สิวที่หลัง เกิดจากอะไร รักษาสิวที่หลังยังไง ไม่ให้กลับมาเป็นอีก

อ่านแล้ว 1 นาที
แสดงบทความเพิ่มเติม
สิวที่หลัง

สิวที่หลัง เป็นปัญหากวนใจใครหลายคน หากไม่รักษาความสะอาดให้ดี สิวก็อาจขึ้นจนกลบความเนียนสวยของหลังเราไป หากทิ้งรอยสิวไว้อาจทำให้หมดความมั่นใจจะใส่ชุดโชว์ผิวสวยของเราได้ ถ้าหากเป็นสิวรุนแรงหรือจำนวนเยอะมาก ควรปรึกษาแพทย์จะดีที่สุด เพราะฉะนั้นลองมาเริ่มต้นดูแลรักษาสิวที่หลัง จากการทำความสะอาดร่างกายกันดีกว่า


สิวที่หลังเกิดจาก

สิวที่หลัง เกิดจากอะไร?

สิวที่หลัง เกิดจากแบคทีเรียและความมันของผิวจนเกิดการอุดตันเหมือนสิวบนใบหน้า หากเป็นในส่วนของสิวตามร่างกายนั้น มักจะเกิดได้หลายสาเหตุ โดยสาเหตุจะมาจากต่อมน้ำมันภายใต้รูขุมขน เรียกว่าซีบัม ผลิตออกมาเพื่อสร้างความชุ่มชื้น แต่หากน้ำมันและเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วไปอุดตันรูขุมขน จะทำให้เกิดสิวที่หลัง มีอาการแดง บวมหรือเป็นหนอง หรืออาจเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ เช่น

  • ความเครียด นอนน้อย ก่อให้เกิดสิวที่หลังได้
  • สิวที่หลังขึ้นช่วงฮอร์โมนเปลี่ยน เช่น มีประจำเดือน ช่วงวัยรุ่น
  • สิวที่หลังที่มาจากผลข้างเคียงจากการกินยาบางชนิด
  • รับประทานอาหารไขมันสูง รสหวานจัดบ่อยๆจนเกิดเป็นสิวที่หลัง
  • สิวที่หลังเกิดจากสวมใส่เสื้อผ้าที่ไม่ระบายเหงื่อ จนอับชื้นหมักหมม
  • พันธุกรรมและการแพ้สกินแคร์บางชนิดก็เป็นสาเหตุนึงของสิวที่หลัง

ประเภทและชนิดของสิวที่หลัง

สำหรับสิวที่หลังนั้น มีหลายชนิดเหมือนสิวบนใบหน้า ถ้าทราบชนิดของสิวที่เป็นอยู่ จะช่วยให้รักษาได้อย่างเหมาะสม ชนิดของสิวที่หลัง มีดังต่อไปนี้

 

สิวอุดตันหรือสิวหัวขาว

เกิดจากหัวสิวที่อุดตันอยู่ในรูขุมขนภายใต้ผิวหนัง

 

สิวหัวดำ

เกิดจากการอุดตันรูขุมขนที่เปิดอยู่บริเวณผิวหนัง จากปฏิกิริยาของไขมันและอากาศ

 

สิวอักเสบ

แบบตุ่มนูนแดง เกิดจากการอักเสบของสิวอุดตัน ไม่ควรบีบเพราะอาจติดเชื้อและทิ้งรอยแผล

 

สิวอักเสบแบบหัวหนอง

หากบีบหรือแกะ อาจทำให้เป็นจุดด่างดำหรือแผลเป็นได้

 

สิวอักเสบแดงแบบก้อนลึก

อยู่ภายใต้ผิวหนัง มีขนาดใหญ่ แข็ง อักเสบ และอาจมีอาการเจ็บได้

 

สิวหัวช้างหรือสิวซีสต์

เป็นหนองมีขนาดใหญ่ ถือเป็นสิวระดับรุนแรงและมีอาการเจ็บปวด

วิธีรักษาสิวที่หลัง

วิธีรักษาสิวที่หลัง

จะเห็นได้ว่า สาเหตุของการเกิดสิวที่หลัง โดยรวมแล้วมาจากปัจจัยภายในอย่างฮอร์โมนที่เกิดขึ้นในร่างกาย และปัจจัยภายนอกในเรื่องอาหารการกินและการรักษาความสะอาด สำหรับวิธีการรักษาสิวที่หลัง มีมากมาย ทั้งแบบธรรมชาติทำได้ด้วยตัวเองและการพบแพทย์ด้านผิวหนังเฉพาะทาง

 

1. รักษาด้วยใช้ยาทา สิวที่หลัง

  • ยาในกลุ่มอนุพันธ์วิตามินเอ (Retinoids) เป็นยาที่มีประสิทธิภาพในการรักษาสิว โดยจะช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวหนัง ลดสิวอุดตันและลดการอักเสบ สามารถใช้ร่วมกับการรักษาสิวทุกระยะ และใช้ทาป้องกันการเกิดสิวอุดตันได้ด้วย มีผลข้างเคียงทำให้ผิวลอก คัน แดง
  • Benzoyl peroxide เป็นยาที่มีประสิทธิภาพในการรักษาสิวที่หลัง ซึ่งช่วยลดแบคทีเรียบนผิวหนังและลดการอักเสบของสิว โดยปกติแล้ว ส่วนผสมของยานี้จะมีค่าเป็นออกซิเดชั่นต่ำทำให้เป็นยาที่สามารถซึมผ่านเข้าสู่ผิวหนังได้ดี แต่สำหรับผิวที่แพ้ง่าย ควรทดลองใช้เป็นเวลาสั้นๆ เพื่อป้องกันการเกิดผลข้างเคียงได้แก่ ผิวแห้ง ผิวแตก ในกรณีที่ใช้ยาแล้วเกิดผลข้างเคียงหรืออาการแพ้ผิว ควรหยุดใช้ทันทีและปรึกษาแพทย์เพื่อคำแนะนำในการรักษา

 

2. ฉีดยา รักษาสิวที่หลัง

การฉีดยารักษาสิวที่หลังเป็นวิธีการรักษาสิวที่อุดตันและมีขนาดใหญ่ ยาที่ใช้ฉีดรักษาสิวที่หลัง จะเป็นยาที่มีความเข้มข้นสูง ส่วนใหญ่จะเป็นสารที่ช่วยลดการอักเสบของสิวและลดการอุดตันของเม็ดสิว แต่มีความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง เช่น การแพ้ยาหรือการอักเสบ การฉีดยารักษาสิวที่หลังจะต้องพบแพทย์ผิวหนังเพื่อประเมินความเหมาะสมและคำแนะนำวิธีการรักษา

 

3. เลเซอร์ รักษาสิวที่หลัง

การทำเลเซอร์ รักษาสิวอุดตัน เป็นวิธีการรักษาสิวที่เห็นผลไว และสามารถแก้ปัญหาสิวอุดตันได้ดี โดยการเลเซอร์สิวอุดตันจะทำคล้ายใช้เข็มเจาะแต่ใช้พลังงานแสงในการเจาะแทน โดยเฉพาะจุดที่เป็นสิวอุดตัน แต่อาจมีผลทำให้ผิวบางลง และไวต่อแสง ควรอยู่ในการดูแลของแพทย์ผิวหนังอย่างใกล้ชิด

 

4. การฉีดเมโสที่หลัง (Mesotheraphy)

การฉีดเมโสที่หลังเป็นกระบวนการที่ใช้สารสกัดจากพืชและวิตามินต่างๆ เข้าสู่ผิวหนังผ่านทางการฉีดเข้าไปในชั้นผิวหนัง เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ลดผด ผื่น ลดการทำงานของต่อมไขมัน และทำให้ผิวหนังดูกระจ่างใสยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ผลการฉีดอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสารที่ใช้ฉีดและสภาพผิวหนังของแต่ละบุคคล ดังนั้นควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลผิวหน้าก่อนที่จะตัดสินใจฉีดเมโสที่หลังหรือวิตามินผิว

วิธีป้องกันสิวที่หลัง

วิธีป้องกันสิวที่หลังที่ดีที่สุดคือการลดความเสี่ยงในการเกิดสิว

 

1.รักษาสิวที่หลังด้วยการปรับเปลี่ยนวิธีการรับประทานอาหาร

ไม่รับประทานที่มีไขมันสูง หรือหวานจัด และเลือกใช้ผลิตภัณต์อาบน้ำ รวมถึงโลชั่นบำรุงผิวที่อ่อนโยน

 

2. หากมีการออกกำลังกายหรือมีเหงื่อไคล

หลังจากออกกำลังกายควรรีบอาบน้ำ เพื่อลดการหมักหมมของแบคทีเรีย และเลือกใช้เสื้อผ้าที่สามารถระบายอากาศได้ดี เพื่อลดความอับชื่นจากเหงื่อในระหว่างวัน และลดสาเหตุของสิวที่หลัง

 

3. มาสก์ผิว

รักษาสิวที่หลัง ด้วยการทำมาสก์ผิวจากส่วนผสมธรรมชาติ การโกนหรือแว็กซ์ขนหลัง เพื่อลดการอุดตันของผิว

 

4. การเลือกใช้โทนเนอร์เช็ดหลังอาบน้ำ

โดยนำสำลีเช็ดบริเวณที่เป็นสิวที่หลัง และใช้ยารักษาสิวที่หลังชนิดทา โดยแต้มในบริเวณหัวสิวอย่างสม่ำเสมอ

 

5. การใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับรักษาสิวที่หลัง

เช่น แป้งน้ำ ซึ่งค่อนข้างปลอดภัยและใช้ได้ต่อเนื่องเพื่อให้สิวที่หลังแห้งและหลุดไปเอง

 

6. การรับประทานยารักษาสิวที่หลัง

ในกรณีควรใช้กับปัญหาสิวที่ค่อนข้างรุนแรง ต้องได้รับคำปรึกษาจากแพทย์ผิวหนัง หรือเภสัชกรก่อนทุกครั้ง

แนะนำ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่ช่วยลดสิวที่หลัง

ครีมอาบน้ำรักษาสิวที่หลัง

1. pH5 WASHLOTION Sensitive Skin ครีมอาบน้ำสำหรับผิวปกติ-แห้งน้อย

ครีมอาบน้ำสำหรับฟื้นบำรุงเกราะปกป้องผิวให้แข็งแรง แม้เป็นสิวหลังก็ใช้ได้ ด้วย pH5 Enzyme Protection เสริมเกราะปกป้องผิวจากธรรมชาติผสานซิเตรตบัฟเฟอร์ เข้าฟื้นบำรุงและเสริมการทำงานของเอนไซม์ในผิว ให้ผิวกลับรู้สึกแข็งแรงขึ้น เพิ่มความชุ่มชื้นป้องกันผิวแห้งเสีย ใช้เป็นประจำทุกวัน หรือสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ช่วยให้สิวที่หลังลดน้อยลง เหมาะสำหรับผู้ที่ผิวแห้งและแพ้ง่าย


สบู่อาบน้ำรักษาสิวที่หลังสำหรับผิวแห้งมาก

2. pH5 SHOWER OIL Sensitive skin ครีมอาบน้ำผสมน้ำมันสำหรับผิวแห้งปานกลาง-แห้งมาก

สำหรับสูตรนี้จะเป็นสบู่เหลวที่ผสมน้ำมันบำรุงผิวจากธรรมชาติ ช่วยเติมไขมันที่จำเป็นให้กับผิว มี pH5 Enzyme Protection ช่วยเสริมเกราะปกป้องผิวจากธรรมชาติ  และยังมี pH Balance System เพิ่มความชุ่มชื้น เสริมเกราะป้องกันและปรับสมดุล pH ให้ผิวอย่างอ่อนโยน ช่วยรักษาอาการ ผิวแห้งลอกจากการรักษาสิวที่หลัง สามารถทำความสะอาดผิวกายได้อย่างล้ำลึก ไม่เหนียวเหนอะหนะ ผิวไม่แห้งตึงภายหลังการอาบน้ำ ลดอาการผิวไม่แห้งกร้าน  ทำให้ผิวกายกลับมาเนียนนุ่มดังเดิม


การรักษาสิวที่หลังนั้น ควรรักษาสิวที่หลังอย่างค่อยเป็นค่อยไป ปรับพฤติกรรมและปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสม อย่างใจเย็นและทำเป็นกิจวัตรอย่างมีวินัย เพราะสิวที่หลังสามารถกลับมาเป็นใหม่ได้เสมอ บางคนไม่เคยเป็นก็มีโอกาสเป็นได้เพราะฉะนั้นอย่าลืมหันมาใส่ใจในการดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่องกันด้วยนะ


คำถามที่พบได้บ่อย เกี่ยวกับสิวที่หลัง

สิวที่หลัง สามารถกด หรือบีบได้ไหม

การกดสิวที่หลัง สาามารถกดได้ และควรศึกษาการกดสิวที่ถูกต้องและปลอดภัยก่อนตัดสินใจกด เพราะการกดสิวที่หลัง จะไม่แนะนำให้กดเองเพราะอยู่ในมุมที่กดได้ยาก และสามารถทำให้สิวที่หลังเกิดการอักเสบที่รุนแรงขึ้น และเสี่ยงต่อการติดเชื้อ เป็นรอยหลุมสิว หรือเป็นแผลเป็นได้

 

รักษาสิวที่หลัง กี่วันหาย

ระยะเวลาในการรักษาสิวที่หลังขึ้นอยู่กับความรุนแรงของสิว และขึ้นอยู่กับวิธีการรักษา โดยปกติแล้วการรักษาสิวจะใช้เวลาประมาณ 4-8 สัปดาห์ แต่ในกรณีที่สิวที่หลัง เป็นอุดตัน หรือสิวหัวช้างรุนแรงอาจต้องรักษาต่อเนื่องนานเป็นปี

 

รอยดำ รอยสิวที่หลังรักษาได้ไหม

รอยดำ รอยสิวที่หลัง สามารถรักษาหายได้หายได้และขึ้นอยู่กับวิธีการรักษา ถ้าเป็นรอยดำ รอยสิวที่เล็กน้อยและไม่ลึกเกินไปในผิวหนัง อาจจะใช้เวลาตั้งแต่หนึ่งสัปดาห์หรือเป็นเดือน แต่ในบางกรณี ก็ขึ้นอยู่กับความเสียหายของผิวหนัง และการฟื้นฟูสภาพผิวหนัง การใช้วิธีรักษาที่เหมาะสมจะช่วยให้รอยสิวหายได้เร็วขึ้น ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง