมันขาดน้ำ ใช้เจลที่มี Hyaluronic Acid สูง และควรดื่มน้ำให้เพียงพอ


มอยเจอร์ไรเซอร์ใช้ตอนไหน

หลังล้างหน้า

หลังจากทำความสะอาดผิวด้วยการล้างหน้า มอยส์เจอร์ไรเซอร์จะเป็นตัวช่วยในการฟื้นบำรุงเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว และจะยิ่งเห็นผลได้ดีขณะที่ผิวเปียกหมาดๆ เพราะน้ำที่อยู่บนผิวจะช่วนให้สารต่างๆซึมเข้าผิวได้ดีมากขึ้น

 

เช้าและเย็น

โดยทั่วไปแนะนำให้ทาวันละ 2 ครั้ง เพื่อให้ความชุ่มชื้นอย่างต่อเนื่อง

 

ก่อนการแต่งหน้า

มอยส์เจอร์ไรเซอร์ช่วยเตรียมผิวให้พร้อมสำหรับการแต่งหน้า โดยจะช่วยให้ผิวสดชื่นและชุ่มชื้นขึ้น ทำให้เครื่องสำอางที่ใช้หลังจากนั้นเกาะติดผิวได้ดีขึ้น

 

ในช่วงเวลาที่ผิวแห้ง

เมื่อเรารู้สึกว่าผิวหน้ามีความแห้งและขาดความชุ่มชื้น เราสามารถที่จะใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์เพื่อช่วยเติมความชุ่มชื่นให้ผิวได้

 

ในสภาวะอากาศแห้ง

หากคุณอยู่ในสภาวะที่มีอากาศแห้ง อย่างการอยู่ในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศหรือในช่วงฤดูหนาว มอยส์เจอร์ไรเซอร์จะเป็นตัวช่วยเสริมความชุ่มชื้นและป้องกันไม่ให้ผิวแห้ง ลอกเป็นขุย

มอยเจอร์ไรเซอร์ ผิวมัน เป็นสิว
Pro ACNE A.I. MATT FLUID

5 มอยเจอร์ไรเซอร์ ที่เหมาะกับสภาพผิวและดีกับปัญหาผิวของคุณ

1. Pro ACNE A.I. MATT FLUID มอยเจอร์ไรเซอร์สำหรับผิวมันเป็นสิวง่าย

คนที่มีปัญหาผิวมัน เป็นสิวง่าย มักเกิดจากผลข้างเคียงจากการใช้ยารักษาสิวหรือครีมรักษาสิว ทำให้ผิวบริเวณที่เป็นสิวมีปัญหาผิวแห้ง ลอกเป็นขุยจากการระคายเคือง มอยเจอร์ไรเซอร์สำหรับคนเป็นสิว หรือผิวมันจึงควรเน้นในรูปแบบที่มีเนื้อครีมบางเบา หรือเนื้อครีมประเภท dry-touch ที่แห้งเร็ว ซึมเข้าสู่ผิวง่าย ที่นอกจากจะช่วยเติมความชุ่มชื้นอย่างพอดี ยังไม่ทิ้งความมันตกค้าง นอกจากนี้ยังควรมีส่วนผสมของสารสำคัญที่ช่วยในการปลอบประโลมผิวที่ถูกทำร้ายจากการเกิดสิว หรือรอยสิว เช่น Salicylic Acid ที่ช่วยป้องกันการอุดตันของรูขุมขนและยับยั้งเชื้อแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของการเกิดสิว

เนื้อสัมผัส : เนื้อครีม

จุดเด่น : ครีมเนื้อบางเบา คุมสิว คุมมัน เติมความชุ่มชื้น

เหมาะสำหรับ : ผิวมัน เป็นสิว



มอยเจอร์ไรเซอร์ ผิวแห้ง
UltraSENSITIVE AQUAporin CREAM

2. UltraSENSITIVE AQUAporin CREAM มอยเจอร์ไรเซอร์สำหรับผิวแห้ง ขาดน้ำ

คนที่มีปัญหาผิวแห้งเกิดจากการที่ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นจนผิวสูญเสียความสมดุล คนที่มีผิวลักษณะนี้จึงควรเลือก มอยเจอร์ไรเซอร์ประเภทเนื้อครีม ที่อาจจะมีความเข้มข้นมากกว่ามอยเจอร์ไรเซอร์ของผิวประเภทอื่นเล็กน้อยในการคงความชุ่มชื้นบนผิวหน้า ช่วยในการกักเก็บและป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้าได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ควรมีสารสำคัญในการช่วยฟื้นบำรุงผิวหน้าที่เสียสมดุลให้กลับมาแข็งแรงขึ้น เช่น Glyceryl Glucoside ที่เมื่อใช้ร่วมกับ Glucerin จะช่วยกระตุ้นการสร้างโมเลกุล Aquaporin-3 ที่ช่วยให้การส่งผ่านของน้ำเข้าสู่ผิวและการกักเก็บน้่ำในผิวได้ดีขึ้น ทำให้ผิวชุ่มชื้น สุขภาพดี

เนื้อสัมผัส : เนื้อครีม

จุดเด่น : เข้มข้น กักเก็บความชุ่มชื้นยาวนาน 24 ชั่วโมง ปรับสมดุลผิวหน้า

เหมาะสำหรับ : ผิวแห้ง



มอยเจอร์ไรเซอร์ รักษา ฝ้า กระ ลดจุดด่างดำ
SPOTLESS BRIGHTENING

3. SPOTLESS BRIGHTENING มอยเจอร์ไรเซอร์สำหรับฝ้า กระ

แสงแดดและมลภาวะ นอกจากจะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดปัญหาฝ้า กระ แล้ว ยังทำให้ผิวของเราสูญเสียความชุ่มชื้นได้เช่นกัน หากสาวๆ กำลังเผชิญกับปัญหาผิวเหล่านี้ สามารถเลือกใช้ มอยเจอร์ไรเซอร์ ที่ผสมสารสำคัญในการลดปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำบนใบหน้า อย่าง Thiamidol ที่มีประสิทธิภาพในการลดฝ้า กระ จุดด่างดำ ได้ถึงต้นตอได้ดีกว่า 10 เท่าและลดโอกาสในการเกิดซ้ำเมื่อใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง และควรเลือกแบบเนื้อฟลูอิดบางเบา ซึมซาบง่าย เพื่อให้สามารถบำรุงผิว พร้อมเข้าจัดการปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด ให้ผิวกระจ่างใสขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ ขอแนะนำผลิตภัณฑ์ มอยเจอร์ไรเซอร์สำหรับฝ้า กระ Eucerin SPOTLESS BRIGHTENING BOOSTER SERUM เซรั่มเนื้อเข้มข้น บำรุงล้ำลึก เพื่อช่วยลดจุดด่างดำ ฝ้า กระ ได้ดียิ่งขึ้น ที่มีสารสำคัญอย่าง ไทอามิดอล THIAMIDOL™ สารไบรท์เทนนิ่งประสิทธิภาพดีที่สุดจากยูเซอริน ที่ช่วยตัดตอนรอยดำลึกถึงจุดกำเนิด ด้วยกลไกที่สำคัญที่สุด สำหรับลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำต่างๆ ฝ้าแดดหนาลึกดูลดเลือนได้มากถึง 75% และช่วยจบปัญหารอยดำและจุดด่างดำทุกประเภท ปรับให้ผิวดูกระจ่างใสไม่กลับมาเป็นซ้ำ ที่มาพร้อมกับ HYALURON ตัวช่วยฟื้นบำรุงสภาพผิว ที่มีโมเลกุลเล็กกว่า 40 เท่า จึงนำพาสารไทอามิดอลซึมซาบเข้าจัดการจุดด่างดำได้ลึกและตรงจุด และยังมีสาร ลิโคชาลโคน เอ สารแอนตี้ออกซิแดนท์ ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า Ascorbic Acid 1.5 เท่าและสูงกว่า Niacinamide ถึง 5 เท่า++ ที่ช่วยฟื้นบำรุงผิวจากการระคายเคือง และลดการเกิดรอยดำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เนื้อสัมผัส : เนื้อครีม

จุดเด่น : ปรับสีผิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ ให้ดีขึ้นได้ใน 2 สัปดาห์

เหมาะสำหรับ : ทุกสภาพผิว ผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้

 

4. Eucerin Hyaluron-Filler Epicelline Serum มอยเจอร์ไรเซอร์สำหรับริ้วรอยแรกเริ่ม

ริ้วรอยเป็นปัญหาผิวที่เกิดขึ้นทั่วไปเมื่ออายุเพิ่มขึ้นซึ่งเกิดจากกาลดลงของสารสำคัญใต้ชั้นผิว ส่งผลให้ผิวหนังขาดความยืดหยุ่น และยังทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้นได้ง่ายอีกด้วย มอยเจอร์ไรเซอร์ ที่เหมาะสมควรเป็นในรูปแบบเนื้อครีมเข้มข้นพิเศษเพื่อช่วยบำรุงผิวหน้า อย่างเซรั่มต่อต้านริ้วรอยใหม่ Eucerin Hyaluron-Filler Epicelline Serum ที่ช่วยป้องกันและลด 10 สัญญาณแห่งวัย ด้วยนวัตกรรม Age Clock Technology ที่ได้รับการจดสิทธิบัตร พร้อมด้วยสาร Epicelline® ที่เป็นสารทรงพลังใหม่ล่าสุดในการต่อต้านความร่วงโรยแห่งวัย ที่ค้นพบโดยทีมนักวิทยาศาสตร์ของ Eucerin หลังจากการวิจัยเกี่ยวกับ Epigenetics อย่างต่อเนื่องกว่า 15 ปี ช่วยชะลอความร่วงโรยของผิว ทั้งริ้วรอย หน้าเหี่ยว ผิวไม่กระชับ และผิวที่ดูแห้งไม่ชุ่มชื้น เสริมประสิทธิภาพด้วย Hyaluronic Acid ที่ช่วยเติมเต็มร่องลึกและเพิ่มความนุ่มชุ่มชื้นให้กับผิว และสาร Glycine Saponin ที่ช่วยกระตุ้นการผลิตไฮยาลูรอนิก คอลลาเจน และเพิ่มอีลาสตินของผิวหนัง พร้อมด้วยสาร Enoxolone ที่ช่วยลดการเสื่อมสลายของกรดไฮยาลูโรนิก ทำให้ผิวหน้ากระชับและดูอ่อนเยาว์กว่าอายุจริงภายใน 4 สัปดาห์

เนื้อสัมผัส : เนื้อครีม

จุดเด่น : ช่วยลดริ้วรอยแรกเริ่ม ชะลอความร่วงโรยของผิว ทั้งริ้วรอย หน้าเหี่ยว ผิวไม่กระชับ และผิวที่ดูแห้งไม่ชุ่มชื้น

เหมาะสำหรับ : ทุกสภาพผิว

มอยเจอร์ไรเซอร์สำหรับผิวแพ้ง่าย
UltraSENSITIVE REPAIR CREAM

5. UltraSENSITIVE REPAIR CREAM มอยเจอร์ไรเซอร์สำหรับผิวแพ้ง่าย

ผิวแพ้ง่ายไวต่อการระคายเคือง เนื่องจากเกราะปกป้องผิวอ่อนแอ การสูญเสียความชุ่มชื้นจะยิ่งทำให้ผิวหน้าของเราไวต่อการระคายเคืองได้ง่ายยิ่งขึ้น มอยเจอร์ไรเซอร์ ที่เหมาะสมสำหรับคนผิวแพ้ง่าย คือเนื้อครีมหรือเนื้อเจลที่ซึมไว เบาบางและไม่หนักผิวหน้า เหมาะแก่การใช้ทาเป็นประจำทุกวันอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยฟื้นบำรุงเกราะปกป้องผิวให้แข็งแรง และไม่ควรมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ น้ำหอม พาราเบน อีกทั้งต้องผ่านการทดสอบว่าไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการเลือกใช้งาน ขอแนะนำผลิตภัณฑ์ มอยเจอร์ไรเซอร์ สำหรับผิวแพ้ง่าย UltraSENSITIVE REPAIR CREAM ที่มี Barrier Repair Innovation นวัตกรรมฟื้นบำรุงเกราะปกป้องผิว ด้วย Symsitive และ Licochalcone A ที่ลดการระคายเคืองผิวและลดปัจจัยการถูกทำร้ายของผิว พร้อม Dexpanthenol ที่ฟื้นบำรุงและเสริมเกราะป้องกันผิว ให้ผิวเรียบเนียนใสและดูสุขภาพดี

เนื้อสัมผัส : เนื้อครีม

จุดเด่น : ปลอดภัยกับผิวแพ้ง่าย เสริมเกราะป้องกันผิว ลดการระคายเคือง

เหมาะสำหรับ : ผิวแพ้ง่าย




คำถามที่พบบ่อย (7)

  • มอยเจอร์ไรเซอร์ คืออะไร ?

    มอยเจอร์ไรเซอร์ คือครีมบำรุงผิวหน้าที่ช่วยเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิวหนัง ให้ยาวนานมากยิ่งขึ้น และช่วยฟื้นฟูผิวที่แห้งกลับมาชุ่มชื้นอีกครั้ง

  • มอยเจอร์ไรเซอร์ ใช้ตอนไหน

    โดยทั่วไปแล้ว มอยเจอร์ไรเซอร์สามารถใช้ได้ทั้งเช้าและเย็น แนะนำทามอยเจอร์ไรเซอร์หลังล้างหน้า จะสามารถซึมซับได้ดีที่สุด

  • ผิวมันจำเป็นต้องใช้มอยเจอร์ไรเซอร์หรือไม่?

    จำเป็น เพราะผิวมันก็ขาดความชุ่มชื้นได้ การขาดน้ำอาจกระตุ้นการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น ควรเลือกใช้มอยเจอร์ไรเซอร์เนื้อเจลหรือโลชั่นที่บางเบา ปราศจากน้ำมัน (Oil-Free) และไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน (Non-Comedogenic) เพื่อช่วยปรับสมดุลผิว

  • ควรทามอยเจอร์ไรเซอร์วันละกี่ครั้ง?

    โดยทั่วไปแนะนำวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น หลังล้างหน้า แต่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสภาพผิวและความต้องการ เช่น หากผิวแห้งมาก หรืออยู่ในสภาพอากาศแห้ง อาจทาเพิ่มระหว่างวันได้

  • มอยเจอร์ไรเซอร์แตกต่างจากเซรั่มอย่างไร?

    เซรั่มมักมีเนื้อบางเบากว่าและเน้นแก้ปัญหาผิวเฉพาะจุด เช่น ริ้วรอย จุดด่างดำ ส่วนมอยเจอร์ไรเซอร์เน้นการให้ความชุ่มชื้นและปกป้องผิวเป็นหลัก โดยทั่วไปจะลงเซรั่มก่อนแล้วตามด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์

  • ต้องทามอยเจอร์ไรเซอร์ก่อนหรือหลังกันแดด?

    ควรทามอยเจอร์ไรเซอร์ ก่อนครีมกันแดด รอให้มอยเจอร์ไรเซอร์ซึมเข้าสู่ผิวสักครู่ แล้วจึงทาครีมกันแดดเป็นขั้นตอนสุดท้ายในตอนเช้า (ก่อนแต่งหน้า)

  • ผิวขาดน้ำกับผิวแห้งต่างกันอย่างไร และเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์อย่างไร?

    • ผิวแห้ง (Dry Skin) คือ สภาพผิวที่ผลิตน้ำมันตามธรรมชาติน้อย ขาดไขมันที่จำเป็น ทำให้ผิวรู้สึกหยาบกร้าน ลอกเป็นขุยง่าย ควรเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์เนื้อครีมหรือบาล์มที่เน้น Emollients และ Occlusives สูงๆ
    • ผิวขาดน้ำ (Dehydrated Skin) คือ ภาวะที่ผิวขาด "น้ำ" เกิดได้กับทุกสภาพผิว (แม้แต่ผิวมัน) อาจมีอาการผิวดูหมองคล้ำ รู้สึกตึงๆ แต่ก็ยังผลิตน้ำมันได้ ควรเน้นมอยเจอร์ไรเซอร์ที่มี Humectants สูงๆ เช่น Hyaluronic Acid และเลือกเนื้อสัมผัสตามสภาพผิวพื้นฐาน

บทความเกี่ยวข้อง

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง