
ผื่นขึ้นหน้า ผื่นคัน ผื่นแดงที่ใบหน้า เป็นปัญหาที่พบบ่อยในปัจจุบัน อาจมีสาเหตุจากหลายปัจจัยเป็นตัวกระตุ้น เนื่องจากผิวหนังบริเวณใบหน้ามีโอกาสสัมผัสสารต่างๆ จำนวนมาก เช่น มลภาวะ สิ่งสกปรก สัมผัสสิ่งของที่ทำให้ระคายเคือง หรืออาจเกิดจากผิวหน้าไม่แข็งแรง นอกจากนี้ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต เช่น การทำความสะอาดผิวหน้าไม่ดีพอ การใช้ผลิตภัณฑ์และเครื่องสำอางก็สามารถทำให้พบผื่นแดงที่หน้าได้บ่อยเช่นกัน
ทำความรู้จักกับผื่นขึ้นหน้า ผื่นคันแดงที่หน้า คืออะไรฦ
ผื่นขึ้นหน้า (Rash) คือ อาการทางผิวหนังชนิดหนึ่งซึ่งมีลักษณะบวมและระคายเคืองเป็นบริเวณกว้าง ผื่นขึ้นหน้าที่เกิดขึ้นบ่อยบริเวณผิวหน้าก็คือ ผื่นแดง มีลักษณะเป็นผื่นแดงเล็กๆ คล้ายผด หรือเป็นแถบ ปื้นแตกต่างกันออกไป เวลาลูบจะรู้สึกสากที่ผิวหน้า อาจมีอาการแสบ ระคายเคือง หน้าแดง แสบหน้า ไวต่อแสงแดดและเหงื่อร่วมด้วย ซึ่งบางคนที่เป็นผื่นแดงอาจมีอาการคันยุบยิบที่ผิวหน้า หรืออาจไม่มีอาการคันขึ้นอยู่กับประเภทของผื่น นอกจากนี้อาการคัน ส่วนหนึ่งอาจเกิดจากผิวที่แห้งมาก ขาดความชุ่มชื้น และในบางรายแม้ว่าจะใช้ครีมบำรุงแล้วอาการคันก็ไม่ได้หายไป ซึ่งการดูแลรักษาเบื้องต้นอาจลองหยุดใช้เครื่องสำอาง หรือผลิตภัณฑ์ที่สงสัยว่าทำให้เกิดผื่นขึ้นหน้า เพียงเท่านี้ก็จะช่วยบรรเทาอาการผื่นขึ้นหน้าเบื้องต้นได้
สาเหตุการเกิดผื่นขึ้นหน้าเป็นผื่นแดง แห้ง
สาเหตุของการเกิดผื่นขึ้นหน้า ผื่นแดง แห้ง คัน บนใบหน้า เกิดจากสารก่อภูมิแพ้ผิวหนังหลายชนิด รวมถึงมลภาวะที่สัมผัสผิวหนังของเรา ที่พบบ่อยได้แก่
ปัจจัยภายนอก (External Factors):
- สารก่อภูมิแพ้ (Allergens) และสารระคายเคือง (Irritants):
- เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลผิว: น้ำหอม, สารกันเสีย (เช่น พาราเบน, ฟอร์มาลดีไฮด์), สี, แอลกอฮอล์, สารผลัดเซลล์ผิวบางชนิด (เช่น AHA, BHA ในความเข้มข้นสูง), หรือส่วนผสมเฉพาะที่ร่างกายตอบสนองผิดปกติ
- ผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผม: แชมพู, ครีมนวด, สเปรย์จัดแต่งทรงผม ที่อาจไหลมาสัมผัสผิวหน้า
- สารเคมีในชีวิตประจำวัน: สบู่, ผงซักฟอก, น้ำยาปรับผ้านุ่ม (จากการสัมผัสหมอนหรือผ้าเช็ดหน้า)
- โลหะ: นิกเกิล (ในเครื่องประดับ, กรอบแว่น), โครเมียม
- พืชบางชนิด: เช่น ยางจากพืชบางชนิด
- ปัจจัยสิ่งแวดล้อม:
- มลภาวะ: ฝุ่น PM2.5, ควันบุหรี่, ไอเสียรถยนต์ สามารถทำลายเกราะป้องกันผิวและกระตุ้นการอักเสบ
- สภาพอากาศ: อากาศร้อนจัดทำให้เหงื่อออกมาก อากาศเย็นและแห้งทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น
- แสงแดด (UV Radiation): ทำให้ผิวอ่อนแอ เกิดผื่นแพ้แสง หรือทำให้ผื่นบางชนิดแย่ลง
- การเสียดสีหรือการสัมผัส:
- การใส่หน้ากากอนามัยเป็นเวลานาน: ทำให้เกิดความอับชื้นและการเสียดสี
- การสัมผัสใบหน้าบ่อยๆ: โดยเฉพาะเมื่อมือไม่สะอาด
- การติดเชื้อ:
- เชื้อรา: เช่น เชื้อยีสต์ Malassezia (เกี่ยวข้องกับเซ็บเดิร์ม หรือสิวผดจากเชื้อรา)
- แบคทีเรีย: เช่น Staphylococcus aureus (อาจทำให้เกิดการติดเชื้อซ้ำเติมในผื่นภูมิแพ้)
- ไวรัส: เช่น Herpes simplex (เริม), Varicella-zoster (อีสุกอีใส/งูสวัด)
ปัจจัยภายใน (Internal Factors):
- พันธุกรรมและระบบภูมิคุ้มกัน:
- โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic Dermatitis): มักมีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคภูมิแพ้ เช่น หอบหืด แพ้อากาศ
- ระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ: อาจโจมตีเซลล์ผิวหนังตัวเอง
- โรคผิวหนังบางชนิด:
- โรคผิวหนังอักเสบจากต่อมไขมัน (Seborrheic Dermatitis - เซ็บเดิร์ม): สัมพันธ์กับการทำงานของต่อมไขมันและเชื้อรา Malassezia
- โรคโรซาเชีย (Rosacea): เกี่ยวข้องกับความผิดปกติของหลอดเลือดและการอักเสบ
- โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis): พบน้อยกว่าที่หน้า แต่ก็สามารถเกิดได้
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน: เช่น ช่วงมีประจำเดือน, ตั้งครรภ์, วัยหมดประจำเดือน
- ความเครียดและการพักผ่อนไม่เพียงพอ: ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลงและกระตุ้นการอักเสบ
- อาหาร: ในบางราย อาหารบางชนิดอาจกระตุ้นให้ผื่นแย่ลงได้ (เช่น ผลิตภัณฑ์จากนม, อาหารรสจัด) แต่ยังเป็นที่ถกเถียงและจำเพาะต่อบุคคล
- ยาบางชนิด: อาจทำให้เกิดผื่นแพ้ยา

ลักษณะของผื่นแดงบนใบหน้า
ประเภทของผื่นที่หน้า | ลักษณะอาการ | บริเวณที่พบบ่อย |
---|---|---|
ผื่นผิวหนังอักเสบจากต่อมไขมัน หรือเซ็บเดิร์ม (Seborrheic Dermatitis) | เป็นผื่นแดง คัน มีขุย พบมากบริเวณข้างจมูก คิ้ว ใบหู และหนังศีรษะมีรังแค | ข้างจมูก, คิ้ว, หัวไรผม, หลังหู, หน้าอก, หนังศีรษะ (รังแค) |
ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic Dermatitis) | มีผิวแห้ง มีผื่นแดงคันบริเวณหน้า คอ ข้อพับแขนและขา พบในผู้ที่มีกรรมพันธุ์เป็นโรคภูมิแพ้ เช่น แพ้อากาศ คันตา หอบ หืด | ใบหน้า (โดยเฉพาะแก้มในเด็ก), คอ, ข้อพับแขนขา |
ผื่นแพ้สัมผัส / ผื่นระคายสัมผัส (Contact Dermatitis) | มีผื่นแดง คันผิวหน้า อักเสบบริเวณที่สัมผัสกับสารที่แพ้ มักมีอาการหลังใช้เครื่องสำอางหรือสารที่แพ้ประมาณ 2 สัปดาห์ ถึง 3 เดือน ชนิดระคายเคือง (Irritant): แสบ แดง แห้ง ลอก เกิดหลังสัมผัสสารระคายเคืองไม่นาน (นาที-ชั่วโมง) ชนิดภูมิแพ้ (Allergic): คันมาก แดง มีตุ่มน้ำใส อาจเกิดหลังสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ 24-72 ชั่วโมง หรือนานเป็นสัปดาห์/เดือน หากสัมผัสซ้ำๆ |
บริเวณที่สัมผัสสารโดยตรง เช่น รอบดวงตาจากอายแชโดว์, แก้มจากครีม, ริมฝีปากจากลิปสติก |
ผื่นผิวหนังอักเสบชนิดโรซาเชีย (Rosacea) | พบมากในคนผิวขาว จะมีอาการหน้าแดง ตุ่มแดงอักเสบ ตุ่มหนอง หลอดเลือดฝอยขยายที่บริเวณใบหน้า โดยเฉพาะเมื่อโดนความร้อน แสงแดด หรือดื่มแอลกอฮอล์ | กลางใบหน้า เช่น แก้ม จมูก คาง หน้าผาก |
ผื่นลมพิษ (Urticaria) | ผื่นนูนแดงเป็นวงหรือปื้นคล้ายยุงกัด คันมาก ผื่นแต่ละจุดมักหายไปภายใน 24 ชั่วโมง แต่ก็อาจมีผื่นใหม่ขึ้นบริเวณอื่นได้ | เกิดได้ทั่วใบหน้าและร่างกาย |
สิวผด หรือ ผื่นคล้ายสิว (Acneiform Eruptions) | ตุ่มแดงเล็กๆ หรือตุ่มหนองคล้ายสิว แต่ไม่มีลักษณะของสิวอุดตัน (comedones) อาจเกิดจากเชื้อรา (Malassezia folliculitis) หรือการตอบสนองต่อยาบางชนิด | หน้าผาก, กรอบหน้า, หน้าอก, หลัง ส่วนใหญ่บริเวณที่มีต่อมไขมันมาก |
ผื่นแพ้แสง (Photodermatitis) | ผื่นแดง คัน หรือมีตุ่มน้ำ เกิดหลังสัมผัสแสงแดด อาจเกิดจากปฏิกิริยาต่อยาหรือสารเคมีบางชนิดร่วมกับแสงแดด | บริเวณที่โดนแสงแดดโดยตรง เช่น หน้าผาก โหนกแก้ม สันจมูก แขน ขา |
เมื่อไหร่ควรไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ?
แม้ว่าผื่นบางชนิดอาจดูแลให้หายได้เอง แต่มีสัญญาณบางอย่างที่บ่งบอกว่าคุณควรปรึกษาแพทย์ผิวหนัง:
- ผื่นเกิดขึ้นเฉียบพลันและลุกลามอย่างรวดเร็ว
- มีอาการรุนแรง เช่น คันมากจนนอนไม่หลับ, เจ็บปวด, มีตุ่มน้ำพองขนาดใหญ่, ผิวหนังบวมมาก
- มีอาการทางระบบร่วมด้วย เช่น มีไข้, ต่อมน้ำเหลืองโต, ปวดข้อ
- ผื่นไม่ดีขึ้นหรือไม่หายภายใน 1-2 สัปดาห์ แม้จะดูแลตนเองเบื้องต้นแล้ว
- สงสัยว่าแพ้ยาหรือผลิตภัณฑ์ที่ใช้
- ผื่นส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันหรือความมั่นใจอย่างมาก
- ไม่แน่ใจว่าผื่นที่เกิดขึ้นคืออะไร หรือดูแลอย่างไรให้ถูกต้อง
วิธีรักษาผื่นขึ้นหน้า ผื่นแดงคันบนใบหน้า
1. หาสาเหตุและหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดผื่นแพ้บนใบหน้า
ควรดูส่วนประกอบว่ามีสารตัวไหนที่ไม่เคยเจอมาก่อนในผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพราะใบหน้าอาจแพ้สารตัวนั้นจนเป็นผื่น นอกจากนี้แม้จะเป็นครีมบำรุงผิวที่ใช้อยู่เป็นประจำก็ควรหยุด เพราะสารต่างๆ อาจไปขัดขวางการรักษาอาการแพ้ ดังนั้นเพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างราบรื่นควรหยุดใช้เครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวทุกชนิดทันที
2. ทำความสะอาดผิวหน้าด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิว
เพราะใบหน้าที่มีอาการแพ้จนเป็นผื่น บริเวณผิวหน้าจะระคายเคืองง่ายมาก จึงทำให้หลายคนเกิดคำถามว่าหน้าเป็นผื่นคันใช้อะไรดีสำหรับการทำความสะอาดผิว เราขอแนะนำว่าควรทำความสะอาดด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ช่วยรักษาสมดุลผิวให้อยู่ที่ pH 5 เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเพื่อให้ผิวแข็งแรง ไม่ไวต่อการระคายเคือง
3. งดเว้นการพอกหน้า การมาส์ก เพื่อป้องกันการรบกวนผิว
ควรงดกิจกรรมที่จะเป็นการรบกวนใบหน้าของเราให้มากที่สุด เช่น การมาส์กหน้า มักจะทำให้ผิวแห้งมากกว่าเดิม ซึ่งเป็นการกระตุ้นให้เกิดการระคายเคือง แพ้หนักมากขึ้น

4. ควรพบแพทย์เพื่อการรักษาผื่นขึ้นหน้า ผื่นแดงคัน ที่ถูกต้อง
