หน้าไหม้แดด แก้ปัญหาผิวไหม้แดด อย่างไรให้ผิวไหม้แดดกลับมาสุขภาพดี

อ่านแล้ว 2 นาที
แสดงบทความเพิ่มเติม
หน้าไหม้แดด

หน้าไหม้แดด ผิวไหม้แดด หรือปัญหาผิวคล้ำเสียจากแดด เป็นอีกหนึ่งปัญหาผิวที่พบได้บ่อย และยากที่จะหลีกเลี่ยงได้ ด้วยสภาพแวดล้อมและแสงแดดที่แรงจัด ส่งผลให้ผู้ที่ต้องเผชิญกับแสงแดดเป็นระยะเวลานานเกิด ปัญหาหน้าไหม้แดด หรือผิวคล้ำเสียสะสมขึ้น หากแต่เมื่อเกิดปัญหาหน้าไหม้แดดขึ้นแล้วเราจะมีวิธีการดูแลและฟื้นบำรุงรักษาผิวไหม้แดดในขั้นต้นด้วยตัวเองง่ายๆ ที่บ้านได้อย่างไรบ้าง


ปัญหาหน้าไหม้แดด ผิวไหม้แดด เกิดจากอะไร ?

ปัญหาผิวหน้าไหม้แดด สาเหตุเกิดจากการที่ผิวหนังต้องเผชิญกับแสงแดดจัดเป็นระยะเวลานานเกิน 15 นาที โดยไม่ได้รับการปกป้อง หรือตากแดดเป็นเวลายาวนานโดยไม่ทาครีมกันแดดซ้ำ ส่งผลให้เกิดอาการแสบร้อน คัน แดงที่ผิวหนัง มีอาการระคายเคือง เกิดเป็นตุ่มใส และสำหรับผิวหน้า การโดนแดดเป็นระยะเวลานานจะทำให้ผิวเกิดการหมองคล้ำอย่างเห็นได้ชัด และถ้าโดนแดดเป็นสะสมเป็นระยะเวลานาน ก็อาจจะกลายเป็นฝ้าแดดได้ โดยเราสามารถแบ่งระดับความรุนแรงของอาการผิวไหม้แดดได้ 3 ระดับ คือ


ผิวแดงจากแดด

  • ผิวไหม้แดดระดับแรก : ผิวยังปกติแต่มีความแดงเกิดขึ้น และเจ็บปวดเล็กน้อย ผ่านไป 3-5 วัน จะมีปัญหาผิวลอกเนื่องจากการผลัดของเซลล์ผิวหนัง ก่อนอาการจะดีขึ้นตามลำดับ
  • ผิวไหม้แดดระดับสอง : จะมีอาการแสบคัน ผิวแดง บวม และรู้สึกเจ็บปวดเมื่อสัมผัสผิวบริเวณที่เกิดการไหม้แดด อาจต้องใช้ระยะเวลา 5-7 วัน ในการเฝ้าระวังและฟื้นบำรุงเพื่อให้ผิวกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง
  • ผิวไหม้แดดระดับสาม : มีอาการปวดแสบปวดร้อนที่ผิวหนังมากกว่าปกติ มีอาการแดง คัน และมีตุ่มน้ำใสๆ เกิดขึ้น ควรพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอคำแนะนำและแนวทางการดูแลรักษาผิวไหม้แดดอย่างถูกวิธี อาจใช้เวลามากกว่า 2 สัปดาห์ ในการฟื้นบำรุงผิวไหม้แดดและหมองคล้ำ

ผิวลอกจากแดด

5 วิธีดูแลรักษาผิวไหม้แดดและฟื้นบำรุง แก้ปัญหาหน้าไหม้แดด

ในเบื้องต้นของการดูแลรักษาผิวไหม้แดด รักษาปัญหาหน้าน้าไหม้แดด และผิวไหม้แดด คือ

 

1.การให้ผิวผ่านน้ำเย็น

การให้ผิวผ่านน้ำเย็นหรือหาผ้าชุบน้ำเย็นประคบเพื่อดูอาการก่อน ความเย็นจะช่วยลดอาการอักเสบและแสบร้อนบริเวณผิวไหม้แดดให้ลดลง แต่ควรระมัดระวังไม่ให้น้ำเย็นจัดจนเป็นการกัดผิวแทน เมื่อประเมินอาการผิวไหม้แดดและหน้าไหม้แดด หากพบว่ามีความรุนแรงในระดับแรก สามารถดูแลและฟื้นบำรุงผิวด้วยวิธีต่างๆได้ด้วยตนเอง


ครักรักษาหน้าไหม้แดด

2. ใช้สกินแคร์บำรุงผิวที่ให้ความชุ่มชื้น

ปัญหาหน้าไหม้แดด แห้งลอก และอาการผิวไหม้แดดแสบร้อนเล็กน้อยที่ผิว สามารถฟื้นบำรุงได้ด้วยการใช้สกินแคร์หรือผลิตภัณฑ์เพื่อช่วยเติมความชุ่มชื้นกลับคืนสู่ผิว เช่น Eucerin UltraSENSITIVE REPAIR CREAM ครีมบำรุงหน้า ผิวแพ้ง่าย ฟื้นบำรุงให้ผิวดูแข็งแรงไม่ไวต่อการระคายเคือง ดูแลปัญหาผิวแห้งแดง ระคาย จากการไหม้ อาการแพ้ เป็นเม็ดเล็กๆ ด้วยสูตรครีมบำรุงความชุ่มชื้นแบบเข้มข้น เบาสบายผิวไม่เหนอะหนะและไม่อุดตันผิว เหมาะกับผิวธรรมดาถึงผิวแห้ง และยังมี Aquaphor Soothing Skin Balm ช่วยลดอาการแสบร้อนบนผิวหน้าและผิวกาย แก้ปัญหาหน้าไหม้แดด ผิวลอก สร้างเกราะปกป้องผิวด้วยคุณสมบัติแบบ Semi-occlusive ลดการสูญเสียน้ำออกจากผิว แต่ช่วยให้ออกซิเจนผ่านผิวได้ เพื่อให้เกิดการฟื้นบำรุงผิวตามธรรมชาติ อีกทั้งยังมีกลีเซอรินที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และแพนทีนอลช่วยเสริมกระบวนการสร้างผิวใหม่ให้ผิวนุ่มและเรียบเนียน โดยแนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ภายหลังการอาบน้ำไม่เกิน 5 นาทีจะช่วยเก็บความชุ่มชื้นได้เป็นอย่างดี

 

3. ไม่ลอก แกะ เกา

หน้าไหม้แดด ผิวไหม้แดด บริเวณผิวหนังจะมีการลอกเนื่องจากเซลล์ผิวหนังมีการผลัดตัว จึงควรหลีกเลี่ยงการแกะ เกา หรือสัมผัสผิวหนังบริเวณนั้น โดยเฉพาะบริเวณผิวหน้า เนื่องจากมีความเปราะบางและไวต่อการระคายเคืองในกรณีที่เกิดเป็นตุ่มใสตามร่างกายหรือผิวหน้า ซึ่งจะทำให้เกิดอาการคันที่ผิวหนัง แต่ไม่ควรเกาหรือเจาะตุ่มน้ำออก เนื่องจากอาจเพิ่มระดับความรุนแรงของปัญหาได้ ควรปล่อยให้ตุ่มยุบหรือแตกเองตามธรรมชาติ หรือปรึกษาแพทย์หากมีอาการที่รุนแรง


ป้องกันหน้าไหม้แดด ผิวไหม้แดด

4.ทาครีมกันแดดสม่ำเสมอ

แม้ว่าปัญหาผิวไหม้แดดจะเป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นภายหลังการเผชิญแสงแดด แต่หากมีการปกป้องผิวตั้งแต่ต้นก็จะช่วยปกป้องผิวได้ดียิ่งขึ้น ครีมกันแดดถือเป็นสกินแคร์ที่ควรทาเป็นประจำแม้ไม่ต้องเจอแสงแดดก็ตาม และควรเลือกใช้ครีมกันแดดให้เหมาะสมกับกิจกรรมที่ต้องทำในวันนั้นๆ การเลือกครีมกันแดดที่เหมาะกับสภาพผิวจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากแสงแดดได้ดีมากยิ่งขึ้น และป้องกันปัญหาหน้าไหม้แดด ผิวไหม้แดดก่อนที่จะเกิดขึ้นได้

 

5.ดื่มน้ำให้เพียงพอ

การดื่มน้ำให้เพียงพอ ช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูอาการหน้าไหม้แดดและผิวไหม้แดดได้ดียิ่งขึ้น เพราะผิวหนังของเราสูญเสียน้ำไปมากจากการโดนแดดเป็นระยะเวลานาน และร่างกายต้องการน้ำไปช่วยในการฟื้นฟูเซลล์ผิวที่ขาดน้ำ และควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพราะจะทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำมากขึ้น

 

6.ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยฟื้นฟูผิวไหม้แดด

หลังจากที่ผิวหน้าโดนแดดมาแล้วทั้งวัน อาจจะเกิดอาการหน้าไหม้แดด ทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำมากขึ้น ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในการฟื้นฟูผิวหน้าไหม้แดด หมองคล้ำ ให้กลับมาเหมือนเดิม เช่น Eucerin Even Radiance Duo Ampoules เซรั่มแอมพูลจากยูเซอริน 2 Step

  • Step ที่ 1 ช่วยจัดการเซลล์ผิวหมองคล้ำสะสมที่ต้นตอ ด้วยพลังไบรท์เทนนิ่ง 3 เท่า Niacinamide, Licorice Extract และ Vit E และเสริมพลังฟื้นฟูด้วย
  • Step ที่ 2 ที่ช่วยบูสผิวโกลว์ใส ด้วย 7 สารทรงพลัง
    1. Illumiscin สารแอนตี้ออกซิแดนส์ทรงพลัง ช่วยลดโอกาสการเกิดจุดด่างดำ
    2. Niacinamide ลดเลือนความหมองคล้ำ
    3. Vitamin C ลดจุดดำด่างดำ ช่วยให้ผิวดูสม่ำเสมอ
    4. Vitamin E เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ผิวดูกระจ่างใส
    5. Glyceryl Glucoside Hydro Boost เพิ่มการส่งผ่านน้ำในเซลล์ผิว ผิวชุ่มชื้นฉ่ำวาว
    6. Penthenol ช่วยคงสมดุลสภาพแวดล้อมในเซลล์ผิวให้ผิวชุ่มชื้นยาวนาน
    7. Zinc PCA ช่วยลดความมัน

เซรั่มผิวใส ฟื้นฟูผิวหมองคล้ำ

การป้องกันหน้าไหม้แดดและผิวไหม้แดด

เพื่อป้องกันไม่ให้หน้าและผิวตัวของเราโดนทำร้ายจนกลายเป็นผิวไหม้แดด เราจึงควรปกป้องผิวก่อนไปเที่ยวหรือไปยังสถานที่ที่มีแดดจัด โดยการ

  • ทาครีมกันแดด ควรทาครีมกันแดดที่มี SPF ตั้งแต่ 30 และ PA++ เป็นต้นไปทั้งผิวหน้าและตามตัว และควรทาครีมก่อนที่จะไปยังสถานที่ที่มีแดดจัดอย่างน้อย 30 นาที และถ้าเราอยู่ท่ามกลางแดดเป็นเวลานาน ควรทาครีมกันแดดซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง เพื่อรักษาประสิทธิภาพในการป้องกันแดดเอาไว้

เราขอแนะนำ Eucerin Sun Protection SUN SERUM SPOTLESS BRIGHTENING SPF50+ PA++++ ครีมกันแดดทาหน้าที่ช่วยปกป้องรังสี UVA/UVB ที่มาพร้อมสารทรงพลังอย่าง THIAMIDOL (ไทอามิดอล) สารไบรท์เทนนิ่งบำรุงผิวอย่างล้ำลึกเอกสิทธิ์เฉพาะจาก Eucerin ที่ช่วยลดผิวคล้ำเสีย พร้อมลดจุดด่างดำ ลดฝ้าแดดฝังลึกที่มีสาเหตุมาจากรังสี UV รวมถึง high Energy Visible Light ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดโอกาสการเกิดซ้ำเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง โดยเห็นผลอย่างชัดเจน เพื่อผิวดูกระจ่างใสใน 2 สัปดาห์

และขอแนะนำ ครีมกันแดดทาหน้าที่สามารถปกป้องรังสี UV ได้ทุกมิติอย่างมีประสิทธิภาพ อย่าง Eucerin Sun Protection SUN HYDRO PROTECT ULTRA LIGHT FLUID SPF50+PA++++ กันแดดเนื้อน้ำ บางเบาซึมไวทันที ทาแล้วไม่เหนียวเหนอะ ไม่อุดตัน ด้วย Hydro-tech Complex แต่สามารถปกป้องรังสี UVA/UVB และ Hevis Light (แสงสีฟ้า) ด้วยเทคโนโลยี Advanced Spectral Technology และผสาน Glycyrrhetinic acid ฟื้นบำรุง ระดับ DNA Protection เป็นอีกทางของการปกป้องผิวและลดการทำร้ายผิวจากแสงแดด ใช้ได้แม้ในผิวแพ้ง่าย

  • สวมเครื่องแต่งกายที่ปกปิดผิว เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายต่างๆ เช่น หมวก และแว่นตา เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว นอกจากช่วยป้องกันแสง UV ที่จะมาทำร้ายผิวหนังเราแล้ว ยังช่วยลดการสูญเสียน้ำที่เกิดจากการถูกแดดเผาโดยตรงอีกด้วย
  • หลีกเลี่ยงแดดที่รุนแรง ช่วงเวลากลางวันหรือยามบ่าย มักจะเป็นช่วงที่แสงแดดรุนแรงมาก หากหลีกเลี่ยงได้ก็ควรหลีกเลี่ยง แต่ถ้าจำเป็นต้องออกไปเผชิญกับแดดจริงๆ ควรสวมเครื่องแต่งกายป้องกันและทาครีมกันแดดปกป้องเผื่อไว้ดีกว่า

การดูแลเพื่อฟื้นบำรุงผิวไหม้แดดและหน้าไหม้แดดจำเป็นต้องอาศัยระยะเวลาในการดูแลรักษา และความสม่ำเสมอในการทาครีมบำรุงผิวเพิ่มความชุ่มชื้น ฟื้นบำรุงให้ผิวกลับมาแข็งแรงได้อีกครั้ง ในระหว่างที่พักบำรุงผิวการเลือกใส่เสื้อผ้าที่ปิดมิดชิดเมื่อต้องเผชิญกับแสงแดดเป็นระยะเวลานาน หรือมีอุปกรณ์เสริม เช่น หมวกหรือร่มในการช่วยป้องกันแสงแดดเมื่อต้องออกจากบ้าน ก็เป็นอีกหนึ่งหนทางในการช่วยปกป้องผิว สิ่งสำคัญคือควรทาครีมกันแดดเป็นประจำหรือทุกครั้งเมื่อออกจากบ้าน เพื่อช่วยปกป้องผิวยามเมื่อต้องเจอกับแสงแดด เพียงแค่นี้คุณก็สามารถสนุกได้กับทุกกิจกรรม ไม่ต้องกลัวผิวเสีย

คำถามที่พบบ่อย

อะไรเป็นสาเหตุของผิวไหม้ และฉันจะสังเกตอาการได้อย่างไร?

ผิวไหม้เกิดจากการได้รับรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) มากเกินไปจากดวงอาทิตย์หรือแหล่งกำเนิดแสงอื่นๆ ผิวไหม้แดดจะมีอาการเบื้องต้น ได้แก่ รอยแดง บวม ปวด รู้สึกอุ่น และในรายที่เป็นมากจะเป็นแผลพุพอง ผิวหนังอาจลอกขณะที่รักษา

 

ควรป้องกันผิวไหม้จากแสงแดดระหว่างทำกิจกรรมกลางแจ้ง อย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไรบ้าง?

เพื่อป้องกันผิวไหม้แดด ควรหลีกเลี่ยงการออกแดดในช่วงเวลาที่มีรังสี UV สูงสุด (10.00 น. ถึง 16.00 น.) ทาครีมกันแดดในวงกว้างที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป หากทำกิจกรรมกลางแจ้งแนะนำให้ใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 สวมชุดป้องกัน แว่นกันแดด หมวกปีกกว้าง และหาที่ร่มทุกเมื่อ เป็นไปได้

 

ปัจจัยสำคัญในการเลือกครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวจากการไหม้แดดคืออะไร?

เลือกครีมกันแดดที่ป้องกันรังสี UVA และ UVB ด้วยค่า SPF ตั้งแต่ 30 ขึ้นไป พิจารณาสูตรกันน้ำสำหรับการว่ายน้ำหรือเหงื่อออก และตรวจสอบวันหมดอายุเพื่อให้แน่ใจว่าครีมกันแดดยังใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

มีวิธีการรักษาผิวไหม้แดดแบบธรรมชาติอย่างไรบ้างที่ช่วยบรรเทาและรักษาอาการผิวไหม้จากแสงแดด?

เจลว่านหางจระเข้เป็นวิธีการรักษาตามธรรมชาติที่ได้รับความนิยมในการบรรเทาผิวไหม้จากแสงแดด เนื่องจากมีคุณสมบัติต้านการอักเสบและปลอบประโลมผิว การประคบเย็น การอาบน้ำเย็น หรืออาบน้ำเย็น และการเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์เพื่อรักษาความชุ่มชื้น สามารถช่วยบรรเทาผิวที่ไหม้แดดได้

 

ควรไปพบแพทย์เมื่อมีอาการผิวไหม้แดดเมื่อใด

ควรพบแพทย์หากคุณมีอาการผิวไหม้แดดอย่างรุนแรง โดยมีแผลพุพอง มีไข้สูง หนาวสั่น ปวดรุนแรง ขาดน้ำ หรือมีสัญญาณของการติดเชื้อ เช่น มีหนองหรือมีรอยแดงและบวมเพิ่มขึ้น

 

ผลกระทบระยะยาวที่อาจเกิดขึ้นจากผิวไหม้แดดบ่อยๆ คืออะไร?

การเกิดผิวไหม้แดดบ่อยๆ อาจนำไปสู่การแก่ก่อนวัย จุดด่างดำ และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนัง การถูกทำร้ายจากแสงแดดในระยะยาวอาจทำให้เกิดริ้วรอย ร่องลึก และสูญเสียความยืดหยุ่นของผิว

 

ควรปกป้องเด็กและทารกจากการถูกแดดเผาได้อย่างไร?

สำหรับทารกที่อายุน้อยกว่าหกเดือนควรให้ทารกหลบจากแสงแดดโดยตรง สำหรับเด็กโตขึ้นมาหน่อยสามารถเลือกครีมกันแดดสำหรับเด็ก ที่มีค่า SPF ตั้งแต่ 30 ขึ้นไป สวมชุดป้องกันแสงแดดและแนะนำให้สวมแว่นกันแดดและหมวก เพื่อปกป้องผิวที่บอบบาง

 

มีเคล็ดลับเฉพาะสำหรับการป้องกันผิวไหม้จากแสงแดดในช่วงวันหยุดพักผ่อนและไปเที่ยวทะเลหรือไม่?

สำหรับการเที่ยวทะเลและวันหยุดพักผ่อน ให้ใช้ร่มชายหาดเป็นร่มเงา ทาครีมกันแดดซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมงหรือหลังจากว่ายน้ำหรือออกกำลังให้เหงื่อออก สวมหม0วกหรือหมวกปีกกว้าง แว่นกันแดด และเสื้อผ้าที่ใช้ป้องกัน และให้ควรรักษาให้ร่างกายชุ่มชื้นด้วยการดื่มน้ำมากๆ

 

เสื้อผ้าช่วยในการป้องกันผิวไหม้แดดได้อย่างไร?

เสื้อผ้าสามารถช่วยป้องกันผิวไหม้แดดได้อย่างมีนัยสำคัญ การเลือกใช้ผ้าทอเนื้อแน่น สีเข้มหรือสีสว่าง เสื้อแขนยาวและกางเกงขายาวหากเป็นไปได้ เสื้อผ้าบางชนิดสามารถป้องกันและสะท้อนรังสีอัลตราไวโอเลตได้ในตัว (UPF) ก็ช่วยปกป้องผิวเราจากอาการไหม้แดดได้

 

วันที่มีเมฆมาก ยังคงเกิดอาการผิวไหม้แดดได้หรือไม่?

รังสี UV มากถึง 80% สามารถทะลุผ่านก้อนเมฆได้ โดยไม่จำเป็นจะต้องโดนแสงแดดโดยตรง ผิวหนังจึงยังคงถูกแดดเผาได้ในวันที่มีเมฆมาก ยังคงต้องป้องกันผิวตัวเองแม้ในขณะที่มองไม่เห็นดวงอาทิตย์หรือมีเมฆมาก

บทความเกี่ยวข้อง

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง