
หน้าไหม้แดด ผิวไหม้แดด หรือปัญหาผิวคล้ำเสียจากแดด เป็นอีกหนึ่งปัญหาผิวที่พบได้บ่อย และยากที่จะหลีกเลี่ยงได้ ด้วยสภาพแวดล้อมและแสงแดดที่แรงจัด ส่งผลให้ผู้ที่ต้องเผชิญกับแสงแดดเป็นระยะเวลานานเกิด ปัญหาหน้าไหม้แดด หรือผิวคล้ำเสียสะสมขึ้น หากแต่เมื่อเกิดปัญหาหน้าไหม้แดดขึ้นแล้วเราจะมีวิธีการดูแลและฟื้นบำรุงรักษาผิวไหม้แดดในขั้นต้นด้วยตัวเองง่ายๆ ที่บ้านได้อย่างไรบ้าง
ปัญหาหน้าไหม้แดด ผิวไหม้แดด เกิดจากอะไร ?
ปัญหาผิวหน้าไหม้แดด สาเหตุเกิดจากการที่ผิวหนังต้องเผชิญกับแสงแดดจัดเป็นระยะเวลานานเกิน 15 นาที โดยไม่ได้รับการปกป้อง หรือตากแดดเป็นเวลายาวนานโดยไม่ทาครีมกันแดดซ้ำ ส่งผลให้เกิดอาการแสบร้อน คัน แดงที่ผิวหนัง มีอาการระคายเคือง เกิดเป็นตุ่มใส และสำหรับผิวหน้า การโดนแดดเป็นระยะเวลานานจะทำให้ผิวเกิดการหมองคล้ำอย่างเห็นได้ชัด และถ้าโดนแดดเป็นสะสมเป็นระยะเวลานาน ก็อาจจะกลายเป็นฝ้าแดดได้ โดยเราสามารถแบ่งระดับความรุนแรงของอาการผิวไหม้แดดได้ 3 ระดับ คือ

- ผิวไหม้แดดระดับแรก : ผิวยังปกติแต่มีความแดงเกิดขึ้น และเจ็บปวดเล็กน้อย ผ่านไป 3-5 วัน จะมีปัญหาผิวลอกเนื่องจากการผลัดของเซลล์ผิวหนัง ก่อนอาการจะดีขึ้นตามลำดับ
- ผิวไหม้แดดระดับสอง : จะมีอาการแสบคัน ผิวแดง บวม และรู้สึกเจ็บปวดเมื่อสัมผัสผิวบริเวณที่เกิดการไหม้แดด อาจต้องใช้ระยะเวลา 5-7 วัน ในการเฝ้าระวังและฟื้นบำรุงเพื่อให้ผิวกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง
- ผิวไหม้แดดระดับสาม : มีอาการปวดแสบปวดร้อนที่ผิวหนังมากกว่าปกติ มีอาการแดง คัน และมีตุ่มน้ำใสๆ เกิดขึ้น ควรพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอคำแนะนำและแนวทางการดูแลรักษาผิวไหม้แดดอย่างถูกวิธี อาจใช้เวลามากกว่า 2 สัปดาห์ ในการฟื้นบำรุงผิวไหม้แดดและหมองคล้ำ

5 วิธีดูแลรักษาผิวไหม้แดดและฟื้นบำรุง แก้ปัญหาหน้าไหม้แดด
ในเบื้องต้นของการดูแลรักษาผิวไหม้แดด รักษาปัญหาหน้าน้าไหม้แดด และผิวไหม้แดด คือ
1.การให้ผิวผ่านน้ำเย็น
การให้ผิวผ่านน้ำเย็นหรือหาผ้าชุบน้ำเย็นประคบเพื่อดูอาการก่อน ความเย็นจะช่วยลดอาการอักเสบและแสบร้อนบริเวณผิวไหม้แดดให้ลดลง แต่ควรระมัดระวังไม่ให้น้ำเย็นจัดจนเป็นการกัดผิวแทน เมื่อประเมินอาการผิวไหม้แดดและหน้าไหม้แดด หากพบว่ามีความรุนแรงในระดับแรก สามารถดูแลและฟื้นบำรุงผิวด้วยวิธีต่างๆได้ด้วยตนเอง

2. ใช้สกินแคร์บำรุงผิวที่ให้ความชุ่มชื้น
ปัญหาหน้าไหม้แดด แห้งลอก และอาการผิวไหม้แดดแสบร้อนเล็กน้อยที่ผิว สามารถฟื้นบำรุงได้ด้วยการใช้สกินแคร์หรือผลิตภัณฑ์เพื่อช่วยเติมความชุ่มชื้นกลับคืนสู่ผิว เช่น Eucerin UltraSENSITIVE REPAIR CREAM ครีมบำรุงหน้า ผิวแพ้ง่าย ฟื้นบำรุงให้ผิวดูแข็งแรงไม่ไวต่อการระคายเคือง ดูแลปัญหาผิวแห้งแดง ระคาย จากการไหม้ อาการแพ้ เป็นเม็ดเล็กๆ ด้วยสูตรครีมบำรุงความชุ่มชื้นแบบเข้มข้น เบาสบายผิวไม่เหนอะหนะและไม่อุดตันผิว เหมาะกับผิวธรรมดาถึงผิวแห้ง และยังมี Aquaphor Soothing Skin Balm ช่วยลดอาการแสบร้อนบนผิวหน้าและผิวกาย แก้ปัญหาหน้าไหม้แดด ผิวลอก สร้างเกราะปกป้องผิวด้วยคุณสมบัติแบบ Semi-occlusive ลดการสูญเสียน้ำออกจากผิว แต่ช่วยให้ออกซิเจนผ่านผิวได้ เพื่อให้เกิดการฟื้นบำรุงผิวตามธรรมชาติ อีกทั้งยังมีกลีเซอรินที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และแพนทีนอลช่วยเสริมกระบวนการสร้างผิวใหม่ให้ผิวนุ่มและเรียบเนียน โดยแนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ภายหลังการอาบน้ำไม่เกิน 5 นาทีจะช่วยเก็บความชุ่มชื้นได้เป็นอย่างดี
3. ไม่ลอก แกะ เกา
หน้าไหม้แดด ผิวไหม้แดด บริเวณผิวหนังจะมีการลอกเนื่องจากเซลล์ผิวหนังมีการผลัดตัว จึงควรหลีกเลี่ยงการแกะ เกา หรือสัมผัสผิวหนังบริเวณนั้น โดยเฉพาะบริเวณผิวหน้า เนื่องจากมีความเปราะบางและไวต่อการระคายเคืองในกรณีที่เกิดเป็นตุ่มใสตามร่างกายหรือผิวหน้า ซึ่งจะทำให้เกิดอาการคันที่ผิวหนัง แต่ไม่ควรเกาหรือเจาะตุ่มน้ำออก เนื่องจากอาจเพิ่มระดับความรุนแรงของปัญหาได้ ควรปล่อยให้ตุ่มยุบหรือแตกเองตามธรรมชาติ หรือปรึกษาแพทย์หากมีอาการที่รุนแรง

4.ทาครีมกันแดดสม่ำเสมอ
แม้ว่าปัญหาผิวไหม้แดดจะเป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นภายหลังการเผชิญแสงแดด แต่หากมีการปกป้องผิวตั้งแต่ต้นก็จะช่วยปกป้องผิวได้ดียิ่งขึ้น ครีมกันแดดถือเป็นสกินแคร์ที่ควรทาเป็นประจำแม้ไม่ต้องเจอแสงแดดก็ตาม และควรเลือกใช้ครีมกันแดดให้เหมาะสมกับกิจกรรมที่ต้องทำในวันนั้นๆ การเลือกครีมกันแดดที่เหมาะกับสภาพผิวจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากแสงแดดได้ดีมากยิ่งขึ้น และป้องกันปัญหาหน้าไหม้แดด ผิวไหม้แดดก่อนที่จะเกิดขึ้นได้
5.ดื่มน้ำให้เพียงพอ
การดื่มน้ำให้เพียงพอ ช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูอาการหน้าไหม้แดดและผิวไหม้แดดได้ดียิ่งขึ้น เพราะผิวหนังของเราสูญเสียน้ำไปมากจากการโดนแดดเป็นระยะเวลานาน และร่างกายต้องการน้ำไปช่วยในการฟื้นฟูเซลล์ผิวที่ขาดน้ำ และควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพราะจะทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำมากขึ้น
6.ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยฟื้นฟูผิวไหม้แดด
หลังจากที่ผิวหน้าโดนแดดมาแล้วทั้งวัน อาจจะเกิดอาการหน้าไหม้แดด ทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำมากขึ้น ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในการฟื้นฟูผิวหน้าไหม้แดด หมองคล้ำ ให้กลับมาเหมือนเดิม เช่น Eucerin Even Radiance Duo Ampoules เซรั่มแอมพูลจากยูเซอริน 2 Step
- Step ที่ 1 ช่วยจัดการเซลล์ผิวหมองคล้ำสะสมที่ต้นตอ ด้วยพลังไบรท์เทนนิ่ง 3 เท่า Niacinamide, Licorice Extract และ Vit E และเสริมพลังฟื้นฟูด้วย
- Step ที่ 2 ที่ช่วยบูสผิวโกลว์ใส ด้วย 7 สารทรงพลัง
- Illumiscin สารแอนตี้ออกซิแดนส์ทรงพลัง ช่วยลดโอกาสการเกิดจุดด่างดำ
- Niacinamide ลดเลือนความหมองคล้ำ
- Vitamin C ลดจุดดำด่างดำ ช่วยให้ผิวดูสม่ำเสมอ
- Vitamin E เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ผิวดูกระจ่างใส
- Glyceryl Glucoside Hydro Boost เพิ่มการส่งผ่านน้ำในเซลล์ผิว ผิวชุ่มชื้นฉ่ำวาว
- Penthenol ช่วยคงสมดุลสภาพแวดล้อมในเซลล์ผิวให้ผิวชุ่มชื้นยาวนาน
- Zinc PCA ช่วยลดความมัน

การป้องกันหน้าไหม้แดดและผิวไหม้แดด
เพื่อป้องกันไม่ให้หน้าและผิวตัวของเราโดนทำร้ายจนกลายเป็นผิวไหม้แดด เราจึงควรปกป้องผิวก่อนไปเที่ยวหรือไปยังสถานที่ที่มีแดดจัด โดยการ
- ทาครีมกันแดด ควรทาครีมกันแดดที่มี SPF ตั้งแต่ 30 และ PA++ เป็นต้นไปทั้งผิวหน้าและตามตัว และควรทาครีมก่อนที่จะไปยังสถานที่ที่มีแดดจัดอย่างน้อย 30 นาที และถ้าเราอยู่ท่ามกลางแดดเป็นเวลานาน ควรทาครีมกันแดดซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง เพื่อรักษาประสิทธิภาพในการป้องกันแดดเอาไว้
- สวมเครื่องแต่งกายที่ปกปิดผิว เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายต่างๆ เช่น หมวก และแว่นตา เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว นอกจากช่วยป้องกันแสง UV ที่จะมาทำร้ายผิวหนังเราแล้ว ยังช่วยลดการสูญเสียน้ำที่เกิดจากการถูกแดดเผาโดยตรงอีกด้วย
- หลีกเลี่ยงแดดที่รุนแรง ช่วงเวลากลางวันหรือยามบ่าย มักจะเป็นช่วงที่แสงแดดรุนแรงมาก หากหลีกเลี่ยงได้ก็ควรหลีกเลี่ยง แต่ถ้าจำเป็นต้องออกไปเผชิญกับแดดจริงๆ ควรสวมเครื่องแต่งกายป้องกันและทาครีมกันแดดปกป้องเผื่อไว้ดีกว่า
การดูแลเพื่อฟื้นบำรุงผิวไหม้แดดและหน้าไหม้แดดจำเป็นต้องอาศัยระยะเวลาในการดูแลรักษา และความสม่ำเสมอในการทาครีมบำรุงผิวเพิ่มความชุ่มชื้น ฟื้นบำรุงให้ผิวกลับมาแข็งแรงได้อีกครั้ง ในระหว่างที่พักบำรุงผิวการเลือกใส่เสื้อผ้าที่ปิดมิดชิดเมื่อต้องเผชิญกับแสงแดดเป็นระยะเวลานาน หรือมีอุปกรณ์เสริม เช่น หมวกหรือร่มในการช่วยป้องกันแสงแดดเมื่อต้องออกจากบ้าน ก็เป็นอีกหนึ่งหนทางในการช่วยปกป้องผิว สิ่งสำคัญคือควรทาครีมกันแดดเป็นประจำหรือทุกครั้งเมื่อออกจากบ้าน เพื่อช่วยปกป้องผิวยามเมื่อต้องเจอกับแสงแดด เพียงแค่นี้คุณก็สามารถสนุกได้กับทุกกิจกรรม ไม่ต้องกลัวผิวเสีย