ทดสอบภูมิแพ้ผิวหนังด้วยวิธีปิดสารทดสอบบนผิวหนัง (Patch test) โดยนำผลิตภัณฑ์ที่สงสัยว่าทำให้เกิดผื่นแดงบนใบหน้ามาทดสอบด้วยการใช้ครีมบำรุงสูตรเฉพาะ : ซึ่งสำหรับผู้มีปัญหาผิวแห้ง ผื่นขึ้นหน้า ผื่นแดง คัน จากผิวที่มีแนวโน้มเป็นผื่นภูมิแพ้และผิวที่ระคายเคืองง่าย ควรใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมช่วยปลอบประโลมผิว ลดการระคายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีนวัตกรรมช่วยฟื้นบำรุงผิว
การป้องกันผื่นขึ้นหน้า ผื่นแดงคันบนใบหน้า
การป้องกันผื่นขึ้นหน้า สิ่งสำคัญคือการเสริมความแข็งแรงและความชุ่มชื้นให้กับผิว อย่างการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิว
เจลล้างหน้า : ผลิตภัณฑ์ pH5 SENSITIVE SKIN FACIAL CLEANSER สำหรับผิวบอบบางแพ้ง่าย ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างอ่อนโยน พร้อมกักเก็บความชุ่มชื้นและปรับสมดุลให้ผิวหน้าด้วย pH Balance System ช่วยเสริมเกราะปกป้องผิว ปราศจากสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง พาราเบน น้ำหอม และแอลกอฮอล์
ครีมบำรุงผิวหน้า : ผลิตภัณฑ์ Omega Balm เป็นโอเมก้า ออยล์ ผสานสารสกัดจากธรรมชาติ ลิโคชาลโคน เอ (Licochalcone A) มีประสิทธิภาพในการฟื้นบำรุงผิวที่ถูกทำร้าย ลดอาการเห่อแดง คันและคืนความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ปราศจากสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ทั้งยังเป็นสูตรอ่อนโยนสามารถใช้แม้เป็นผิวไวต่อการระคายเคืองจนถึงผิวเด็ก
เสริมเกราะปกป้องผิว : ผลิตภัณฑ์ UltraSENSITIVE Repair Cream มีสารสำคัญที่ช่วยลดปัญหาผิวระคายเคืองที่เกิดจากปัญหาผิวแห้งระคาย แดง แสบหน้า ผิวแห้งคันบนใบหน้า มีสัมผัสเป็นเนื้อครีมเข้มข้น ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้น แต่ไม่เหนอะหนะและไม่อุดตันผิว เบาสบายทันทีที่ใช้ มาพร้อมนวัตกรรมฟื้นบำรุงและเสริมเกราะปกป้องผิวกลับมาแข็งแรง อย่าง Barrier Repair Inovation ที่ผสานสารสกัดอย่าง Symsitive, Licochalcone A และ Dexpanthenol ช่วยลดการระคายเคือง แสบ คัน ใบหน้า ภายใน 2 ชั่วโมง ทำให้ผิวหน้าเรียนเนียนใสสุขภาพดี พร้อมเผชิญทุกสภาวะทำร้ายผิว
ผื่นขึ้นหน้า ผื่นแดงคัน หน้าแห้ง เกิดได้จากหลายสาเหตุ เราสามารถรักษาและป้องกันได้ด้วยการหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่างๆ ทั้งมลภาวะ สิ่งสกปรก รวมไปถึงการใช้ผลิตภัณฑ์และเครื่องสำอางที่ไม่เหมาะกับสภาพผิว ดังนั้นจึงควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ฟื้นบำรุงผิวที่เหมาะกับสภาพผิวและปัญหาผิวที่เกิดผื่นแดง คัน ซึ่งทำให้หน้าแห้ง เพื่อผิวหน้าแข็งแรงปราศจากผื่นแดงมากวนใจ
เอกสารอ้างอิง
https://www.healthline.com/health/rashes
https://www.si.mahidol.ac.th/sirirajdoctor/article_detail.aspx?ID=920
https://www.aad.org/public/everyday-care/skin-care-secrets/face/facial-redness
https://my.clevelandclinic.org/health/diseases/17413-rashes-red-skin