ผิวพรรณ

10 วิธีรักษาผิวพรรณให้ดี ในทุกช่วงวัย

อ่านแล้ว 2 นาที
แสดงบทความเพิ่มเติม

นอกจากใบหน้า และรูปร่างที่ดีแล้ว ผิวพรรณที่ดีเองก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้ใครหลาย ๆ คนได้ แต่การจะมีผิวพรรณที่ดีนั้นไม่ง่ายเลยในยุคนี้ เพราะมีปัจจัยหลายอย่างที่คอยทำร้ายผิวอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็น มลภาวะในอากาศ, แสงแดด, คาเฟอีน รวมทั้งความเครียด สิ่งเหล่านี้จะทำให้ให้ผิวสูญเสียคอลลาเจนที่ช่วยให้ผิวเปล่งปลั่งสุขภาพดี ส่งผลให้ผิวดูไม่กระจ่างใส หมองคล้ำ มีปัญหาริ้วรอยผิวหย่อนคล้อย และดูแก่กว่าวัย

ความสำคัญ ในการดูแลผิวพรรณ

นอกจากผิวสวยสุขภาพดีที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าแล้ว ผิวยังสามารถสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาที่อยู่ภายในได้อีกด้วย อย่างอาการผิวแห้งเป็นขุย, ผิวระคายเคือง ไปจนถึงอาการแสบแดง หมายความว่าผิวอาจถูกทำร้ายมาแล้วหลายวันก่อนจะเห็นถึงสัญญาณที่ปรากฏขึ้นมาบนผิวเหล่านี้ได้ ซึ่งการดูแลผิวพรรณให้สุขภาพดีนั้นถือเป็นเกราะป้องกันผิวจากสิ่งเร้าภายนอกรวมทั้งโรคผิวหนังต่าง ๆ ได้ดี ถือเป็นสิ่งแรกที่ควรทำในการดูแลผิวพรรณเลย

การดูแลผิวพรรณ ในแต่ละช่วงวัย

วัยรุ่น

สิวปัญหายอดฮิตของคนทุกวัย โดยเฉพาะในวัยรุ่น คือปัญหาสิว สิวมักเกิดขึ้นบริเวณใบหน้าของวัยรุ่นมากกว่าช่วงวัยอื่น ๆ เนื่องมาจากฮอร์โมนเพศที่เปลี่ยนแปลงในช่วงวัยรุ่น ส่งผลต่อต่อมไขมันบริเวณผิว รวมทั้งปัญหารอยดำ รอยแดงจากสิวที่ตามมาก็สร้างความหนักใจให้คนในวัยนี้ไม่น้อย

Tips: ควรทำความสะอาดใบหน้าอย่างถูกวิธีเป็นประจำวันละ 2 ครั้ง ใช้เจลแต้มสิว รวมถึงมอยเจอร์ไรเซอร์ในการดูแลผิว และไม่ควรแกะ เกา บีบ บริเวณที่เป็นสิว เพราะอาจทำให้สิวอักเสบรุนแรงมากขึ้น หายช้า หายแล้วอาจมีแผลเป็น รอยดำ รอยแดง และหลุมสิวได้

 

วัยทำงาน

มักพบเจอปัญหาหน้าหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ และริ้วรอยก่อนวัย ผิวของคนวัยทำงานมักเสื่อมสภาพเร็วขึ้นจากปัจจัยเหล่านี้ เช่น แสงแดด, แสงจากจอคอมพ์, การพักผ่อนไม่เพียงพอ, ความเครียด รวมทั้งการแสดงอารมณ์ผ่านสีหน้า เช่น การย่นหน้าผาก, ขมวดคิ้ว หากทำบ่อย ๆ สามารถส่งผลให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยได้

Tips: ควรทามอยเจอร์ไรเซอร์ที่ช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัย และทำหัตถการดูแลผิวหนังควบคู่ไปด้วย และอย่าลืมทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกไปที่กลางแจ้ง

 

วัยผู้ใหญ่

ปัญหาที่มาคู่กับผู้ใหญ่ก็คือ ริ้วรอยบนใบหน้า, ร่องลึก, ความหย่อนคล้อย และฝ้า จึงเป็นช่วงวัยที่มีความกังวลเรื่องผิวพรรณมากที่สุด เพราะอายุที่มากขึ้นจึงทำให้ Collagen เสื่อมสลาย ทำให้ผิวมีความหย่อนคล้อย ไม่กระชับเหมือนในวัยอื่น ๆ ทำให้เกิดริ้วรอยบริเวณใบหน้า เช่น ร่องแก้ม, หน้าผากย่น, ริ้วรอยใต้ตา และใบหน้าเหี่ยวย่นดูมีอายุ นอกจากนี้ผู้หญิงที่มีอายุมากขึ้นผิวจะผลิตเม็ดสีเมลานินน้อยลง เพราะฮอร์โมนเอสโทรเจนลดลง เมื่อเผชิญกับแสงแดด จะกระตุ้นให้เมลานินทำงานหนักมากขึ้น ทำให้เกิดฝ้า และจุดด่างดำได้ง่ายกว่าวัยอื่น ๆ

Tips: ควรใช้ครีมลดริ้วรอย หรือทำหัตถการควบคู่กันไปด้วยจึงจะเห็นผล และปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อปรึกษาการรับฮอร์โมนทดแทนในวัยทอง

10 วิธีที่ช่วยให้ผิวพรรณดี

 วิธีที่ช่วยให้ผิวพรรณดี

1. ดื่มน้ำเปล่าจุดเริ่มต้นสร้างผิวสวย

ผิวชุ่มชื้นนอกจากจะได้จากการทามอยส์เจอร์ไรเซอร์หรือครีมบำรุงแล้ว ยังสามารถทำได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องลงทุนอะไรมากเลยอย่างการดื่มน้ำให้เพียงพอต่อวัน นอกจากจะช่วยในเรื่องผิวชุ่มชื้นแล้ว ยังเป็นแนวทางในป้องกันภาวะขาดน้ำในร่างกายได้อีกด้วย ดังนั้นคนเราควรได้รับปริมาณน้ำ 100 – 150 มิลลิลิตร ต่อ 100 กิโลแคลอรี่ของพลังงานที่ได้รับต่อวัน

 

2. เน้นทานผักผลไม้บำรุงผิวจากภายใน

เติมอาหารผิวด้วยการทานผักผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาติที่ช่วยบำรุงผิวพรรณให้ดูเปล่งปลั่ง กระจ่างใส ทั้งยังช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ผิวและร่างกายอีกด้วย เช่น วิตามินซี, วิตามินเอ, วิตามินบี, สารต้านอนุมูลอิสระ, โพแทสเซียม และธาตุเหล็ก หากใครไม่ชอบทานผักผลไม้โดยตรง อาจเลือกดื่มน้ำผลไม้สกัดเย็น หรือสมูทตี้แทนเพื่อให้ทานได้ง่านขึ้น

 

3. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอถือเป็นการดูแลสุขภาพผิวพรรณที่ง่ายที่สุด และไม่ต้องเสียตังค์เลย เพราะระหว่างนอนหลับร่างกายจะซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ช่วยสร้างเซลล์ใหม่ ช่วยฟื้นฟูผิวที่เหนื่อยล้า และถูกทำร้ายมาตลอดทั้งวัน เพราะฉะนั้นควรนอนอย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง ไม่ควรนอนเกิน 4 ทุ่ม เพราะการนอนดึกจะส่งผลให้ฮอร์โมนที่ดีต่อผิวหลายชนิดไม่หลั่ง ทำให้ผิวพรรณดูหมอง ไม่สดใส หน้าโทรม ร่างกายอ่อนเพลีย ไม่พร้อมสำหรับเริ่มเช้าวันใหม่ในวันต่อไป

 

4. ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ หรือครีมบำรุงผิวพรรณ

การทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่เหมาะกับปัญหาผิว ถือเป็นการบำรุงผิวที่ตรงจุด และได้ผลไวที่สุดแต่ต้องทำควบคู่ไปกับวิธีอื่น ๆ ด้วย จึงจะได้ประสิทธิภาพสูงสุด อย่างการขัดผิว หรือสครับผิวก่อนทาครีมบำรุงผิว เพราะการขัดผิวจะช่วยให้ครีมซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างล้ำลึก แต่จะเลือกมอยส์เจอร์ไรเซอร์แบบไหนให้เหมาะกับผิวสภาพผิว

  • ผิวมัน : ผิวหน้ามีลักษณะมันวาว สามารถเกิดขึ้นได้ทั่วทั้งใบหน้า หรือเฉพาะบริเวณทีโซน เนื่องมาจากต่อมไขมันถูกกระตุ้นให้ทำงานมากกว่าปกติ จนสร้างน้ำมันมาเคลือบผิวมากเกินไป ควรเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์ที่ให้ความชุ่มชื้นแต่ปราศจากน้ำมัน (Oil free) และไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน (Non-comedogenic) เพื่อลดปัจจัยที่ก่อให้เกิดสิวจากการอุดตันของรูขุมขนได้
  • ผิวแห้ง : ผิวหน้ามีลักษณะแห้ง แตกลอกเป็นขุย อาจจะมีอาการแสบคันร่วมด้วย หากผิวหน้าแห้งกร้านมาก ๆ เนื่องมาจากชั้นผิวหนังมีการสูญเสียน้ำมากเกินไป หรืออาจมีอาการระคายเคืองจากเครื่องสำอาง และสารเคมีบางอย่าง จึงควรใช้ครีมบำรุงผิวที่มีมอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีความเข้มข้นสูง มีส่วนผสมของ กลีเซอรีน หรือเชียบัตเตอร์
  • ผิวผสม : มีลักษณะมันในบางจุด เช่น บริเวณทีโซน และมีผิวแห้งเป็นขุยในบางจุด เช่น บริเวณหน้าแก้ม หรือกราม เนื่องมาจาก พันธุกรรม, ฮอร์โมน และปัจจัยภายนอก ควรใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ตามปัญผิวที่พบในแต่ละจุดบนใบหน้า เช่น บริเวณทีโซนควรใช้ เจลครีม หรือเจลบำรุงผิวหน้า งดเว้นครีมที่มีเนื้อสัมผัสหนัก ๆ และบริเวณที่หน้าแห้งควรใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีความเข้มข้นสูง
  • ผิวแพ้ง่าย : มีลักษณะแพ้ทันทีหากมีสิ่งเร้ามากระตุ้น เช่น สภาพอากาศที่เปลี่ยนไป, การสัมผัสใบหน้าแรง ๆ, เครื่องสำอาง และสารเคมีบางชนิด เนื่องมาจากเกราะป้องกันผิวหนัง (Skin barrier) ที่อ่อนแอลง ทำให้ผิวถูกกระตุ้นจากปัจจัยภายนอกทำให้เกิดการระคายเคืองที่ผิวหนังได้ เช่น ผิวแสบแดง, ผิวแห้งขุย สิวเห่อ รวมถึงตุ่มนูนบริเวณผิวหนัง จึงควรเลือกใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ที่ปราศจากน้ำหอม, แอลกอฮอล์, พาราเบน , สีสังเคราะห์ และสารซัลเฟต

 

5. วิตามินซีช่วยผิวใส

วิตามินซีถือเป็นอาหารเสริมที่ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรง ส่งผลให้ไม่ป่วยหรือเป็นหวัดได้ง่าย และยังช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือด ทำให้ผิวพรรณดูสวยดูสุขภาพดี สดใส เปล่งปลั่ง ทั้งยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความแก่ และลดการเกิดริ้วรอยอีกด้วย

 

6. หัตถการดูแลผิวพรรณ

หัตถการทางความงาม คือ การเสริมความงามด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ ที่ต้องทำโดยแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ

  • โบท็อกซ์ (Botox) เป็นการฉีดเพื่อสลายกล้ามเนื้อเพื่อลดขนาดกราม และลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า หากฉีดอย่างต่อเนื่องตามระยะเวลาที่กำหนด มีโอกาสที่จะป้องกันริ้วรอยระยะยาวได้
  • ฟิลเลอร์ (Filler) เป็นการเติมสารเข้าไปเพิ่มเติมเต็มผิว เพื่อช่วยเติมแต่งบริเวณต่าง ๆ ให้ดูเต็มขึ้น อย่างบริเวณที่มีริ้วรอย เช่น ร่องแก้ม, ขมับ, หน้าผาก, รอบดวงตา หรือเพื่อความงาม เช่น ริมฝีปาก และคาง เป็นต้น
  • HIFU (High Intensity Focus Ultrasound) เป็นเทคโนโลยีช่วยกระชับผิวด้วยคลื่นอัลตราซาวด์เข้มข้นสูง ทำได้ทุกบริเวณในร่างกาย ช่วยให้ผิวยกกระชับ, เต่งตึงขึ้น, ไม่หย่อนคล้อย และช่วยให้หน้าเรียวขึ้น
  • Ulthera (Ultherapy) เป็นเทคโนโลยียกกระชับที่ใช้คลื่นเสียงความถี่สูง ช่วยลดความหย่อนคล้อย และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ชั้นผิว สามารถทำได้ทั้งบริเวณใบหน้าและลำคอ ช่วยให้ผิวเต่งตึงกระชับ, ลดเลือนดริ้วรอย และผิวพรรณดูอ่อนเยาว์ลง

ปัจจัยที่ทำร้ายผิวพรรณที่ควรระวัง

  • แสงแดด แสงแดดจากดวงอาทิตย์ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ผิวเสียหายและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดริ้วรอย ผิวหมองคล้ำและอาการผิวแห้ง การใช้ครีมกันแดดป้องกันแสงแดดจึงเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลผิวจากแสงแดด
  • ความเครียด ความเครียดสามารถทำให้ผิวแห้ง และทำให้เกิดสิวขึ้นได้ ควรหากิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลายอย่างการ การฝึกโยคะ,การทำสมาธิ,การบำบัดร่างกายที่ทำให้จิตใจสงบ
  • อาหาร การบริโภคอาหารที่มีประโยชน์ อย่างการเลือกรับประทานผักและผลไม้ที่มีส่วนช่วยในการดูแลผิว เช่น เเครอทเเละมะเขือเทศที่มีเบต้าเเคโรทีน ช่วยซ่อมเเซมผิวให้กลับมาเเข็งเเรงได้

 

การมีผิวพรรณที่ดีนั้นต้องอาศัยการบำรุง และดูแลผิว เริ่มตั้งแต่ภายในสู่ภายนอก โดยเฉพาะการดูแลผิวภายในที่สามารถทำได้เองโดยแทบไม่ต้องลงทุนอะไรมากเลย เช่น การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ, ทำจิตใจให้แจ่มใสอยู่เสมอ, ทานอาหารที่มีประโยชน์ และดื่มน้ำในปริมาณที่พอเหมาะต่อวัน เพียงเท่านี้ผิวพรรณก็จะดูสวยสดใส สุขภาพดีไปอีกขั้นนึงแล้ว

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง